ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

คำสั่งปริศนา นอภ.รับส่ง มท.3 ความสำคัญ “เดชอิศม์-สงขลา”

การเมือง
16:09
188
คำสั่งปริศนา นอภ.รับส่ง มท.3 ความสำคัญ “เดชอิศม์-สงขลา”
จะถือเป็นเรื่องปกติ อย่างที่คนการเมืองทั่วไปคิดอย่างชาชิน เรื่องคำสั่งให้นายอำเภอไปคอยรับส่งรัฐมนตรีที่สนามบิน พร้อมจัดเตรียมกาแฟของว่าง โดยอ้างใคร ๆ ก็ทำกัน

แต่สำหรับคนยุคสมัยปัจจุบันจะกลายเป็นเรื่องแปลก เพราะถือเป็นการกลับบ้านปกติช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ แล้วบินกลับกรุงเทพฯ ในวันจันทร์

เป็นเรื่องปกติตั้งแต่ยังเป็นเพียง สส. ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี หรือการกะเกณฑ์ให้นายอำเภอที่เป็นนักปกครองในพื้นที่ ไปดูแลนักการเมือง หรือคนหนึ่งคนใดเป็นกรณีพิเศษ ทั้งที่มีหน้าที่ต้องดูแลทุกข์สุขประชาชนทั่วไป

มิหนำซ้ำ ยังให้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ ไปคอยดูแลที่ห้องรับรองพิเศษ ซึ่งอย่างน้อย ต้องจัดเจ้าหน้าที่ของอำเภอไม่น้อยกว่า 2-3 คน ไปทำหน้าที่

ที่พูดถึง คือการปรากฎคำสั่งให้นายอำเภอเมืองสงขลา มาทำหน้าที่รับส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ในวันจันทร์ที่ 18 ส.ค.ลงนามโดยผู้ว่าฯ สงขลา นายนายโชตินรินทร์ เกิดสม และตามด้วยเรื่องคำสั่งผ่านกลุ่มไลน์ข้าราชการ ให้นายอำเภอทั้ง 16 อำเภอ ผลัดเปลี่ยนเวรมาคอยทำหน้าที่ดูแลรับส่งนายเดชอิศม์ ในแต่ละสัปดาห์

น่าแปลกคือ แทนที่จะมีปฏิกริยา หรือข้อสั่งการใด ๆ ออกมาจากนายเดชอิศม์ กลับไม่มี ทั้งที่คำสั่งลงนามโดยผู้ว่าฯ สงขลา และมีเผยแพร่บนหน้าสื่อออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.

กระทั่งข่าวนี้ได้รับการเผยแพร่ออกสู่วงกว้างในต้นสัปดาห์ (จันทร์ที่ 18 ส.ค.) จึงค่อยมีเสียงปฏิเสธจากนายโชตินรินทร์ ผ่านสื่อยักษ์ใหญ่ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนลงนามในหนังสือดังกล่าว หรือสั่งการใด ๆ เลย

อ่านข่าว : ผู้ว่าฯ สงขลายันไม่ได้ลงนามเอกสารสั่งนายอำเภอดูแล มท.3

และระบุว่า วันอาทิตย์ตนไปทำภารกิจต่างจังหวัด อีกทั้งหากจะสั่งนายอำเภอ จะทำผ่านปลัดจังหวัด ไม่ผ่านสำนักงานจังหวัด แสดงว่าเรื่องนี้ ไม่เป็นความจริง

ไล่เลี่ยกับข่าวข้อสั่งการของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ที่ให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งย้ำว่า ในยุคสมัยพรรคเพื่อไทย กำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย ต้องไม่มีเรื่องสั่งการแบบนี้ และต้องไม่มีข้าราชการต้องคอยเดินตามนักการเมือง

รศ.ธนพร ศรียากูล ที่ปรึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ให้ความเห็นว่า เรื่องมีคำสั่งดังกล่าวปรากฏบนหน้าสื่อ โดยที่คนทั่วไปเห็นว่าไม่สมควรนั้น อาจมีที่มาจาก 2 ทาง ทางหนึ่งจากทีมงานของนายเดชอิศม์ที่มีการประสานผ่านผู้มีอำนาจหรือสามารถสั่งการได้ โดยอาจคาดหวังเรื่องแสดงให้เห็นถึงบารมี เป็นเรื่องในเชิงการเมือง โดยนายเดชอิศม์จะไม่ทราบก็เป็นได้

