แล้วปฏิบัติการการ “ล็อต 2” ในกระทรวงมหาดไทยก็เกิดขึ้น เมื่อมีเสนอรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง 6 คน ให้ที่ประชุม ครม.เห็นชอบ เมื่อวันอังคาร (5 ส.ค.) แม้เมื่อวันจันทร์ (4 ส.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะ รมว.มหาดไทย จะแทงกั๊ก ไม่ยอมตอบว่า จะมีการเสนอรายชื่อให้ ครม.พิจารณาหรือไม่
สุดท้าย ไม่เพียงแค่อธิบดีกรมที่ดินคนใหม่ แทนที่นายพรพจน์ เพ็ญพาสน์ ที่ขอย้ายตัวเองจากกรณีไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดงประมาณ 5 พันไร่ จะออกที่นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา มาแรงแซงโค้ง แต่นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัด มท.ที่มีชื่อแคนดิเดตในครั้งแรก ไปนั่งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ.แทน
ทั้ง 2 กรมล้วนเป็นกรมใหญ่ในมหาดไทยทั้งคู่ ส่วนอีกกรมใหญ่ที่ยังไม่ขยับ คือ กรมการพัฒนาชุมชน
ส่วนนายพรพจน์ มีรายชื่อเป็นร องปลัด มท.อีกครั้ง ขณะที่นายภาสกร บุญญลักษณ์ ที่ไม่ใช่ “สิงห์ดำ” แม้จะมี “แบ๊คอัพ” ไม่ธรรมดาในพรรคเพื่อไทย ก็ต้องคายตำแหน่ง ปภ. ไปเป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ จากผู้ว่าฯ ระยอง ไปเป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี แทนที่คนเดิมที่ก่อนหน้านี้ ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ ที่ขยับไปเป็น อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ สถ. อีกคน คือ นายสันติ รังษิรุจิ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา
ไม่เพียงอธิบดีกรมที่ดินเท่านั้น ยังมีเตรียมการเสนอ “บิ๊กล็อต” ให้ที่ประชุม ครม.ให้ความเห็นชอบ ในคิวต่อ ๆ ไป ของนายภูมิธรรม ซึ่งจะเป็นการจัดทัพใหม่ รองรับการเลือกตั้งที่อาจมีขึ้นไม่นานนับจากนี้ โดยมีข้าราชการระดับสูงจะเกษียณอายุราชการสิ้นเดือนกันยายน 2568 หลายคน
ตั้งแต่รองปลัดกระทรวงมหาดไทย 2 คน ผู้ตรวจราชการ 3 คน และระดับผู้ว่าฯ 13 คน ประกอบด้วย ลำปาง พิษณุโลก ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ชลบุรี สมุทรสงคราม ปทุมธานี ยะลา ภูเก็ต สิงห์บุรี และอุตรดิตถ์
ที่น่าจับยิ่งกว่านั้น คือการจัดวางตัวตัวบุคคลใหม่ ในจังหวัดที่เป็นฐานเสียงของค่ายสีน้ำเงิน เพื่อหวังพลิกสถานการณ์ให้กลับมาได้เปรียบสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ว่าจะเป็น จ.บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สตูล สงขลา อุทัยธานี และนครศรีธรรมราช
แต่กระนั้น พรรคภูมิใจไทยก็ใช่ว่าจะตั้งรับฝ่ายเดียว เห็นได้ชัดจากกรณีเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ที่ถือเป็นพื้นที่เมืองหลวงและมีนัยต่อสถานภาพในเชิงการเมืองของพรรคและแกนนำพรรคหลายคน ไม่เฉพาะเป็นที่พักอาศัยของแกนนำบางคน แต่จะรวมถึงฐานทางธุรกิจ และเป็นแลนด์มาร์คดึงดูดนักท่องเที่ยวของจังหวัดด้วย คือสนามแข่งรถและสนามฟุตบอล
จึงได้เห็นการออกมาตอบโต้ชนิดไม่ลดราวาศอกของแกนนำในพรรค ตั้งแต่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค นายศุภชัย ใจสมุทร และแกนนำอีกหลายคน ทั้งยังเป็นที่คาดหมายว่า อาจมีเรื่องในเชิงกฎหมายและคดีความตามมาค่อนข้างแน่ โดยมองว่าเป็นการก้าวก่ายแทรกแซงข้าราชการโดยฝ่ายการเมือง
นอกจากนี้ วันที่ 7 ส.ค.ชาวบ้านและผู้ประกอบการเกือบ 1 พันราย ที่ถือเอกสารสิทธิที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่ แต่ถูก สั่งให้เพิกถอน จะรวมตัวแถลงตอบโต้ และอาจมีพาสื่อลงพื้นที่ประกอบการตั้งการ์ดสูงด้วย
จ.บุรีรัมย์ คือฐานไข่แดงของพรรคภูมิใจไทย และตระกูลชิดชอบ มาตั้งแต่สมัยนายชัย ชิดชอบ จึงมีความผูกพันแนบแน่นกับประชาชนในพื้นที่มานาน ล่าสุด กรณีการปะทะสู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ชาวบ้านตามแนวชายแดนต้องอพยพลี้ภัย มาอยู่ศูนย์พักพิง พรรคภูมิใจไทย และคนในตระกูลชิดชอบ ได้ออกช่วยเหลือ และเปิดสนามช้างเซอร์กิตให้เป็นที่พักพิงฟรี และตั้งโรงครัวเลี้ยงชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ
เท่ากับศึก 2 พรรค 2 สี ที่มีรูปแบบและวิธีการสู้ศึกเลือกตั้งคล้ายคลึงกัน ไม่เพียงคนในพรรคที่ต้องเผชิญหน้า ชิงไหวชิงพริบกันเท่านั้น แต่ยังจะรวมถึง “นายใหญ่” กับ “ครูใหญ่” ที่ต้องขบเหลี่ยมแบบรู้เท่าทันกันในที รวมอยู่ด้วย เรื่องโยกย้าย”ล้างบาง”ในมท.จะเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น
คูเหลี่ยมที่วางไว้แหลมคมอย่างยิ่ง จะมีอะไรบ้าง อดใจรอตอนต่อ ๆ ไป ลึกกว่าที่คิด
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : “พระราชินี” เสด็จฯ แทนพระองค์ งานมหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน 2568
อนุทินเตือนอธิบดีที่ดินคนใหม่ อย่าเซ็นสุ่มสี่สุ่มห้า ระวังซ้ำรอย "คุก"
ครม.ไฟเขียว ตั้ง "ขจรเกียรติ" นั่งอธิบดีกรมที่ดิน-"เชษฐา" คุม ปภ.