วันนี้ (16 ส.ค.2568) เพจเฟซบุ๊ก "กองทัพบก ทันกระแส" ประกาศว่า กองทัพบก (ทบ.) เตรียมนำสื่อมวลชนต่างชาติ เช่น Reuters และ AFP ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ จ.สุรินทร์ ในสัปดาห์หน้า เพื่อเผยข้อเท็จจริงต่อประชาคมโลก
โดยจะเริ่มที่กองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) เพื่อรับฟังคำชี้แจง จากนั้นพาไปดูพื้นที่พลเรือนที่ถูกโจมตีจากกัมพูชา เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน วัด และบ้านเรือนประชาชน รวมถึงพื้นที่เก็บกู้ทุ่นระเบิดโดยศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) พร้อมสาธิตการทำลายวัตถุระเบิดที่ตกค้างจากการปะทะ
ทั้งนี้ ทางการไทยยืนยันว่า นายไมเคิล อัลฟาโร ซึ่งอ้างเป็นนักข่าวประจำทำเนียบขาวและกล่าวหาไทยรุกล้ำดินแดนกัมพูชาด้วยรั้วลวดหนาม ไม่ใช่นักข่าว แต่เป็นล็อบบี้ยิสต์และเจ้าของบริษัทประชาสัมพันธ์ฺ "Capitol Hill & Friends" ในวอชิงตัน ดี.ซี.
น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษา รมว.ต่างประเทศ ระบุผ่านแอปพลิเคชัน X ว่า อัลฟาโรไม่มีสถานะเป็นสื่อทำเนียบขาว และรายงานของเขาไม่เป็นไปตามมาตรฐานสื่อสากลที่ต้องรักษาความเป็นกลาง
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า อัลฟาโรได้รับเชิญจาก นายซอนโซเพียบ เจ้าของบริษัทประชาสัมพันธ์ที่ทำงานให้รัฐบาลกัมพูชา โดยดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมถึงจัดฉากให้อัลฟาโรทำคลิปไลฟ์สดกล่าวหาไทย ซึ่งขัดต่อข้อตกลง GBC ที่ห้ามเผยแพร่ข่าวเท็จ ไทยจึงเชิญสื่อต่างชาติลงพื้นที่โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้อง
ทางด้าน พล.ต.พงศกร รอดชมภู อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ชี้ว่า กัมพูชาใช้ปฏิบัติการข่าวสารและจิตวิทยาอย่างเป็นระบบ ผ่านสื่อออนไลน์และขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ทำให้ข้อมูลเท็จแพร่กระจายเร็ว ไทยเสียเปรียบด้านการสื่อสาร จึงต้องเพิ่มการเผยแพร่ข้อเท็จจริงเป็นภาษาอังกฤษและภาษาอื่นผ่านสื่อสากล โดยให้ประชาชนและอินฟลูเอนเซอร์ช่วยเผยแพร่ เขายังเตือนว่ากัมพูชาอาจยั่วยุให้ไทยใช้กำลังก่อน เพื่อนำประเด็นสู่เวทีนานาชาติ
อ่านข่าวอื่น :