ดินเนอร์กระชับมิตร หรือ สัญญาณนับถอยหลังยุบสภาเลือกตั้งใหม่?

ขึ้นเวทีวิเคราะห์ประเด็นการเมืองร้อนแล้ว จากนั้นก็แสดงวิสัยทัศน์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แล้วยังตามด้วยการเดินทางไปร่วมงานบุญใหญ่ ที่ จ.นครราชสีมา ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 23 ก.ค.2568 นายทักษิณ ชินวัตร ร่วมวงดินเนอร์แกนนำ และ สส.พรรคร่วมรัฐบาล ในฐานะวิทยากรพิเศษ

และแม้จะมีคำถามถึงความเหมาะสม ชอบธรรม หรือหมายถึงความถูกต้อง แต่แกนนำพรรคเพื่อไทย ต่างออกมาชี้ว่า นายทักษิณ คือผู้มีความรู้ ความสามารถ ที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ต่อกัน ไม่ใช่การ "ครอบงำ-ชี้นำ"

การปรากฏตัวของนายทักษิณ ชินวัตร ในเวทีต่างๆ ในมุมที่คนใน บอกว่า "ถูกต้อง-เหมาะสม-ชอบธรรม" แค่ถ่ายทอดประสบการณ์-เสนอแนะแนวทาง เพื่อบ้านเมืองและประเทศชาติ แต่สำหรับคนนอกโดนเฉพาะพรรคฝ่ายค้าน กลับวิพากษ์วิจารณ์ ตรงกันข้ามออกไป โดยเฉพาะผลพวงที่เกิดขึ้นกับนายกรัฐมนตรี "แพทองธาร ชินวัตร" ซึ่งอยู่ระหว่างการหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ

บางครั้งก็ต้องฟังเสียงคนนอก เป็นกระจกสะท้อนบ้าง เว้นแต่ที่ไม่ฟังเพราะมีเจตนาที่ตั้งไว้อยู่แล้ว กับการปรากฏตัวของนายทักษิณ ชินวัตร ในบริบทต่างๆ นอกจากจะเป็นเหตุให้ คนคิดถึงนายกฯ แพทองธาร น้อยลงแล้ว

นายรังสิมันต์ โรม ยังประเมินว่า เป็นไปได้ที่ สถานการณ์รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ พรรคเพื่อไทยและตระกูลชินวัตรจำเป็นต้องใช้บารมี นายทักษิณ เพื่อประคองรัฐบาล ในห้วงเวลาสุดท้ายนี้ ก่อนตัดสินใจยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่

ด้วยมองว่า รัฐบาลกำลังอยู่ในช่วงที่ง่อนแง่นมาก พร้อมยกตัวอย่าง ปัญหาการควบคุมองค์ประชุมสภาฯ แสดงให้เห็นว่า พร้อมที่จะล่มตลอดเวลา และจะไม่สามารถดำเนินนโยบายได้ หากพรรคร่วมฯ ไม่มีความสามัคคีกัน

และมุมมองของคนที่เคยเป็นแกนนำพรรคร่วมฯ ซึ่งนั่งอยู่แถวหน้ามาตลอด "อนุทิน ชาญวีรกูล" เห็นภาพดินเนอร์พรรคร่วมฯ นัดแรกแล้ว บอกเลยว่า "ไม่ได้รู้สึกอะไร" หลังถอนตัวออกมาเป็นพรรคฝ่ายค้าน เพราะแค่เป็น สส.ก็ภูมิใจไทยแล้ว แถมออกตัว ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ ถูกต้อง-ชอบธรรมหรือไม่ ที่นายทักษิณ ชินวัตร ไปร่วมด้วย พร้อมแนะว่า การเมืองเวลานี้ มองข้ามช็อตไปแล้ว ขอร้องเพลงรอก็แล้วกัน

อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

นอกจากร้องเพลงรอ ต้องโฟกัสที่การมองข้ามช็อตของ "ภูมิใจไทย" ในขณะที่นายทักษิณ เดินสายปรากฏตัวแสดงพลังทางการเมือง พรรคภูมิใจไทย มุ่งหน้าจัดทุกสรรพกำลัง ชิงเก้าอี้เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ

ส่วนหนึ่งวัดเรตติงทางการเมือง วัดคะแนนนิยมของค่ายสีน้ำเงินไปด้วย ในขณะเดียวกัน ก็เดินสายทาบทามบุคลากรทางการเมืองไหม? เตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งใหญ่ไหม?