แต่หากไม่ใช่ ก็ต้องเป็นฝีมือของฝ่ายที่ไม่หวังดีต่อนายเดชอิศม์ ต้องการเอาคืน หรือหวังให้นายเดชอิศม์ตกเป็นเป้าถูกโจมตี จากการมีเผยแพร่คำสั่งดังกล่าว เพราะมีนัยสะท้อนการลุแก่อำนาจอยู่ในที

ทั้งนี้ จังหวัดสงขลาเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ตกอยู่ในกระแสข่าวว่า จะถูกโยกย้ายล้างบางจากพรรคเพื่อไทย ที่ประเดิมล็อตแรกด้วยการโยกย้ายอธิบดีกรมการปกครอง และอธิบดีกรมส่งเสริมการส่วนท้องถิ่น หรือ สถ. ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งได้เพียง 2-3 วัน และเพิ่งแต่งตั้งโยกย้ายล็อตที่ 2 จำนวน 6 คน 6 ตำแหน่งเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน

แต่ยังจะเหลือ “ล็อตที่ 3” ที่จ่อคิวให้ครม.เห็นชอบทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ 30 กันยายน 68 อีกล็อตใหญ่ ประกอบด้วยรองปลัด 2 คน ผู้ตรวจราชการ 3 คน ระดับผู้ว่าราชการจังหวัด 13 คน ประกอบด้วย ลำปาง พิษณุโลก ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ชลบุรี สมุทรสงคราม ปทุมธานี ยะลา ภูเก็ต สิงห์บุรี และอุตรดิตถ์

นอกจากนี้ ยังจะมีการจัดวางตัวตัวบุคคลใหม่ ในจังหวัดที่เป็นฐานเสียงของค่ายสีน้ำเงินเดิม เพื่อหวังพลิกสถานการณ์ในการเลือกตั้ง สส.ครั้งหน้า ทั้ง จ.บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สตูล อุทัยธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา

แม้บางจังหวัด จะไม่ใช่พื้นที่อิทธิพลของค่ายสีแดง แต่มีพันธมิตรจากพรรคอื่น บวกกับความต้องการสลายขุมกำลัง ที่นับวันยิ่งเข้มแข็งขึ้นเรื่อย ๆ ของค่ายสีน้ำเงิน เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ก่อนหน้านี้ ในการแต่งตั้งโยกย้ายระดับนายอำเภอล็อตแรก 13 สิงหาคม 2568 รวม 22 คน ที่ลงนามโดยนายอรรษิษฐ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปรากฏว่า มีนายอำเภอใน จ.สงขลาถูกโยกย้ายไปจังหวัดอื่น 3 คน และที่โยกย้ายสลับกันเองในจังหวัด และโยกย้ายมาจากจังหวัดอื่นลงที่ จ.สงขลา มีมากถึง 6 คน ท่ามกลางกระแสสะพัดวงในว่า “ถึงเวลาจัดวางคนกันเองแทนคนวงนอก”

ยังไม่นับผลงานที่มีเสียงวิจารณ์กันมาก กรณีที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ที่นายภูมิธรรม ไฟเขียวให้ตั้งกรรมการชุดใหม่ ตรวจสอบคำสั่งไม่เพิกถอนที่ดินดังกล่าวของนายพรพจน์ เพ็ญพาสน์ อธิบดีกรมที่ดิน คนก่อน ที่ขอย้ายตัวเองออกจากตำแหน่ง ซึ่งกรรมการที่แต่งตั้ง ก็มาจากนายเดชอิศม์ ในฐานะรัฐมนตรีที่ดูแลกรมที่ดิน

นำไปสู่การจับคู่ปะทะคารมกันอย่างเข้มข้นระหว่าง นายศุภขัย ใจสมุทร แกนนำพรรคภูมิใจไทย กับนายเดชอิศม์ ปมบุกรุกพื้นที่โบราณสถาน

นายเดชอิศม์ และ จ.สงขลา ฐานที่มั่นสำคัญทางการเมืองของนายเดชอิศม์ จึงพิเศษและไม่ธรรมดา เพราะศัตรูของศัตรู คือมิตร

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : "สุชาติ" ลงพื้นที่ตรวจ "วัดพระบาทน้ำพุ" 19 ส.ค.นี้ สอบเงินวัด-มูลนิธิ

"หลวงพ่ออลงกต" ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