"พายุวิภา" ถล่มลาว ฝนตกหนัก-น้ำป่าหลาก รถไฟไปจีน หยุดให้บริการ

วันนี้ (23 ก.ค.2568) ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในประเทศลาว โพสต์เหตุการณ์น้ำป่าและโคลนจากภูเขาไหลหลากลงมาปิดทับเส้นทางหมายเลข 13 หลวงพระบาง - พูคูน โดยระบุว่า บริเวณกิ่วหมากนาว เมืองเซียงเงิน รถไม่สามารถสัญจรได้ เพราะมีน้ำป่าไหลแรง

ส่วนที่บริเวณสะพานวังก่อ เมืองคำเกิด แขวงบอลิคำไซ ระดับน้ำสูงมิดสะพานจนทำให้รถไม่สามารถสัญจรข้ามผ่านไป-มาได้ พร้อมแจ้งให้ผู้ใช้ถนนเส้นนี้ ให้หลีกเลี่ยงไปก่อน

ที่แขวงเซียงขวาง ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 7 ที่เมืองแปก ถูกน้ำท่วมสูง มีรถยนต์ที่เครื่องยนต์ดับและติดอยู่กลางน้ำ หลังจากที่ในพื้นที่มีฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลาหลายชั่วโมงจากอิทธิพลของพายุวิภา

ขณะที่กระทรวงกสิกรรมและสิ่งแวดล้อม สปป.ลาว ได้ออกหนังสือแจ้งเตือน 16 แขวงทั่วประเทศ ว่าจะมีฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุวิภาต่อเนื่องนานหลายวัน ขอให้หน่วยงานท้องถิ่นเฝ้าระวัง เตรียมพร้อมรับมือกับน้ำท่วม และดินถล่ม พร้อมติดตามประกาศจากทางรัฐบาล

ล่าสุด บริษัท รถไฟลาว-จีน ยังได้แจ้งระงับการให้บริการรถไฟโดยสารทั้งหมดเป็นการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร โดยผู้โดยสารสามารถยกเลิกตั๋วเพื่อขอคืนเงินหรือเปลี่ยนตั๋วได้ผ่านแอปพลิเคชัน หรือที่ห้องจำหน่ายตั๋วของแต่ละสถานีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หากไม่สามารถดำเนินการได้ทันเวลาเดินทาง สามารถขอคืนเงินได้ภายใน 30 วัน

จีนเร่งระบายน้ำท่วมหลังพายุวิภาถล่ม

สื่อท้องถิ่นจีนเผยภาพบ้านเมืองในมณฑลฝูเจี้ยน ซึ่งหลายจุดมีน้ำท่วมสูง ส่งผลให้ยานพาหนะของประชาชนหลายคันได้รับความเสียหายหรือเครื่องดับจนไม่สามารถสัญจรต่อได้ ท่ามกลางฝนที่ยังคงโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง

ภาพเช่นนี้เกิดขึ้นหลังจากที่พายุวิภาพัดถล่มหลายพื้นที่ของจีน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในหลายจุด รวมถึงพื้นที่เพาะปลูกของประชาชน และยังมีรายงานกระแสไฟฟ้าดับ ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระบายน้ำท่วมเพื่อเปิดเส้นทางต่างๆ

ขณะเดียวกันยังมีรายงานว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 2 คนและสูญหายอีก 10 คน ในมณฑลซานตง เนื่องจากฝนที่ตกหนักติดต่อกันในช่วงเวลาเพียง 5 ชั่วโมงมีปริมาณเทียบเท่ากับน้ำฝนที่ตกลงมาในระยะเวลาครึ่งปี

เวียดนามฝนตกต่อเนื่อง

เวียดนาม ท้องถนนในบางจุดมีน้ำท่วมขัง ขณะที่บ้านเรือนประชาชนยังคงถูกปิดและเสริมความแข็งแรงเพื่อรับมือกับพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงจากอิทธิพลของพายุวิภา ที่พัดขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของเวียดนามเมื่อช่วงสายวานนี้ (22 ก.ค.) โดยมีความเร็วลมสูงสุด 102 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงใต้

ขณะที่บรรยากาศตามท้องถนนในกรุงฮานอย ของเวียดนามค่อนข้างเงียบเหงา หลังจากธุรกิจห้างร้านปิดให้บริการ ขณะที่ทางการท้องถิ่นร้องขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านและอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงเกิดน้ำท่วมเพื่อความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับพายุลูกดังกล่าว

