ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ชาวบ้านจี้เลิกเวทีฟังความเห็น "แลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง" ชี้ผลศึกษาไม่สมบูรณ์

ชาวบ้านจี้เลิกเวทีฟังความเห็น "แลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง" ชี้ผลศึกษาไม่สมบูรณ์
อ่านให้ฟัง
10:49อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เครือข่ายชาวบ้านพะโต๊ะ ชุมพร ระนอง กลุ่มธุรกิจ ผู้ประกอบการ ชุมนุมหน้าโรงแรมที่ จ.ระนอง หลัง สนข.เปิดเวทีรีบฟังความคิดเห็นครั้งที่ 3 แกนนำชาวบ้านชี้ EHIA ที่รัฐบาลจ้างเอกชนทำ ไม่ครอบคลุมผู้ได้รับผลกระทบ และข้อมูลไม่เพียงพอ

วันนี้ (5 ส.ค.2568) ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง และกองร้อยอาสารักษาดินแดน จ.ระนอง เผชิญหน้ากับ เครือข่ายรักษ์ระนอง ผู้ประกอบการระนอง กลุ่มรักษ์พะโต๊ะ ชาวบ้าน เครือข่ายพันธมิตรที่เกี่ยวข้องหลายเครือข่าย และชุมชนเกาะหาดทรายดำ หน้าโรงแรมเฮอริเทจ แกรนด์คอนเวนชั่น อ.เมืองระนอง สถานที่จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 3 เพื่อทบทวนร่างรายงานฉบับสมบูรณ์การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ของโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกแลนด์บริดจ์ระนอง-ชุมพร

โดยกลุ่มชาวบ้านระบุว่า ไม่ได้ปิดกั้นผู้ที่จะเข้าร่วม แต่อยากให้คิดถึงความไม่ชอบธรรมของการทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ที่ไม่ชอบทั้งข้อมูลและกฎหมายที่หมกเม็ดของเท็จจริง จึงอยากให้มาฟังข้อเท็จจริงอีกด้านของผู้ที่คัดค้าน

โครงการนี้จะกระทบต่อธรรมชาติและวิถีชีวิตอย่างรุนแรง จึงอยากให้เวทีการรับฟังวันนี้เป็นโมฆะ

พร้อมยื่นหนังสือให้ตัวแทนสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มคนต่าง ๆ

หนังสือระบุว่า ขอคัดค้านร่างรายงานและกระบวนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกแลนด์บริดจ์ระนอง-ชุมพร ที่มีข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรง และขอให้ยุติการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 3

หนังสือระบุว่า ตามที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา ให้ดำเนินการศึกษาประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการพัฒนาท่าเรือบริเวณแหลมอ่าวอ่าง อ.เมืองระนอง จ.ระนอง

และโครงการพัฒนาท่าเรือบริเวณแหลมริ่ว จ.ชุมพร ภายใต้โครงการแลนด์บริดจ์ และมีกำหนดจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 3 (ค.3) เพื่อทบทวนร่างรายงานการประเมินกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) และมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบของโครงการดังกล่าว ในวันที่ 5 ส.ค.2568 ที่ จ.ระนอง และ วันที่ 6 ส.ค.2568 ที่ จ.ชุมพร นั้น

เครือข่ายรักษ์ระนองและประชาชนผู้ที่จะได้ผลกระทบ ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม จากความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตของชุมชน ขอเรียนมายังท่านถึงข้อผิดพลาดร้ายแรง อย่างน้อย 13 ประการ ของเนื้อหาและกระบวนการจัดทำร่างรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ของโครงการท่าเรือดังกล่าว ที่ทำให้ขาดความชอบธรรม

ในการนำร่างรายงานมาจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น และนำไปประกอบการพิจารณาตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการฯ ดังนี้

