ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เอาผิดได้หรือไม่ ? เมื่อโรงพยาบาลถูกโจมตีในภาวะสงคราม

สังคม
08:34
2,692
เอาผิดได้หรือไม่ ? เมื่อโรงพยาบาลถูกโจมตีในภาวะสงคราม
อ่านให้ฟัง
06:27อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
โรงพยาบาลต้องเป็นเขตปลอดภัยในสงครามตามอนุสัญญาเจนีวา การโจมตีสถานพยาบาลชายแดนไทย-กัมพูชา 24 ก.ค.2568 ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรม สามารถเอาผิดเป็นอาชญากรรมสงครามได้หรือไม่ ?

กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Law: IHL) หรือที่เรียกว่ากฎหมายสงคราม เป็นกฎหมายที่ควบคุมวิธีการทำสงครามและการปฏิบัติต่อพลรบและพลเรือนอย่างมีมนุษยธรรม ตามข้อมูลจากกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศไทย IHL มีหลักการพื้นฐาน 5 ประการ ได้แก่

  1. การแบ่งแยกพลรบกับพลเรือน (Principle of Distinction)
  2. ความได้สัดส่วน (Proportionality)
  3. การเตือนภัยก่อนโจมตี (Precaution)
  4. ความจำเป็นทางทหาร (Military Necessity)
  5. หลักมนุษยธรรม (Humanity)

หลักการเหล่านี้มุ่งจำกัดความรุนแรงในสงครามและปกป้องบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสู้รบ รวมถึงสถานที่ที่ให้การช่วยเหลือ เช่น โรงพยาบาล

อนุสัญญาเจนีวา ค.ศ.1949 ทั้ง 4 ฉบับ อยู่ภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2492 ประกอบด้วย

  • อนุสัญญาเพื่อให้ผู้บาดเจ็บและป่วยไข้ในกองทัพในสนามรบมีสภาวะดีขึ้น
  • อนุสัญญาเพื่อให้ผู้บาดเจ็บ ป่วยไข้ และเรืออับปางในกองทัพขณะอยู่ในทะเลมีสภาวะดีขึ้น
  • อนุสัญญาเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อเชลยศึก
  • อนุสัญญาเกี่ยวกับการคุ้มครองบุคคลพลเรือนในเวลาสงคราม

นอกจากนี้ ข้อมูลจากคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ICRC (International Committee of the Red Cross) ยังระบุว่า พิธีสารเพิ่มเติม ค.ศ.1977 (Protocol I และ II) ขยายการคุ้มครองไปยังผู้ประสบภัยจากข้อพิพาทระหว่างประเทศและภายในประเทศ อนุสัญญาเจนีวาเน้นย้ำว่า พลเรือน บุคลากรทางการแพทย์ ผู้บาดเจ็บ เชลยศึก และสถานพยาบาลทั้งประจำและเคลื่อนที่ต้องได้รับการปกป้องและห้ามโจมตีโดยเด็ดขาด ไม่ว่าสถานการณ์ใด 

โรงพยาบาลเป็นสถานที่สำคัญสำหรับรักษาพยาบาลทั้งทหารและพลเรือน โดยไม่เลือกปฏิบัติตามสัญชาติหรือฝ่าย ซึ่งสะท้อนหลักมนุษยธรรมที่เป็นหัวใจของ IHL

เหตุใดโรงพยาบาลต้องเป็นเขตปลอดภัย ?

