ทำงานเป็นหมออยู่ในต่างจังหวัดก็ดีอยู่แล้ว อยู่เฉยๆ จะไปเดือดร้อน ไปทุกข์ร้อนกับคนกรุงเทพฯ เขาทำไม พื้นที่ “อ.จะนะ” จ.สงขลา ตอนนั้น ก็ไม่ใช่พื้นที่แพร่ระบาดสูง แล้ว “นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ” ผอ.รพ.จะนะ (ตอนนั้น) กับพวกแพทย์ชนบท เข้ากรุงเทพฯ มาทำไม
ในฐานะที่เราเป็นนักข่าวไทยพีบีเอส ที่เกาะติดนำเสนอข่าวทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และระบบการจัดการอย่างจริงจัง และลงพื้นที่ทำข่าวหลายพื้นที่เป็นจุดวิกฤต-จุดเสี่ยงการแพร่ระบาด

ตัดภาพกลับไป ชวนทุกคน ย้อนความทรงจำเมื่อปี 2564 หลายคนในกรุงเทพฯ อาจเคยเจอประสบการณ์ ทั้งทางตรงและทางอ้อมมาไม่มากก็น้อยในปีนั้น กับโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า (Delta) หรือ B.1.617.2 ที่คร่าชีวิตผู้คนในครอบครัวคนไทยไม่น้อย
- ช่วง เม.ย.2564 - สิ่งที่เกิดขึ้น “กรุงเทพฯ” พบผู้ติดโควิด “สูงสุดเป็น อันดับ 1” สูงสุดในประเทศ พบผู้เสียชีวิตและผู้มีอาการหนักเพิ่มขึ้น จากสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดได้เร็ว และทรุดเร็ว
- การแพร่ระบาด ใน กทม. พบผู้ติดเชื้อเพิ่มใหม่ ขณะนั้นเฉลี่ยวันละเกือบ 1,000 คน ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ประกาศ เมื่อวันที่ 9 ก.ค.2564 ล็อกดาวน์กรุงเทพฯ และปริมณฑล 6 จังหวัด

- ผู้ที่ตรวจพบ “โควิด-19” สถานที่กักตัว - ส่งตัว รองรับการดูแลในกรุงเทพฯ มีไม่เพียงพอ สะท้อนให้เห็นว่า ระบบสาธารณสุขของเราเอาไม่อยู่, โรงพยาบาลสนามยังแทบไม่มี หรือมีแต่น้อยมาก, ศูนย์กักตัวชุมชน ยังไม่เกิดขึ้น
- สถานการณ์ซ้ำเป็นวิกฤตคนกรุงเทพฯ ปัญหาอุปกรณ์ ชุดตรวจโควิด-19 แบบรู้ผลด่วนใน 30 นาที ขาดแคลน, ชุดตรวจ ATK ที่ประชาชนต้องไปหาซื้อหาเองราคาพุ่งอีก 2-3 เท่า (เพราะแทบจะไม่มีการควบคุมจากหน่วยงานของรัฐบาล) ส่วนการตรวจ แบบ RT-PCR (ที่รู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง) ที่ทำได้เฉพาะในโรงพยาบาล เกิดปัญหาผู้ป่วยล้นคิว และวิกฤตเตียงโควิดขาดแคลนอย่างหนัก

