วันนี้ (14 ก.ค.2568) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เปิดเผยถึงกรณีเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยและผู้สนับสนุนเตรียมปักหลักชุมนุมค้างแรมที่หน้าสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขในวันที่ 16 ก.ค. ว่าไม่มีความกังวลในเรื่องนี้ พร้อมอัปเดตความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2568 ระบุกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ประชุมร่วมกับสมาคมธุรกิจกัญชาในวันนี้ ซึ่งให้ติดตามรายละเอียดจากอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ
นายสมศักดิ์กล่าวถึงแนวโน้มการนำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติดว่า ต้องพิจารณาผลกระทบต่อเยาวชน นักท่องเที่ยว และภาพรวมของประเทศ ย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้สนับสนุนให้สูบกัญชาเพื่อสันทนาการ เมื่อถามถึงการเปรียบเทียบกัญชากับใบกระท่อม ที่มีการนำไปทำน้ำกระท่อมผสมสารเสพติด รมว.สธ.กล่าวว่า สิ่งใดผิดกฎหมายต้องถูกจับกุม หากนำกระท่อมไปผสมสารเสพติดหรือวัตถุออกฤทธิ์ถือเป็นความผิด ส่วนของบริสุทธิ์ที่ไม่ผสมสารอื่นไม่ถือเป็นยาเสพติด แต่หากมีการผสมเพื่อให้เป็นสารเสพติดจะผิดกฎหมายทั้งหมด
สำหรับความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมาย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านกัญชาทั่วประเทศในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา รวม 1,565 ร้าน พบการกระทำผิดและดำเนินการดังนี้ พักใช้ใบอนุญาต 82 ราย, เพิกถอนใบอนุญาต 5 ราย เนื่องจากผิดเงื่อนไขร้ายแรง, จับกุมดำเนินคดี 7 ราย จากการจำหน่ายโดยไม่มีใบอนุญาต
ผิดเงื่อนไขประกาศกระทรวง เช่น ไม่รายงานผลการดำเนินการ 209 ราย, จัดทำโฆษณาไม่เหมาะสม 44 ราย, สูบกัญชาในสถานประกอบการ 4 ราย, จำหน่ายให้ผู้ไม่มีใบสั่งแพทย์ 1 ราย, และจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ 3 ราย
นอกจากนี้ ยังตรวจยึดของต้องสงสัยช่อดอกกัญชา 3 ครั้ง รวม 13 ราย และสกัดกั้นการลักลอบส่งออกกัญชาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง จับกุมผู้กระทำผิด 32 ราย พร้อมของกลาง 940.93 กิโลกรัม
นายสมศักดิ์ย้ำว่า ได้กำชับให้หน่วยงานลงพื้นที่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การใช้กัญชาเป็นไปตามเจตนารมณ์ทางการแพทย์ 100% และหากพบการฝ่าฝืนจะดำเนินการทันที ผู้ที่ต้องการคำปรึกษาสามารถติดต่อกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
นอกจากนี้ ในวันที่ 16 ก.ค. กรมการแพทย์แผนไทยฯ จะจัดอบรมผู้สั่งจ่ายกัญชาทั้งรูปแบบออนไลน์และออนไซต์ สำหรับ 7 กลุ่มวิชาชีพตามประกาศกระทรวงฯ ตั้งเป้าอบรม 2,000 คน เพื่อให้สามารถวินิจฉัยและออกใบสั่งจ่ายกัญชาได้
ส่วนวันที่ 17 ก.ค. จะอบรมผู้ประกอบการจำหน่ายช่อดอกกัญชา ตั้งเป้า 80,000 คน โดยผู้สั่งจ่ายที่ผ่านการอบรมและขึ้นทะเบียนกับกรมการแพทย์แผนไทยฯ จะสามารถสั่งจ่ายกัญชาตามแบบ ภ.ท.33 สำหรับผู้ป่วย 5 กลุ่มอาการ ได้แก่ นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร ปวดเรื้อรัง มะเร็ง ไมเกรน พาร์กินสัน รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีประวัติใช้กัญชาทางการแพทย์
อ่านข่าวอื่น :
ลาสิกขาแล้ว อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ปมเงิน 12 ล้านเอี่ยว สีกา ก.
สมัครเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ "ภูริกา" พท.เบอร์ 1 "จินณ์ตวรรณ" ภท.เบอร์ 2