โรงพยาบาลและหน่วยแพทย์ได้รับการคุ้มครองภายใต้ IHL เพราะเป็นสถานที่ให้การรักษาผู้บาดเจ็บและป่วย โดยไม่คำนึงถึงฝ่ายหรือสัญชาติ ตามอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 1 และ 4 รวมถึงพิธีสารเพิ่มเติม ค.ศ.1977 การโจมตีโรงพยาบาลโดยเจตนาถือเป็นการละเมิดร้ายแรง ตามมาตรา 85(3) ของพิธีสารเพิ่มเติมฉบับที่ 1 ซึ่งจัดเป็นอาชญากรรมสงคราม หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นการโจมตีโดยเจตนา

การโจมตีสถานพยาบาลจะทำให้ผู้บาดเจ็บขาดการรักษา ซึ่งขัดต่อหลักมนุษยธรรมและเพิ่มความสูญเสียโดยไม่จำเป็น ตาม ICRC การโจมตีดังกล่าวไม่เพียงทำลายโครงสร้างพื้นฐาน แต่ยังบ่อนทำลายความเชื่อมั่นในระบบมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

กรณีการโจมตี รพ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2568 ระหว่างความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาเจนีวา เนื่องจากมีการยิงโจมตีสถานพยาบาล ส่งผลให้พลเรือน รวมถึงเด็กและสตรี บาดเจ็บและเสียชีวิต การโจมตีดังกล่าวไม่เป็นไปตามข้อยกเว้นที่อนุญาตให้โจมตีได้ (เช่น โรงพยาบาลถูกใช้เป็นฐานทัพและมีการเตือนล่วงหน้า) ทำให้ไทยประณามว่าเป็นกัมพูชาละเมิด IHL และเรียกร้องให้มีการสอบสวนและลงโทษผู้กระทำผิด

การเอาผิดผู้ละเมิดกฎหมายสงคราม

การละเมิด IHL เช่น การโจมตีโรงพยาบาลโดยเจตนา ถือเป็นอาชญากรรมสงครามตามอนุสัญญาเจนีวาและพิธีสารเพิ่มเติม ตาม ICRC รัฐผู้รับผิดชอบต้องชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น ส่วนบุคคลที่กระทำผิดต้องถูกสอบสวนและดำเนินคดี การเอาผิดสามารถทำได้ผ่าน

ระบบกฎหมายภายในประเทศ รัฐสามารถใช้กฎหมายภายใน เช่น พ.ร.บ.กาชาด 2499 ของไทย หรือดำเนินคดีตามหลัก universal jurisdiction ซึ่งอนุญาตให้ดำเนินคดีกับอาชญากรรมสงครามได้แม้เกิดนอกประเทศ

กลไกทางการทูต รัฐสามารถเจรจาหรือใช้ช่องทางระหว่างประเทศเพื่อเรียกร้องความรับผิดชอบ

ศาลระหว่างประเทศ อาชญากรรมสงครามอาจถูกส่งต่อไปยังศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ตาม Rome Statute ซึ่งครอบคลุมการละเมิดร้ายแรง เช่น การโจมตีสถานพยาบาล 

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สามารถบังคับให้รัฐปฏิบัติตาม IHL หรือจัดตั้งศาลพิเศษเพื่อสอบสวน

ในกรณีชายแดนไทย-กัมพูชา การโจมตีพลเรือนและสถานพยาบาลตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.2568 ไทยเรียกร้องให้มีการสอบสวนและลงโทษผู้กระทำผิดตาม IHL โดยอาจผ่านการเจรจาทางการทูตหรือกลไกสหประชาชาติ อย่างไรก็ตาม การเอาผิดอาจเผชิญความท้าทาย เช่น การพิสูจน์เจตนาของผู้โจมตี หรือการขาดความร่วมมือจากรัฐที่เกี่ยวข้อง การบังคับใช้ IHL จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาคมโลกเพื่อให้เกิดความยุติธรรมและป้องกันการละเมิดซ้ำ

ที่มา : กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศไทย, "กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ" , ICRC, "The Geneva Conventions and their Additional Protocols" 

อ่านข่าวอื่น :

รอบแฟซิฟิก ลดระดับเตือนภัยสึนามิ เหตุแผ่นดินไหว 8.8 คัมชัตกา

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ ประกาศงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา ถึง 10 ส.ค.