วันนี้ (22 ก.ค.2568) สหรัฐอเมริกาเผชิญภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งรุนแรงแห่งปีจนได้รับฉายาว่า "ปีแห่งน้ำท่วม" จากปริมาณฝนที่สูงเป็นประวัติการณ์และน้ำท่วมฉับพลันทั่วประเทศ กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ (NWS) ออกประกาศเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลันถึง 3,358 ครั้ง ณ วันที่ 20 ก.ค.2568 ซึ่งสูงกว่าสถิติเดิมในปี 2541 ถึง 250 ครั้ง และเกินค่าเฉลี่ยรายปีถึง 2 เท่า
ข้อมูลจากสื่อสหรัฐฯ Timesnownews พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักสุดคือ Texas Hill Country โดยเฉพาะ Kerr County ซึ่งเกิดน้ำท่วมฉับพลันจากแม่น้ำกัวดาลูเปในช่วงวันชาติ 4 ก.ค.2568 คร่าชีวิตอย่างน้อย 145 คน โดย 107 คนอยู่ใน Kerr County และมีผู้สูญหาย 8 คน แม่น้ำกัวดาลูเปที่เมือง Hunt พุ่งสูง 26 ฟุตใน 45 นาที และทำสถิติสูงสุดที่ 37.52 ฟุต
นับเป็นน้ำท่วมที่ร้ายแรงที่สุดนอกเหนือจากพายุหมุนเขตร้อนนับตั้งแต่ปี 2519 นอกจากเท็กซัส รัฐนิวเม็กซิโก, ชิคาโก, นครนิวยอร์ก, นอร์ทแคโรไลนา, นิวเจอร์ซีย์ และเวอร์มอนต์ ซึ่งเผชิญน้ำท่วมรุนแรงเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 3 ปี ก็ได้รับผลกระทบหนัก
เว็บไซต์ Carbon Brief Clear on Climate เปิดเผย สาเหตุและปัจจัยจากนักวิทยาศาสตร์ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นตัวขยายความรุนแรงของน้ำท่วม หลักการ Clausius-Clapeyron ชี้ว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส เพิ่มความชื้นในอากาศได้ร้อยละ 7 ซึ่งสอดคล้องกับความชื้นที่สูงขึ้นในเหตุการณ์เท็กซัสเมื่อเทียบกับอดีต ระบบพายุเคลื่อนตัวช้าและความชื้นจากอ่าวเม็กซิโกที่สูงผิดปกติ รวมถึงลักษณะภูมิประเทศของ Hill Country ที่มีดินแห้งและเนินชัน ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ที่เรียกว่า "Flash Flood Alley" ภัยแล้งก่อนหน้านี้ยิ่งทำให้ดินดูดซับน้ำได้น้อยลง
CBS news รายงานผลกระทบโศกนาฏกรรมที่ Camp Mystic ค่ายฤดูร้อนสำหรับเด็กผู้หญิงใน Kerr County สร้างความสะเทือนใจ มีเด็กและที่ปรึกษาค่ายเสียชีวิตจำนวนมาก รวมถึงผู้บริหารค่ายที่พยายามช่วยเหลือ ค่ายตั้งอยู่ในเขตน้ำท่วมถึง (floodplain) ห่างจากแม่น้ำไม่ถึง 500 ฟุต ทำให้ห้องพักถูกน้ำท่วมอย่างรวดเร็ว

ด้านเศรษฐกิจ ความเสียหายประเมินไว้ที่ 18,000 - 22,000 ล้านดอลลาร์ ภาคเกษตรและปศุสัตว์เสียหายหนัก พืชผลและโครงสร้างพื้นฐานพังยับ อุปกรณ์การเกษตรถูกพัดไป และปศุสัตว์ตายจำนวนมาก เกษตรกรที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเชิงเกษตรหรือไร้ประกันพืชผลได้รับผลกระทบรุนแรง เช่น ฟาร์มนกกระจอกเทศที่ไข่เสียหายจากฝนและโคลน
การตอบสนองและวิจารณ์การจัดการภัยพิบัติของรัฐบาลทรัมป์ถูกวิพากษ์อย่างหนัก โดยสื่ออย่าง The Equation ระบุว่าแม้ ปธน.ทรัมป์ จะอนุมัติประกาศภัยพิบัติสำหรับ Kerr County แต่ FEMA ภายใต้การนำของ คริสตี โนเอม ถูกวิจารณ์ว่าไร้ประสิทธิภาพ นโยบายที่กำหนดให้โนเอม อนุมัติสัญญาเกิน 100,000 ดอลลาร์ ก่อให้เกิดความล่าช้า การตัดพนักงานศูนย์รับสายของ FEMA ทำให้ผู้รอดชีวิตติดต่อได้ยาก อัตราการรับสายลดเหลือร้อยละ 36 ในวันที่ 6 ก.ค. และ ร้อยละ 16 ในวันที่ 7 ก.ค.

การลดพนักงาน NWS ยังถูกตั้งคำถามถึงผลกระทบต่อการแจ้งเตือน แม้ NWS จะออกคำเตือนล่วงหน้า แต่การแจ้งเตือน CodeRED ล่าช้า 90 นาที และบางรายได้รับช้า 6 ชั่วโมง Kerr County ขาดระบบไซเรนเตือนภัย และคำขอเงินทุนสร้างระบบถูกปฏิเสธจากข้อจำกัดด้านแผนภัยพิบัติ
Camp Mystic ถูกวิจารณ์ว่าได้รับการยกเว้นจากแผนที่น้ำท่วม 100 ปีของ FEMA ทำให้ขยายตัวในพื้นที่เสี่ยง อดีตผู้บริหาร FEMA ระบุว่านโยบายรัฐบาลทรัมป์ "ทำลาย" ระบบจัดการภัยพิบัติ ส่งผลให้รัฐและผู้รอดชีวิตขาดทรัพยากรในการรับมือภัยพิบัติ

แหล่งที่มาข้อมูล : NBC, CBS news
อ่านข่าวอื่น :