วันนี้ (21 ก.ค.2568) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเงินสด 10 ล้านบาทและทองคำ 250 บาท รวมมูลค่ากว่า 22 ล้านบาทของพระราชวัชรพัฒนาทร (เจ้าคุณณรงค์) เจ้าอาวาสวัดม่วง แขวงหลักสอง เขตบางแค ที่แจ้งความว่าหายจากกุฏิตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.2568
ล่าสุดได้รับรายงานว่าพบทองบางส่วนแล้ว แต่ยังไม่ทราบจำนวนแน่ชัด โดยเจ้าอาวาสอ้างว่าหลงลืม ไม่ได้ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ และอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินทุกบัญชีของวัดและเจ้าอาวาสอย่างละเอียด เนื่องจากพบว่ามีเงินเกินตัวและบัญชีหลายบัญชีที่ยังไม่ชัดเจน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า คดีนี้เป็นเป้าหมายสำคัญของตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เนื่องจากเจ้าอาวาสบริหารเงินวัดโดยตรง โดยไวยาวัจกรไม่มีอำนาจควบคุม ตำรวจกำลังตรวจสอบที่มาของรายได้และการบริหารเงิน หากพบความผิดปกติ เช่น การยักยอกหรือแจ้งความเท็จ อาจนำไปสู่การดำเนินคดีอาญา
ส่วนข้อมูลจากพระนิทัศน์ ประเสริฐ อดีตพระคนสนิทและคู่ขัดแย้งของเจ้าอาวาสที่นำพยานหลักฐานมามอบให้ ตำรวจรับไว้เป็นข้อมูลประกอบเพื่อตรวจสอบต่อ โดยยังไม่ยึดเป็นประเด็นหลัก
พระนิทัศน์ซัด เงิน-ทองไม่หาย เจ้าอาวาสอาจใช้ส่วนตัว
ด้านพระนิทัศน์ กล่าวว่าไม่เชื่อว่าทรัพย์สินมูลค่า 22 ล้านบาทถูกขโมย แต่เชื่อว่าเจ้าอาวาสอาจนำไปใช้จ่ายส่วนตัว หากตำรวจพิสูจน์ได้ว่าเป็นการแจ้งความเท็จ เจ้าอาวาสอาจต้องรับโทษอาญาในข้อหาแจ้งความเท็จ และหากพบว่าเงินที่ใช้ซื้อทองมาจากเงินวัด จะเข้าข่ายยักยอกทรัพย์ ซึ่งผิดวินัยสงฆ์ถึงขั้นอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นสงฆ์ ส่วนการแจ้งความเท็จเพียงอย่างเดียว ผิดวินัยสงฆ์ในระดับอาบัติปาจิตตีย์ ซึ่งเป็นโทษเบา
ปัจจุบัน พระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง ยังคงเก็บตัวเงียบในกุฏิ ไม่รับกิจนิมนต์ใด ๆ และมอบหมายให้ผู้ช่วยเจ้าอาวาสทำหน้าที่แทนในพิธีสำคัญ เช่น วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา
ตำรวจ บก.ปปป. ยังคงเดินหน้าสอบสวน โดยมุ่งตรวจสอบบัญชีวัดและบัญชีส่วนตัวของเจ้าอาวาส รวมถึงพฤติกรรมที่ส่อพิรุธ เพื่อหาความจริงเกี่ยวกับที่มาของทรัพย์สินและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อ่านข่าวอื่น :
"บิ๊กเต่า" เผยเส้นเงิน "ทิดสฤษดิ์" โยงสีกา 2 คน เร่งสอบทุนสร้างพุทธอุทยาน
สั่งเพิ่มความระมัดระวัง เวทีลิเกกลางเจ้าพระยา หลังเขื่อนระบายน้ำเพิ่ม