- ข้อมูลที่บอกไปข้างต้น เป็นภาพชัดของสถานการณ์เปราะบางของระบบสาธารณสุขในกรุงเทพฯ ที่รับมือไม่ไหว ท่ามกลางความเสี่ยงการแพร่ระบาดที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพราะระบบสาธารณะ ยังแยก “ผู้ติดเชื้อ” ออกจาก “ผู้ไม่ติดเชื้อ” และ “สังคม” ไม่ได้มากพอต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น, บุคคลากรทางการแพทย์ ใน กทม. ที่เจอสภาวะ “ทำงานเกินกำลัง” ไปมากโข
เมื่อประเมินความเสี่ยงว่า “เมืองหลวง” รับมือไม่ไหว
- เกิดความพลังอาสา “ทีมชมรมแพทย์ชนบท” ออกโรง ระดมกันมี นพ. สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.รพ.นะจะ จ.สงขลา (ในขณะนั้น) ในฐานะ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ภายใต้ปฏิบัติการ #แพทย์ชนบทบุกกรุง
- เราลงพื้นที่เกาะติดทำข่าวโควิดอยู่ก่อนหน้านั้น ในหลายพื้นที่มาก่อนแล้ว ดังนั้น การปรากฎตัวของ “ทีมแพทย์ชนบท” ในกรุงเทพฯ จึงยิ่งสะท้อนถึงแนวโน้มการแพร่ระบาดที่มาพร้อมกับพลังแห่ง “ความหวัง” และ “ทางออก” ที่สังคมจะฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน
- การทำงานในสภาพ “ลุยเชิงรุก” ต่อเนื่อง ของทีมแพทย์ชนบท ในชุด “นักรบสีขาว” PPE ระดมจัดหาชุด ATK มาช่วยตรวจ คลุกคลีกับการ “สวอป” ประชาชนคนแล้วคนเล่านับร้อยนับพันคน เช้ายันมืด ในทุก ๆ วัน
พวกเขาเน้นเลือกเข้าจุดที่ในพื้นที่ “เสี่ยงสุดๆ” ที่มีแนวโน้มจะเกิดการระบาดหนัก โดยเฉพาะกลุ่มคนเปราะบาง ที่มีโอกาสการเข้าถึงระบบสาธารณสุขน้อยกว่าคนอื่น ๆ เช่น ชุมชนแออัด และพื้นที่สาธารณะในกรุงเทพฯ ด้วยความมุ่งมั่น และลุยเกินร้อย

- การลงพื้นที่ของทีมแพทย์ชนบท ภายใต้ปฏิบัติการ #แพทย์ชนบทบุกกรุง เกิดขึ้นทั้งหมด 3 ครั้ง แต่ละครั้ง ไม่ได้โรยด้วยทุ่งลาเวนเดอร์ ที่จะมีอะไรเรียบง่ายไปเสียหมด
1.รอบแรก “ชมรมแพทย์ชนบท” ลงพื้นที่วันที่ 14-16 ก.ค.2564 ตรวจทั้งสิ้น 19,871 ราย พบผู้ติดเชื้อ 1,777 ราย (8.94 %) เป็นจำนวนที่สูงอย่างน่าตกใจ
2.รอบสอง วันที่ 21-23 ก.ค.2564 ตรวจทั้งสิ้น 51,389 คน พบผู้ติดเชื้อ 6,863 คน (13.35 %) ภาพรวมเป็นอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ในเกณฑ์ที่สูงมาก สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ทั้งสองครั้งสะท้อนถึงจำนวน “ผู้ติดเชื้อ” ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
แต่ปรากฏว่า “หมอสุภัทร” ณ ขณะนั้น ประกาศกับเรา (ThaiPBS) ระหว่างลงพื้นที่ทำข่าวเกาะติดว่า ทีมแพทย์ชนบทจะไม่กลับมา กทม.อีกแล้ว เพราะขณะนั้นระบบต่าง ๆ ของรัฐ ยังไม่มีภาพชัดออกมาเลยว่า จะดูแล-รับตัว-ส่งต่อ แยกกลุ่มผู้ติดเชื้อในชุมชนแออัดกันอย่างไร ปล่อยเครือข่าย-ภาคประชาสังคม เป็นแกนหลักจัดการกันเอง
ซึ่งทั้งสองครั้ง ตรวจหาเชื้อได้กว่า 51,000 ราย พบผู้ติดเชื้อกว่า 7,000 ราย แต่สุดท้าย เพราะ “หัวใจของความเป็นหมอ” หมอสุภัทรก็ทำอย่างที่ลั่นวาจาไว้ไม่ได้ เขาพร้อมทีมแพทย์-พยาบาล-เจ้าหน้าที่ เดินทางกว่า 1,000 กิโลเมตร กลับมากรุงเทพฯ อีกครั้ง
3.รอบที่สาม วันที่ 4-10 ส.ค.2564 เป็นรอบที่กลับมาลุยยาวตลอดสัปดาห์ และระดมใหญ่กว่าเดิม จากการระบาดที่เพิ่มขึ้น ทีมจึงกระจายกำลังลุยตรวจ ATK ครอบคลุม ทั้ง 50 เขต ของ กรุงเทพมหานคร มีบุคลากรอาสาจากต่างจังหวัดร่วมในนาม “ชมรมแพทย์ชนบท” กว่า 38 ทีม (เฉลี่ยทีมละ 8-10 คน) ตะลุยเชิงรุกแบบ เต็มพิกัด