และที่น่าเคลือบแคลงสงสัยก็ตรงที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โทรศัพท์หาจริง แต่นายอนุทิน บอกว่า "แค่..กดผิด" ไม่มีอะไรในกอไผ่ คนรู้จักกันนานแล้ว สมัยเรียนหลักสูตรสถาบันวิทยาการตลาดทุน ไม่ใช่นัยการเมืองอื่นใด

ย้อนกลับไปดูภาพบรรยากาศดินเนอร์แกนนำ และ สส.พรรคร่วมรัฐบาล "เพื่อไทย รวมไทยสร้างชาติ กล้าธรรม ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนา" ไม่ธรรมดา ภายใต้ชื่องาน "สามัคคีประเทศไทย ปกป้องอธิปไตย แก้ปัญหาเพื่อประชาชน"

ถ่ายภาพร่วมกันก็ไม่ใช่แค่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แค่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เท่านั้น มีนายทักษิณ ชินวัตร ร่วมเฟรมด้วยอย่างเป็นทางการด้วย จากนั้นก็รับบท ขึ้นเวทีเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ สาระสำคัญที่สื่อสารคือ สัมพันธภาพ-เอกภาพและเสถียรภาพในพรรคร่วมรัฐบาล

ภายใต้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ นายทักษิณ ก็ย้ำให้ช่วยกัน "รักษาองค์ประชุมสภา" เพื่อพิจารณาวาระสำคัญหนุนเสริมรัฐบาลขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ด้วย ระบุว่า นี่ไม่ใช่การชี้นำ-ครอบงำ แต่เป็นการแชร์ประสบการณ์ อ้างเคยคุมเสียง สส.ด้วยตัวเองมาแล้ว และให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลจะได้ไปต่อ พร้อมกับชี้ว่า มีนายกฯ แพทองธาร ก็จะมีพ่อเป็นที่ปรึกษา ก่อนจะย้ำว่า ทีมนี้จะไม่ทิ้งกัน หลังการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ยังเป็นทีมนี้

กับคำพูดที่นายทักษิณ ที่ระบุว่า "หลังการเลือกตั้ง..ก็ยังคงเป็นทีมนี้" ทีมนี้ที่ว่าคือ "เพื่อไทย" กับ 10 พรรคร่วมรัฐบาล พรรคประชาชาติ ก็รู้กันอยู่ในวงการเมือง ว่าแตกสาขาออกไป เพื่อเฉพาะเจาะจงกับพื้นที่การเมืองจังหวัดชายแดนภาคใต้

ส่วนพรรคกล้าธรรม พรรคน้องใหม่ ที่เป็นพรรคพี่-พรรคน้องกันอยู่แล้ว ส่วน "รวมไทยสร้างชาติ" ในเร็วๆ นี้ ก็น่าจะแปลงร่างเป็น พรรคโอกาสใหม่ พรรคที่น่าจะแตกแบงก์ร้อยออกมา เพื่อ "เพื่อไทย" พรรคชาติพัฒนา ที่ไม่ยุบรวม ก็เหมือนยุบรวมไปแล้ว ไทรวมพลัง นี่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ค่ายแดงเพื่อประตูอีสาน

ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ถ้าม้วนรวมทีมนี้ ที่นายทักษิณ อ้างอิงก็แทบจะเป็น พรรคเดียวกันหมดแล้ว ส่วนที่มั่นใจว่ารัฐบาล "ครม.แพทองธาร 2" จะได้ไปต่อนั้น แต่บางคน-บางฝ่าย ก็ชี้ว่าดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล ของทีมนี้ อาจเป็นนัดสั่งลา นัดกระชับมิตร เพื่อทำความเข้าใจหรือตกลงอะไรกันบางอย่างไหม? ก็ลงสนามเลือกตั้ง แล้วกลับมาจับมือกันใหม่ จะว่าไปสถานการณ์แบบนี้ แทบทุกฝ่าย ก็วิเคราะห์ตรงกันว่ากำลังนับถอยหลังยุบสภาเพื่อเลือกตั้ง