ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“พิชัย” แจงรายงานจัดทำงบฯ 69 ตั้งงบฯ 3.78 ล้านล้านบาท

การเมือง
10:44
95
“พิชัย” แจงรายงานจัดทำงบฯ 69 ตั้งงบฯ 3.78 ล้านล้านบาท
อ่านให้ฟัง
05:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
“พิชัย” แจงรายงานจัดทำงบฯ 69 ตั้งงบฯ 3.78 ล้านล้านบาท มีปรับลด 8,920 ล้าน ไปเพิ่มเติมตาม ครม.เสนอความจำเป็น 9 หน่วยงานหลัก มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจ-แก้ไขปัญหาความเป็นอยู่ประชาชน โดยอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย และ รธน.2560

วันนี้ (13 ส.ค.2568) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญรายจ่ายประจำปี 2569 กล่าวรายงานในที่ประชุมสภา โดยสรุปสาระสำคัญ ว่า กรรมาธิการวิสามัญให้ความสำคัญกับการดำเนินภารกิจเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ

สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่พิจารณาตามความจำเป็น ภารกิจของหน่วยรับงบประมาณ และแผนพัฒนาพื้นที่ รวมถึงความต้องการของประชาชน โดยคำนึงถึงสถานะทางการคลังและสภาพเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมให้ความสำคัญหลักธรรมาภิบาล สุจริต โปร่งใส และเป็นธรรม เพื่อให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและประชาชน

ทั้งนี้ มีข้อสังเกตที่สำคัญให้รัฐบาลต่อเศรษฐกิจในปี 2569 มีแนวโน้มชะลอตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้ จะส่งผลกระทบต่องบประมาณด้านรายได้และรายจ่าย การเตรียมงบประมาณเพื่อรองรับมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐอเมริกา เพื่อให้มีพื้นที่การคลังใช้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ

นายพิชัย ยังเปิดเผยตัวเลขที่กรรมาธิการปรับลดงบประมาณ 8,920 ล้านบาท และพิจารณาจากความสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน คำนึงถึงความคุ้มค่าศักยภาพในการใช้จ่ายงบประมาณ และให้ความสำคัญกับเงินนอกงบประมาณหรือรายได้ที่จัดเก็บของหน่วยรับงบประมาณ ประกอบการพิจารณาส่วนการเพิ่มงบประมาณ โดยได้พิจารณาตามความเหมาะสมจำเป็นให้เพียงพอต่อการปฎิบัติหน้าที่

โดยจัดไปที่ 1.งบกลางใช้จ่ายเงินสำรองกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 2.สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักพัฒนารัฐบาลดิจิทัลองค์การมหาชน เป็นค่าใช้จ่ายบุคลากรเงินเดือนของพนักงาน 3.กระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ค่าใช้จ่ายสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลก ปี 2569 4.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 5.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เป็นค่าใช้จ่ายบรรเทาปัญหาหมอกควันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5

6.กระทรวงยุติธรรม กรมคุมประพฤติเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับพฤติกรรม สำหรับการติดตามผลระหว่างที่ถูกควบคุมความประพฤติคดียาเสพติด 7.กระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคมเป็นค่าใช้จ่ายตามสิทธิ์ในการชำระเงินสมทบของฝ่ายรัฐบาล กองทุนประกันสังคมในส่วนที่ค้างชำระ 8.รัฐวิสาหกิจการรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย สนับสนุนค่างานโยธาตามสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม 9.หน่วยงานของศาลและหน่วยงานขององค์กรอิสระและองค์กรอัยการ รวมจำนวนทั้งสิ้น 8,920 ล้านบาท

รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า การพิจารณารายละเอียดงบประมาณ การปรับลดงบประมาณ และการเพิ่มเติมนั้น คณะกรรมาธิการได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับความพร้อมและศักยภาพของหน่วยงาน ความซ้ำซ้อน เป้าหมายการดำเนินงานและผลการดำเนินงาน ภารกิจเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ การแก้ไขปัญหาการเป็นอยู่ของประชาชน และสนับสนุนให้เศรษฐกิจเติบโต รองรับผลกระทบจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศได้อย่างมีเสถียรภาพ และการดำเนินการต้องไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญปี 2560 และกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ เพื่อให้ดำเนินการในงบประมาณวงเงิน 3.78 ล้านล้านบาทโดยรายละเอียด ในการพิจารณาและข้อสังเกตของกรรมาธิการวิสามัญได้อยู่ในรายงาน 4 เล่ม ขอบคุณกรรมาธิการวิสามัญที่ร่วมพิจารณาร่างกฎหมายอย่างเต็มที่จนสำเร็จลุล่วง และยินดีชี้แจงข้อซักถามของสมาชิกในแต่ละมาตรา

อ่านข่าว : “ณัฐพงษ์” ระบุ “แพทองธาร” ลาออก-ยุบสภา ขึ้นอยู่กับเจ้าตัว 

สรุป 11 วัน กู้สรรพาวุธชายแดนไทย-กัมพูชา 4 จังหวัด 483 รายการ 

กต.ประณามกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลครั้งที่ 4 ไร้มนุษยธรรม