"วิสุทธิ์" ยืนยันถกงบฯปี 69 องค์ประชุมไม่ล่ม

วันนี้ (13 ส.ค.68) นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์หลังจากประชุม สส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทุกพรรคได้เจรจากันแล้ว รวมถึงเลขาธิการพรรคเพื่อไทยกับหัวหน้าพรรคเพื่อไทยซึ่งได้เจรจากับทุกพรรคเพื่อให้องค์ประชุมครบในการประชุมตลอดช่วง 3 วันนี้

• เปิดชื่อ 73 กมธ.วิสามัญ ถกงบ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.
• มติสภา 322:158 โหวตเห็นชอบงบ 69 วาระแรก วงเงิน 3.78 ล้านล้าน
• “พิชัย” แจงรายงานจัดทำงบฯ 69 ตั้งงบฯ 3.78 ล้านล้านบาท

ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นวันสำคัญที่จะพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณประจำปี 2569 ในวาระ 2 - 3 เชื่อมั่นว่า รัฐมนตรีที่เป็น สส.จะต้องมาอยู่ในสภา เพราะฉะนั้นองค์ประชุมจะครบแน่นอน และได้ย้ำไปแล้วว่า ขอความร่วมมือถึงฝ่ายค้านร่วมเป็นองค์ประชุม เพื่อให้รัฐบาลสามารถพิจารณางบฯได้

ประธานวิปรัฐบาล ระบุว่า ไม่ได้วางแผนรองรับกรณีองค์ประชุมล่ม และอาจต้องขยายวันประชุมออกไปซึ่งสามารถทำได้โดยต้องการให้พิจารณาจบภายใน 3 วัน และมั่นใจว่าจะจบภายใน 3 วัน ตามที่ได้วางไว้ 

เมื่อถามย้ำถึงกรณีหากเกิดองค์ประชุมล่มรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร นายวิสุทธ์ กล่าวด้วยเสียงหนักแน่นว่า ไม่ล่ม มั่นใจว่าไม่ล่ม อย่าไปกังวลขนาดนั้น เพราะคุยกันแล้วว่า ต้องอยู่ด้วยกัน ผู้แทนจะต้องรู้หน้าที่ของตัวเอง และไม่มีการคาดโทษหากใครไม่มาประชุม และมั่นใจว่า การประชุมครั้งนี้ไม่มีล่ม มีการพูดคุยกันตลอดและหลังจากนี้วิปแต่ละพรรคจะไปพูดคุยกันเพื่อกำชับ

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล

เมื่อถามเรื่องการทักท้วงของฝ่ายค้านว่า จัดงบประมาณ "คิดไม่รอบ คิดไม่ลึก" นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านก็เป็นกรรมาธิการงบประมาณด้วย ซึ่งได้พูดในที่ประชุมในการตรวจสอบงบประมาณแล้ว และเป็นธรรมดาที่ฝ่ายค้านจะไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล น้อยครั้งที่จะเห็นด้วยกับรัฐบาลซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ นี่คือการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน แม้จะเป็นกรรมาธิการพิจารณางบฯ มาด้วยกัน ก็จะบอกว่าไม่เห็นด้วยอยู่ดี

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯจะลาออก หลังจากพิจารณางบประมาณเสร็จสิ้น นายวิสุทธิ์ ยืนยันว่า นายกฯไม่ลาออก และมั่นใจว่า มีผู้สร้างกระแส จึงขอบอกประชาชนว่า ให้ติดตามข่าวทางการเมืองจากสื่อหลักเท่านั้น รวมถึงเรื่องชายแดนซึ่งยังมีผู้ที่ไม่หวังดีกับประเทศชาติบ้านเมืองจำนวนมาก สร้างกระแสทำให้เกิดความวุ่นวาย ขอให้ฟังจากกองทัพ ฟังจากรัฐบาล ฟังจากสื่อหลักที่เชื่อถือได้

นายวิสุทธิ์ ยืนยันอีกครั้งว่า จากที่ได้ฟังมาเอง นายกฯบอกว่า ไม่ลาออก และ สส.พรรค ได้ให้กำลังใจนายกฯ อย่างเต็มที่ แล้ววันนี้นายกฯก็จะมาอยู่ที่สภาฯ มาให้กำลังใจในการทำหน้าที่ของกรรมาธิการงบประมาณ และ สส.ซึ่งใครอยากพบก็สามารถพูดคุยกับนายกฯได้

เมื่อย้ำถามถึงกำลังใจในพรรคเพื่อไทย ยังดีอยู่หรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ยังเต็มเปี่ยม ยังไม่มีอะไรทำให้ท้อถอยหรือมีความกังวลอะไรทั้งสิ้น และเชื่อมั่นว่า นายกฯ บริสุทธิ์ เพราะนายกฯมีเจตนาที่ดีต่อประเทศชาติบ้านเมือง

