วันนี้ ( 27 ก.ค.2568) นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยภายในการบรรยายในโครงการพัฒนาศักยภาพ ผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจระดับสูง ประจำปี 2568 รู้ทันโลกการเงิน ทลายหนี้สู่ความยั่งยืน ถึงการเจรจาภาษีสหรัฐฯยอมรับว่า มีความกังวล เพราะเหลือเวลาประมาณ 6 วัน จะถึงกำหนดในวันที่ 1 ส.ค. นี้

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO)
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO)
หากไทยโดนเก็บอัตราภาษีที่ 36% จะส่งผลกระทบหนักโดยเฉพาะภาคการส่งออกซึ่งไทยพึ่งพาการส่งออกถึง 60% ซึ่งไทยจะไม่มีรายได้ในอนาคตและจะส่งผลกระทบระยะยาว อีกทั้งคู่แข่งในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็น อินโดนีเซีย เวียดนาม ญี่ปุ่น สามารถปิดดีลอัตราภาษีที่ 15-20% จะส่งผลทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า
สิ่งที่น่ากังวล คือ ขณะนี้มีบริษัทหลายแห่งที่กำลังมองหาประเทศที่ลงทุน ซึ่งมีเวียดนาม อินโดนีเซีย และ ไทย ซึ่งหากไทยโดนภาษี สหรัฐที่ 36% นักลงทุนคงไม่มองประเทศไทยเพราะมีภาษีที่แตกต่างกว่า 16%

นายกอบศักดิ์ กล่าวอีกว่า หากไทยถูกเก็บภาษีในอัตรา 25% เชื่อว่า เอกชนสามารถยอมรับได้ แม้จะสูงกว่าประเทศอื่น ๆ 5% แต่จะสามารถปรับตัวได้ แม้จะมีผลกระทบบางส่วนต่อภาคเกษตร แต่จะสามารถนำรายได้จากภาคส่งออกมาช่วยเยียวยาภาคเกษตรที่ได้รับผลกระทบ
ที่สำคัญภาคเกษตรที่ได้รับผลกระทบคิดว่าเงินเยียวยาหลัก 2-3 แสนล้านบาท น่าจะอยู่ในวิสัยที่บริหารจัดการได้ ซึ่งหากเจรจาไม่สำเร็จและยืดเยื้อ ก็จะทำให้ต้องมีการเยียวยาหลายภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบไปในระยะเวลาที่นานขึ้น ดังนั้น ไทยต้องพยายามเจรจาให้สำเร็จให้ได้

อย่างไรก็ดี ไทยยังมีข่าวดี ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ครึ่งปีแรก มีตัวเลขขอรับการส่งเสริมการลงทุน มูลค่าสูงกว่า 1 ล้านล้านบาท ถือว่าเป็นตัวเลขสูงที่สุดในรอบ 10 ปี ซึ่งการตัดสินใจลงทุนตอนนี้ขึ้นอยู่กับภาษีสหรัฐฯ หากไทยได้ภาษีไม่ต่างจากประเทศในภูมิภาคมาก ก็เชื่อว่า นักลงทุนจะเข้ามาลงทุนที่ไทย แต่หากตัวเลขแตกต่างกับประเทศคู่แข่งอย่างเช่น เวียดนาม ก็อาจจะทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนที่ประเทศอื่นแทน
ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมโพสต์ Facebook ระบุเกี่ยวกับการเตรียมแผนรับมือกับผลของภาษีตอบโต้จากทรัมป์ ไม่ว่าเรทภาษีจะจบลงที่เท่าไหร่ เพราะไม่ว่าผลการเจรจา นอกบ้าน จะออกมาเช่นไร จะมัวแต่ภาวนาให้สหรัฐฯเมตตา ลดภาษีให้กับไทยอย่างเดียวไม่ได้ แต่ควรจะจัดการกับปัญหา ในบ้าน ใกล้ตัว ที่อยู่ในอำนาจของเราเองก่อน

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
1. จัดการของด้อยคุณภาพที่นำเข้ามาดัมพ์ตลาด ธุรกิจศูนย์เหรียญ
2. รณรงค์ซื้อ-ใช้ของที่ไทยผลิต Made By Thai ช่วยธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs)
3. จัดระบบอุตสาหกรรมใหม่ ไม่พึ่งแต่บุญเก่า ยุคใหม่ ทันสมัย ทันเวลา โปร่งใส ทำให้สะอาด ทำให้ถูกต้อง
“ภาษีตอบโต้จะเป็นเท่าไหร่ ผมรับมือได้ แต่รับไม่ได้ ที่จะไม่ให้เราตอบโต้ทางทหาร เพื่อปกป้องชีวิตอันบริสุทธิ์ของประชาชนคนไทย ขอให้กองทัพ ได้ทำหน้าที่แนวรบ “กองหน้า” ปกป้องอธิปไตยอย่างเต็มกำลัง กระทรวงอุตสาหกรรม จะเป็นแนวรบกองหลัง ปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ สู้ในสงครามเศรษฐกิจให้เอง”
อ่านข่าว:
คู่ค้าเร่งสต๊อกสินค้า หนีภาษีทรัมป์ ดันส่งออกมิ.ย. พุ่ง15.5% เฉพาะสหรัฐฯ + 41.9%
เอิร์ธ ฉันทวิชญ์ เปิดใจ ขับเคลื่อนพาณิชย์ วัยไม่ใช่อุปสรรคทำงาน
"จตุพร" สู้ภาษีทรัมป์ 36 % ภารกิจท้าทาย "พ่อบ้าน" พาณิชย์