อิทธิพลของพายุส่งผลให้เกิดลมกระโชกแรง ฝนตกหนัก น้ำท่วมเป็นวงกว้าง และมีรายงานไฟฟ้าดับในหลายจุด รวมทั้งต้องมีการสั่งปิดสนามบินบางแห่งด้วย โดยเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ประชาชนประมาณ 11,800 คน ต้องอพยพไปยังที่ปลอดภัย และจากการประเมินความเสียหายเบื้องต้น พบว่าหลังคาบ้านเรือน 79 หลังปลิวหายไป และนาข้าวมากกว่า 660,000 ไร่ถูกน้ำท่วม

ด้านหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาเวียดนาม คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในช่วงนี้อาจสูงถึง 500 มิลลิเมตร รวมทั้งคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักถึง 50 เซนติเมตร ต่อเนื่องจนถึงเช้าวันนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังได้เตือนประชาชนให้เฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่แถบภูเขาด้วย ท่ามกลางการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์จากทหารมากถึง 350,000 นาย

ฟิลิปปินส์อพยพหลายหมื่นคนหนีน้ำท่วม

เจ้าหน้าที่เร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม หลังจากอิทธิพลของพายุวิภาทำให้ฝนมรสุมทวีความรุนแรงขึ้น โดยระดับน้ำท่วมสูงถึงเข่าหรือในบางจุดอาจลึกถึงระดับเอว ขณะที่ฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่องในกรุงมะนิลาและพื้นที่รอบๆ

วานนี้ถือเป็นวันที่ 2 แล้วที่ทางการต้องสั่งปิดโรงเรียนและสำนักงานราชการ ขณะที่เที่ยวบินจำนวนมากถูกยกเลิก หลังจากฝนที่ตกหนักตลอดคืนที่ผ่านมา ทำให้แม่น้ำหลายสายเอ่อล้นตลิ่งและไหลท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ส่งผลให้ประชาชนมากกว่า 70,000 คน ต้องอพยพไปยังที่ปลอดภัย

หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า หย่อมความกดอากาศต่ำนอกชายฝั่งตะวันออกของประเทศได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดการณ์ว่าพายุลูกดังกล่าวจะไม่พัดขึ้นฝั่ง แต่น่าจะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องจนถึงปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์น้ำท่วม หลังจากพายุวิภาพัดผ่านฟิลิปปินส์เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน สูญหายอีก 6 คน

ขณะที่เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ระบุว่า หน่วยงานของรัฐได้ระดมกำลังเพื่อให้ความช่วยเหลือแล้ว และสิ่งของบรรเทาทุกข์ต่างๆ กำลังถูกส่งมอบไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบแล้ว พร้อมกับทีมแพทย์ที่จะลงพื้นที่ไปช่วยเหลือประชาชนด้วย

ปธน.เกาหลีใต้ประกาศเขตภัยพิบัติเปิดทางช่วยน้ำท่วม

สถานการณ์น้ำท่วมที่เกาหลีใต้ ล่าสุด อี แจ-มยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ประกาศให้พื้นที่ 6 เขต เป็นเขตภัยพิบัติพิเศษแล้ว หลังเผชิญฝนตกหนักจนทำให้น้ำท่วมเข้าในหลายพื้นที่ของประเทศ ซึ่งการประกาศดังกล่าวจะเป็นการเปิดทางให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงงบประมาณฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้

ด้านกระทรวงมหาดไทยและความปลอดภัยเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ความรุนแรงของภัยพิบัติครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วประมาณ 19 คน และยังคงสูญหายอีก 9 คน ขณะที่ประชาชนอีกกว่า 2,549 คนต้องพลัดถิ่น นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนประชาชน ร้านค้า และโรงงานอีกประมาณ 3,776 แห่งที่ต้องได้รับการทำความสะอาดเพื่อกำจัดเศษดินและความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมครั้งนี้

ขณะเดียวกัน ผลสำรวจคะแนนความนิยมในตัวประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่จัดทำขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในช่วงที่เกาหลีใต้เผชิญฝนตกหนัก ชี้ให้เห็นว่า อี แจ-มยองมีคะแนนลดลงเหลือร้อยละ 62.2 จากร้อยละ 64.6 ด้วย

อ่านข่าว :

น่านฝนตกหนักน้ำหลากท่วมหลายพื้นที่ เตือน ปชช.เตรียมพร้อมอพยพ

"พายุวิภา" อ่อนกำลังเป็นดีเปรสชัน ศูนย์กลาง สปป.ลาว ห่าง จ.น่าน 180 กม.

สภาพอากาศวันนี้ ไทยฝนตกหนักจาก "พายุวิภา" กระทบ 37 จว.- กทม.เจอฝน 70%