"ณัฐพงษ์" จวกรัฐบาลจัดงบฯปี 69 "คิดไม่รอบ คิดไม่ลึก"

ขณะที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ก่อนการเริ่มประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ว่า ได้พิจารณารายงานของกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 โดยหยิบยกเปรียบเทียบว่า สิ่งที่รัฐบาลได้เตรียมมาเป็นงบที่ "คิดไม่รอบ คิดไม่ลึก"

นายณัฐพงษ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า เหตุที่ชี้ว่า "คิดไม่รอบ" คือ ขาดความรอบคอบ จากการที่กรรมาธิการวิสามัญปรับลดงบประมาณลง 8,900 ล้านบาท กลายเป็นว่า หลายส่วนที่มีการแปรญัตติกลับเข้ามาในงบรายจ่ายประจำ เช่น เงินเดือนของข้าราชการ ที่อยู่ตามองค์กรอิสระหรือองค์กรมหาชน จะเห็นได้ว่างบประมาณในส่วนนี้เป็นงบรายจ่ายประจำอยู่แล้วที่จะต้องตั้งงบประมาณให้ได้เต็มสัดส่วน ตั้งแต่วาระที่ 1 แต่เป็นการตั้งขาดเมื่อกรรมาธิการตัดลดงบฯ ลงทำให้ต้องแปรญัตติในส่วนนี้กลับมา

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน

พร้อมอธิบายเพิ่มเติมที่บอกว่า "คิดไม่ลึก" คือ ยังคิดตื้น ในส่วนงบลงทุนโดยงบประมาณ 8,900 ล้านบาทที่ปรับลดลง 1 ใน 3 เป็นงบที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กลายเป็นว่า งบลงทุนส่วนใหญ่ของประเทศ เอาไปใช้ในการสร้างตึก ตัดถนน ขุดคลอง เป็นภาพสะท้อนที่ทำให้เห็นว่า รัฐบาลเสนองบประมาณเป็นการจัดสรรงบประมาณที่ไม่รอบคอบและยังคิดไม่ลึกมากเพียงพอ

หัวหน้าพรรคประชาชน ยังกล่าวชื่นชมรัฐบาล ที่แปรญัตติงบกลับเข้ามาและไม่ได้นำไปกองไว้ที่งบกลางทั้งหมด ซึ่งงบกลางยังมีความจำเป็นในการใช้กรณีเร่งด่วนจำเป็น และมีการแปรญัตติกลับเข้าไปกองทุนประกันสังคม รวมถึงเติมในโครงการรถไฟสายสีส้ม ในส่วนนี้ไม่ได้เห็นต่าง แต่ที่ทักท้วงคือการแปรญัตติกลับไปในรายจ่ายประจำ ซึ่งควรคิดมาอย่างรอบคอบกว่านี้

เมื่อถามถึงการตัดงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในช่วงนี้สะท้อนว่า ใกล้เลือกตั้งแล้วหรือไม่ นายณัฐพงษ์ ระบุไม่ได้ขัดข้องที่จะแปรญัตติกลับไปให้ อปท.เช่นในเรื่องภารกิจถ่ายโอนมีการแปรญัตติกลับไปให้ อบจ.ต่าง ๆ ซึ่งอยู่ในกระบวนการถ่ายโอน รพ.สต. ดังนั้นหากเป็นการแปรญัตติ อย่างตรงไปตรงมาตามภารกิจเป็นของท้องถิ่น ก็ไม่ได้ติดใจอะไร

ถ้ามีเรื่องการประสานงานเบื้องหลังในช่วงการใกล้เลือกตั้ง คิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่อยากเห็น และไม่อยากให้กระบวนการที่พิจารณางบประมาณให้ประโยชน์ต่างตอบแทนเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง

นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวถึงงบการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพว่า พรรคประชาชนได้สื่อสารมาโดยตลอดว่า หลักการที่ยืนยันคืออยากให้กองทัพมีความทันสมัย อยากให้กองทัพทำหน้าที่ปกป้องประเทศ ไม่ใช่ปกครองประเทศ ดังนั้นในเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์จะต้องพิจารณาเป็นกรณีอะไรที่มีความจำเป็นต่อสถานการณ์ในปัจจุบันสามารถพิจารณาผ่านได้ 

สภาฯ พิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณประจำปี 2569 ในวาระ 2 - 3 ในช่วงวันที่ 13 - 16 ส.ค.2568

นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวถึงปัญหาการทุจริตเกี่ยวกับการจัดสรรงบงบประมาณที่อาจกระทำผิดรัฐธรรมนูญ ม.144 ว่า มีสิ่งที่น่าสงสัยทั้งหมด หากสังเกตการพิจารณางบประมาณวิสามัญที่ผ่านมา แค่ลำพังการขอไลฟ์สดซึ่งเป็นการกระทำที่สามารถทำได้ทันทีไม่ได้ซ้ำซ้อนอะไร ก็มีเสียงคัดค้านจากกรรมาธิการเสียงข้างมาก จนทำให้สมาชิกบางส่วนไปไลฟ์สดในช่องทางของตัวเอง

รวมถึงการประชุมในชั้นอนุกรรมาธิการที่ข้อมูลหลายส่วนที่ภาคประชาชนทั่วไป หรือ สส.ที่ไม่ได้นั่งในคณะอนุฯ จะไม่ได้เห็นข้อมูลอย่างรอบด้าน เชื่อว่า สิ่งที่จะเป็นเกราะกำบังที่ดีที่สุดให้กับรัฐบาลเพื่อทำลายข้อครหาที่รัฐบาลขาดความไว้วางใจกับประชาชน คือ ทำอย่างไรให้การพิจารณางบประมาณมีความโปร่งใสมากที่สุด ซึ่งปัจจุบันยังขาดกระบวนการโปร่งใสค่อนข้างมาก

หัวหน้าพรรคประชาชน ยังกล่าวถึงการอภิปรายร่างกฎหมายงบประมาณในช่วง 3 วันนี้ ของพรรคประชาชนว่า ได้เตรียมผู้อภิปรายไว้จำนวนมาก คิดว่าในช่วงการพิจารณาตลอด 3 วัน น่าจะใช้เวลาในการอภิปรายอย่างเต็มที่

รัฐบาลจัดทำงบประมาณไม่ได้รอบคอบ รัฐบาลแปรญัตติกลับเข้าไปในส่วนรายจ่ายประจำ ซึ่งจริง ๆ ควรตั้งมาตั้งแต่แรก รวมถึงงบลงทุนที่ยังไม่ได้ตอบโจทย์ประเทศ หลังจากที่ผ่านสภาไปแล้วก็จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณอย่างเต็มที่ต่อไป

ส่วนเรื่ององค์ประชุมสภาล่ม นายณัฐพงษ์ ระบุว่า การพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีเป็นส่วนที่สำคัญมาก รัฐบาลจะต้องเตรียม สส.มาให้ครบองค์ประชุม ไม่ควรหวังพึ่งองค์ประชุมจากฝ่ายค้าน เพราะถ้างบประมาณไม่สามารถดันผ่านสภาได้ ก็ไม่เห็นช่องทางว่ารัฐบาลจะบริหารประเทศได้อย่างไร

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน

ขณะที่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวถึงการจัดสรรงบประมาณไม่ได้เตรียมแผนรับมือผลกระทบกำแพงภาษีสหรัฐอเมริกาว่า ในกรรมาธิการมีข้อเสนอหลายครั้งนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง มาชี้แจงว่า หลังจากเริ่มมาตรการไทยจะมีการเตรียมตัวรับมืออย่างไร หรือใช้งบประมาณเท่าไหร่ แต่ท้ายที่สุดนายพิชัยไม่ได้มาชี้แจง และไม่ได้เข้าห้องงบประมาณเลยหลังจากที่เข้ามาในครั้งแรกและครั้งที่ 2

ตามสภาพตัดงบไม่ได้ ตัดได้แค่ 9,000 ล้านบาท แล้วไม่ได้เอาไปใส่ในส่วนที่ควรต้องใส่เตรียมไว้สำหรับการรับมือกับสงครามการค้า ต้องรอดูว่า รัฐบาลจะรับมือกับสงครามการค้าที่หนักหน่วงมากขึ้นในปี 2569 อย่างไร เพราะปี 2568 เหลืออีกแค่ 2 เดือนก็จะหมดปีงบประมาณแล้ว ทางออกเดียวที่เห็นจะต้องมีการออก พ.ร.บ.เงินกู้ หรือ ขยายเพดานที่สาธารณะที่ตั้งไว้ร้อยละ 70 ให้ขึ้นไปมากกว่านั้นไม่อย่างนั้นไม่มีงบประมาณใดเตรียมรองรับไว้เลย

อ่านข่าว : สภาฯ ถกร่างงบฯ ปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วันที่ 13-15 ส.ค.นี้ 

“ลาออก-ยุบสภาฯ” ทางเลือกรีเซ็ตการเมือง?  

“ณัฐพงษ์” ระบุ “แพทองธาร” ลาออก-ยุบสภา ขึ้นอยู่กับเจ้าตัว