1.การกำหนดขอบเขตการศึกษาผลกระทบ (Scoping) กำหนดรัศมีการศึกษาเพียง 5 กิโลเมตรไม่ครอบคลุมผลกระทบทั้งหมด ทำให้ชุมชนและระบบนิเวศนอกรัศมีไม่ได้รับการศึกษา รวมถึงเกาะพยามที่จะได้ผลกระทบมากที่สุดก็ถูกศึกษาเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น ผลการศึกษาจึงไม่สะท้อนข้อมูลผลกระทบที่กว้างขวางและรุนแรงตามความเป็นจริง

2.ไม่มีข้อมูลผลกระทบต่อการเสนอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ เนื่องจากป่าชายเลนและพื้นที่ชายฝั่งทะเลของ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต ได้เข้าสู่ขั้นตอนการขอรับรองเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 4 แล้ว แต่กลับไม่มีการศึกษาผลกระทบและประเมินความเสียหายในส่วนนี้

3.ไม่มีผลการศึกษาเรื่องการกัดเซาะชายหาด จากถมทะเลกว่า 6,900 ไร่ ใกล้พื้นที่ชายฝั่ง ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสมุทรศาสตร์และการกัดเซาะชายฝั่ง แต่กลับไม่มีการศึกษาประเด็นดังกล่าว ทำให้ไม่สามารถที่จะกำหนดมาตรการป้องกันผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพได้อย่างเป็นรูปธรรม

4.พื้นที่ก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกตั้งอยู่บนแหล่งทรัพยากรทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นแหล่งประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง การขุดลอกและถมทะเลหลายพันไร่ จะทำลายและสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อแหล่งทรัพยากรและกลุ่มประมงพื้นบ้าน แต่กลับไม่มีการระบุข้อมูลทรัพยากรทางทะเลและประเมิน ผลกระทบไว้โดยละเอียด

5.ไม่มีการประเมินผลกระทบต่อกลุ่มชาติพันธุ์ ชาวเลมอแกน ทั้งในพื้นที่เกาะพยาม เกาะช้าง เกาะเหลา จำนวนกว่า 400 คน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียจากโครงการโดยตรง แต่กลับไม่ถูกศึกษาว่า การพัฒนาท่าเรือน้ำลึก จะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาอย่างไร

6.ขาดข้อมูลการศึกษาผลกระทบด้านท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจหลักที่ยั่งยืนในจังหวัดระนอง และชุมพร ที่สามารถกระจายรายได้ให้แก่ชุมชนและผู้คนจำนวนมาก กลับไม่มีข้อมูลความเสียหายที่จะกระทบในส่วนนี้

7.ข้อมูลและการประเมินผลกระทบในรายงานศึกษาไว้เพียงระยะก่อสร้าง แต่ไม่ครอบคลุมถึงระยะการดำเนินการประกอบกิจการท่าเทียบเรือและการขนส่งตู้สินค้า ทำให้ไม่สามารถพิจารณาถึงผลกระทบของโครงการฯ ทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น

8.การขาดผลการศึกษาเรื่องปัจจัยผลกระทบด้านภัยพิบัติ ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่โครงการ เช่น การเปลี่ยนแปลงสมุทรศาสตร์ สึนามิ พายุ และแผ่นดินไหว รวมถึงอุบัติเหตุจากการดำเนินการของโครงการ เช่น การระเบิดหรือไฟไหม้ตู้คอนเทนเนอร์ เป็นต้น

9.การปรากฎข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เช่น บุคลากรทางการแพทย์มีมากกว่าจำนวนจริง จำนวนสัตว์หน้าดินที่มีน้อยผิดปกติ ข้อมูลที่ใช้ในการเขียนรายงานเกือบทั้งหมดเป็นข้อมูลทุติยภูมิ ไม่ได้ระบุผลกระทบต่อประเด็นต่าง ๆ รวมถึงการเก็บข้อมูลส่วนใหญ่ที่เป็นข้อมูลทุติยภูมิมากกว่าการใช้เป็นข้อมูลปฐมภูมิ

