วันนี้ (30 ก.ค.2568) สหรัฐฯ เสนอชื่อ "ฌอน โคทาโร โอนีล" (Sean Kotaro O’Neill) เป็นเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย โดยเมื่อวันที่ 9 ก.ค.2568 ทำเนียบขาวประกาศเสนอชื่อ ฌอน โคทาโร โอนีล เจ้าหน้าที่การต่างประเทศอาวุโสและอดีตทนายความด้านตลาดทุน เป็นว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยคนใหม่ แทน โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค ซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่เดือน ต.ค.2565 การเสนอชื่อนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติจากวุฒิสภาสหรัฐฯ และหากได้รับการยืนยัน โอนีลจะนำประสบการณ์อันยาวนานในภูมิภาคเอเชียมาสู่การเสริมสร้างความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ
ฌอน โอนีล เป็นสมาชิกอาวุโสของสำนักงานการต่างประเทศสหรัฐฯ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่อาวุโสของสำนักงานกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ตั้งแต่เดือน ม.ค.2568 เขามีประสบการณ์การทำงานในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกกว่า 20 ปี โดยเคยประจำการในบังกลาเทศ ปากีสถาน เมียนมา ฮ่องกง และที่สำคัญคือประเทศไทย ในฐานะกงสุลใหญ่สหรัฐฯ ณ นครเชียงใหม่ และหัวหน้าหน่วยการเมือง-การทหารที่สถานทูตสหรัฐฯ กรุงเทพฯ ความคุ้นเคยกับประเทศไทยและความสามารถในการพูดภาษาไทยของเขาจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์กับผู้นำและชุมชนท้องถิ่นได้อย่างดี
ก่อนเข้าสู่การทูต โอนีลเคยทำงานเป็นทนายความด้านตลาดทุนในนิวยอร์กและโตเกียว ซึ่งทำให้เขามีมุมมองเชิงวิเคราะห์ที่ไม่เหมือนใครในการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เขายังเคยเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติประจำประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศของผู้บัญชาการนาวิกโยธินสหรัฐฯ ซึ่งตอกย้ำความสามารถในการเชื่อมโยงการทูตกับความมั่นคงแห่งชาติ
"โอนีล" มีความสามารถในการพูดภาษาเอเชียหลายภาษา รวมถึงภาษาไทย จีน เมียนมา บังกลาเทศ และญี่ปุ่น ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างสะพานเชื่อมวัฒนธรรมและความร่วมมือกับประเทศไทย ความเข้าใจในวัฒนธรรมท้องถิ่นของเขาได้รับการยกย่องจากผู้แสดงความเห็นในโลกออนไลน์ว่าเป็นจุดแข็งที่สำคัญสำหรับการทูต
การเสนอชื่อโอนีลสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ในการกระชับความสัมพันธ์กับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงเวลาที่ภูมิภาคเผชิญความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความตึงเครียดระหว่างจีนและชาติพันธมิตรสหรัฐฯ การเลือกโอนีล ซึ่งมีประสบการณ์ทั้งในด้านการทูต การเงิน และการทหาร ถือเป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความซับซ้อนของภูมิภาค คาดว่าเขาจะได้รับการสนับสนุนจากทั้ง 2 พรรคในวุฒิสภา เนื่องจากผลงานและความเชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับ

นอกจากโอนีลแล้ว สหรัฐฯ ยังเสนอชื่อผู้สมัครเอกอัครราชทูตคนอื่น ๆ เช่น นิโคลัส อดัมส์ สำหรับมาเลเซีย จูลี สตัฟฟ์ สำหรับคาซัคสถาน และเอริก เมเยอร์ สำหรับศรีลังกา ซึ่งบ่งชี้ถึงความพยายามของสหรัฐฯ ในการเสริมสร้างสถานะทางการทูตในระดับโลก
ความคิดเห็นในโลกออนไลน์มีหลากหลาย บางส่วนมองว่าโอนีลเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากประสบการณ์และความเข้าใจในวัฒนธรรมไทย แต่บางส่วนกังวลว่าการเพิ่มอิทธิพลของสหรัฐฯ อาจนำไปสู่ความตึงเครียดกับจีน ขณะที่บางความเห็นเรียกร้องให้โอนีลให้ความสำคัญกับประเด็นสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่สมดุลและยั่งยืน
ที่มา : U.S. DEPARTMENT of STATE
อ่านข่าวอื่น :
ยอด ปชช.เสียชีวิตเหตุปะทะชายแดน 15 คน กระทบ รพ.20 แห่ง
ศาลฎีกาฯ นัด 9 ก.ย.ฟังคำสั่งบังคับคดี "ทักษิณ” นอนชั้น 14 รพ.ตำรวจ