หากผลเป็นพบ “ติดเชื้อ” จะถูกตามมาส่งตัวไปตรวจ แบบ RT-PCR ซ้ำ ก่อนได้รับบริการยาฟ้าทะลายโจร หรือ Favipiravir และนำเข้าระบบ Home Isolation (ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช.) ในวันที่ตรวจพบ เพื่อดูแลรักษาต่อเนื่อง
- ภาพรวมบรรดาอาสาสมัครของทีมชมรมแพทย์ชนบท ที่ลุยทั้ง 3 รอบ ตรวจ ATK รวม 192,905 คน พบผู้ติดเชื้อ 22,451 คน
- ช่วย “ตัดตอน” การแพร่ระบาดในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้มาก, ช่วยลดภาระเตียงล้นของโรงพยาบาลใน กทม.ลงได้ เพราะการจ่ายยา Favipiravir ให้กับผู้ติดเชื้อ ช่วยลดโอกาสที่เขาจะป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล
- การปฏิบัติการครั้งนั้น พลิกโฉมทำให้เกิดความร่วมมือจากหลายใน กทม. หลายฝ่ายหันมาช่วยทีมแพทย์ชนบทมากขึ้น เป็นระบบที่ชัดเจนขึ้น ทั้งสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), กรุงเทพมหานคร, กระทรวงสาธารณสุข, ทีมอาสาภาคประชาชน, ทีมโควิดชุมชน (Com-Covid), เครือข่ายแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว และ IHRI รวมถึงอีกหลายองค์กร

เป็นความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ภายใต้เงื่อนเวลาที่เร่งรัด และทุกคนมีภารกิจประจำหนักอึ้งสาหัสที่ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว
นี่แหละเรื่องตลกร้าย “หมอสุภัทร” จะยกพวก “ทีมแพทย์ชนบท” มาเหนื่อยวุ่นวาย ตรวจโควิด-19 ในกรุงเทพฯ ทำไม? ที่ทุ่มเททำมาทั้งหมดเพื่อใครกัน
ถ้า “หมอสุภัทร” ไม่ทำ ทีมแพทย์ชนบทไม่เริ่มต้นรวมพลังมาช่วยในกรุงเทพฯ ไม่ไปสาละวนหา ATK มาช่วยตรวจ โควิดเดลต้า สายพันธุ์ดุร้าย กระจายไวที่แพร่ระบาดใน กรุงเทพฯ “สูงเป็นจังหวัดอันดับหนึ่ง” ในไทยขณะนั้น จะเป็นยังไงกันต่อหนอ
ภาพถ่ายเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งที่เราถ่ายเอง ในช่วงลงพื้นที่ทำข่าว เกาะติดการแพร่ระบาดโควิด ใน กทม. ที่มีทีมแพทย์ชนบท นำทีมกระจายไปตรวจเชิงรุก ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้ง 50 เขต ของ กทม.

บันทึกจากสนามข่าวนี้ย้อนความทรงจำ ท่ามกลางประเด็นร้อนวันนี้ ที่หมอสุภัทร ประกาศว่า “ประเด็นการจัดซื้อ ATK โควิด ปฏิบัติการ “แพทย์ชนบทบุกกรุง” ปี 2564 กลายเป็นประเด็นหลัก ที่ทำให้ทำให้ถูกสอบสวนและชี้ผิดวินัย มีมติให้หมอสุภัทร “ถูกออกจากราชการ” สิ้นสุดการทำงานในเดือนกันยายน 2568 นี้”
ขณะที่หมอสุภัทร ยืนยันว่า ไม่ได้ทำผิดระเบียบ ไม่ได้ทุจริต แต่เป็นความไม่ลงรอยกันระหว่างชมรมแพทย์ชนบท ที่หมอสุภัทรเป็นประธาน กับ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
มาถึงบรรทัดนี้ ชวนทุกท่านขบคิด และร่วมแชร์เรื่องราว ไปด้วยกัน
รายงาน : ภัทราพร ตั๊นงาม ผู้สื่อข่าวออนไลน์ ไทยพีบีเอส
อ่านข่าว : หมอสุภัทรร้องถูกสอบวินัยร้ายแรง ปมจัดซื้อ ATK ช่วงโควิด-19