10.การคัดเลือกสถานที่ตั้งท่าเรือและแบบท่าเรือมีการใช้ค่าคะแนนที่ไม่เหมาะสม ให้สัดส่วนคะแนน ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าด้านมูลค่าการลงทุนและวิศวกรรมอย่างอธิบายไม่ได้

11.กระบวนการมีส่วนร่วมในการศึกษามีข้อสงสัยหลายประการ เช่น เวที ค.1 การมีส่วนร่วมที่เชิญเพียงกลุ่มเฉพาะ ไม่ได้เปิดกว้างให้กลุ่มผู้มีส่วนได้เสียเข้าร่วม เวที ค.2 ขาดการผลศึกษาจากกลุ่มอาชีพหรือกลุ่มผู้รับผลกระทบโดยตรงจำนวนมาก รวมถึงการเปิดรับฟังความคิดเห็นเพียงแค่ 45 นาทีต่อครั้ง

12.ความไม่คุ้มค่าของโครงการ การทุ่มงบประมาณก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกเฟส 1 ขนาด 20 ล้าน TEUs ไม่สามารถประกันความคุ้มค่าในทางเศรษฐกิจ โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เคยศึกษาและสรุปแล้วว่าไม่คุ้มค่า แต่การศึกษาครั้งนี้กลับไม่ได้ทบทวน

13.ขาดผลการศึกษาของภาพรวมโครงการ รายงานฉบับนี้ เน้นแยกส่วนการศึกษาเป็นรายกิจการในโครงการแลนด์บริดจ์ ควรจะมีการศึกษาทั้งโครงการท่าเรือน้ำลึกจำนวน 2 ท่า โครงการรถไฟรางคู่ และโครงการมอเตอร์เวย์ แต่กลับแยกเป็นรายโครงการ ทำให้ไม่เห็นภาพรวมความเชื่อมโยงของผลกระทบ จากการดำเนินโครงการทั้งที่เป็นโครงการเดียวกัน

จากเหตุผลดังที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น แสดงให้เห็นถึงข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรง ทั้งการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้องในรายงาน และกระบวนการประเมินผลกระทบที่บกพร่องอย่างจงใจ ไม่ศึกษาให้ครอบคลุมผลกระทบที่มีสาระสำคัญหลายประการ ทำให้ผลสรุปรายงานไม่สะท้อนความเป็นจริง ซึ่งจะนำไปสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็นและการพิจารณาตัดสินใจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและขัดต่อรัฐธรรมนูญ

เครือข่ายรักษ์ระนองและประชาชนที่จะได้รับผลกระทบ จึงไม่อาจยอมรับร่างรายงาน EHIA ฉบับนี้ และขอเรียกร้องต่อสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการ ดังนี้

1.ขอให้ยุติการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 3 และหยุดการนำร่างรายงาน EHIA ที่ไร้ความชอบธรรมฉบับนี้ ไปประกอบการรับฟังความคิดเห็นหรือการพิจารณาตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการแลนด์บริดจ์โดยทันที

2.ขอให้ตรวจสอบกระบวนการศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของบริษัทที่ปรึกษา ที่มีการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้องตรงไปตรงมา และไม่เป็นไปตามหลักการแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม

3.ขอให้รัฐบาลพิจารณาการพัฒนาศักยภาพของจังหวัดชุมพรและระนองในมิติอื่น ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น เช่น การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การประมง และการเกษตร ซึ่งจะสร้างประโยชน์ที่ยั่งยืนมากกว่าการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการทำลายสิ่งแวดล้อมและชุมชน

อ่านข่าว : ม่วนซื่น! ทหาร-ศิลปินจิตอาสา รวมพลังเยียวยาจิตใจผู้อพยพชายแดน

"ฮุน เซน" โต้ละเมิดรัฐธรรมนูญกัมพูชา เหตุบัญชาการกองทัพ

ประชุม GBC วันที่ 2 "บิ๊กเล็ก" เผยไทยเสนอ 8 ข้อ ยันไม่เสียประโยชน์