วันนี้ (19 ส.ค.2568) เวลา 19.30 น.พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก หลังลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี โดยได้เปิดเผยสาเหตุที่ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส ว่าเพราะอยากให้ผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบ สามารถทำหน้าที่ได้อย่างสบายใจ และหากมีเจ้าอาวาสรูปใหม่ ตัวเองก็ยังทำงานเหมือนเดิม
"อยากให้ทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนการตรวจสอบ การดูแลและการให้ข้อแนะนำต่างๆ เพราะวัดมีหลายมูลนิธิ เท่าที่ทราบมีการตรวจสอบอย่างละเอียด นั่นคือเหตุผลที่ขอลาออกเพื่อให้ทุกคนสบายใจ และสะดวกใจที่จะเข้ามาตรวจสอบ"
หลวงพ่ออลงกต ยืนยันว่า หลังจากนี้ทุกอย่างก็จะชัดเจนขึ้น โดยเก็บข้อมูลของการทำบุญเพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบทุกรายการ ดังนั้นจึงอยากขอให้เห็นใจและเข้าใจว่าหลวงพ่อก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งและมักจะไม่พูดอะไรมาก
"เหตุการณ์ในแต่ละวันมีนักข่าวนับร้อยคนติดตามทุกวัน คอยเฝ้าตรงนู้นตรงนี้ บางทีก็บานปลายไปสู่คนอื่น บางคำถามซ้ำ 10-20 ครั้ง จะให้ตนตอบคำถามเดิม ๆ ก็ลำบากใจ แต่อะไรที่ยังไม่เคยตอบ ก็จะยินดีที่จะตอบและยินดีให้ข้อมูลกับสื่อ"
ส่วนกระแสข่าวเรื่องที่บอกว่าล่องหนหรือหายตัวไปต่างประเทศ หรือขึ้นเครื่องไปประเทศดูไบ หลวงพ่ออลงกต ยอมรับว่า อ่านแล้วก็รู้สึกขำ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และยังมั่นคงหนักแน่น เพราะอยู่กับเรื่องนี้มานานมาก ทั้งกระแสบวกและลบ แต่ไม่เคยต่อว่าอะไรใคร ไม่เคยเกรี้ยวกราดหรือตัดสินใคร เพราะมีกฎของตัวเอง
หลวงพ่ออลงกต เชื่อว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่รักตนเอง เพราะความใจดี และมีแต่ให้มาโดยตลอด
หลวงพ่ออลงกต ยังกล่าวถึงการนำเรื่องราวต่างๆ มาลงในสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งที่เป็นเรื่องส่วนตัว จึงเชื่อว่ามีคนที่ต้องการจะล้มตัวเองให้ได้
"ไม่เข้าใจ ว่าทำไมมีเรื่องอย่างนี้ได้ ถ้าให้หลวงพ่อเดา คงต้องการจะจัดการกับหลวงพ่อให้ได้ ขอฝากว่าถ้าหลวงพ่อเป็นอะไรไป อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าหลวงพ่อใช้คำว่าถูกโค่นได้ ที่ผ่านมาเห็นว่าเป็นอย่างไร ณ วันนี้ยังยืนอยู่ยังไม่ล้ม ถ้าล้มจะกระทบกระเทือนไปหลายส่วน ทำกับหลวงพ่อ หลวงพ่อทนได้ แต่ทำไมต้องทำกับเด็ก ทำกับผู้บริสุทธิ์"
หลวงพ่ออลงกต ระบุว่า สิ่งที่ตามมาหลังเหตุการณ์นี้ ทำให้ไม่ได้ไปบิณฑบาต ไม่มีกิจนิมนต์ จากเดิมเคยมีงานปีละนับพันงาน แต่วันนี้หายไปหมด เนื่องจากศรัทธาถูกทำลายอย่างย่อยยับ จนทำให้ไม่มีคนมาทำบุญ ก็เลยทำให้รู้สึกทุกข์ใจที่ไม่สามารถหาข้าวปลามาหาเลี้ยงดูผู้ป่วยทุกคน ทำให้ต้องคิดหนักมาก
ยกตัวอย่างวันนี้ ไม่มีเงินสักบาท เมื่อวานนี้ได้ปัจจัยจากการทำบุญ 200 บาท เหมือนถูกมรสุมพัดพา ขณะที่วัดมีค่าใช้จ่ายวันละไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท ตอนนี้ก็พยามอดทน ตั้งมั่นต่อความเมตตา ทำทุกอย่างเพื่อให้คนเหล่านี้มีชีวิตอยู่ มีข้าวกิน มียารักษา
"วันนี้จึงขอความเห็นใจและความเข้าใจ อย่างน้อยก็ควรจะเห็นแก่กำลังใจของผู้ป่วย ตอนนี้บางคนร้องไห้ กินไม่ได้นอนไม่หลับ บางคนบอกว่าเป็นโรคซึมเศร้า เพราะเป็นห่วงหลวงพ่อ อีกอย่างพวกเขาเหล่านี้อาจไม่ได้มีบ้านให้กลับไปอยู่ได้ เพราะบางคนไม่มีบ้านและไม่รู้เลยว่าใครจะดูแลเขาต่อได้ ดังนั้นหลวงพ่อก็ขอยืนยันว่า หลวงพ่อยังสู้ ยังอยู่ตรงนี้ "
หลวงพ่ออลงกต กล่าวว่า ขอความเห็นใจและความเข้าใจ อย่างน้อยก็ควรจะเห็นแก่กำลังใจของผู้ป่วย ตอนนี้บางคนร้องไห้ กินไม่ได้นอนไม่หลับ บางคนบอกว่าเป็นโรคซึมเศร้า เพราะเป็นห่วงหลวงพ่อ อีกอย่างพวกเขาเหล่านี้อาจไม่ได้มีบ้านให้กลับไปอยู่ได้ เพราะบางคนไม่มีบ้านและไม่รู้เลยว่าใครจะดูแลเขาต่อได้ ดังนั้นหลวงพ่อก็ขอยืนยันว่า หลวงพ่อยังสู้ ยังอยู่ตรงนี้
ส่วนเรื่องจำนวนของผู้ป่วยนั้น หลวงพ่ออธิบายว่า ดูแลทั้งผู้ป่วย เด็กนักเรียน ผู้ติดเชื้อ และผู้สูงอายุ รวมทั้งหมด 2,000 คน ทั้งที่อยู่ในวัดพระบาทน้ำพุ และเด็กที่อยู่ในโรงเรียนของมูลนิธิ ชุมชน โดยสนับสนุนอาหารและทุนการศึกษาทุกเดือน
นอกจากนี้ ยังมีการแจกข้าวสารอาหารแห้งให้กับชาวบ้านข้างนอก เพราะบางคนอดยากจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี
"วันนี้เมื่อไม่ได้ออกบิณฑบาต ไม่ได้ทำบุญ ก็ไม่มีของให้แจก เพราะของเหล่านั้นได้จากความศรัทธาและความเมตตาของประชาชน และยังมีหมา แมว ลิง อีกนับพันตัว"
อ่านข่าว :
"สุชาติ" ขีดเส้น 10 วัน สอบถือครองที่ดิน-เส้นทางเงินวัดพระบาทน้ำพุ
ผู้เสียหายแจ้งความ "พระอลงกต-วัดพระบาทน้ำพุ" ออกใบอนุโมทนาบัตรไร้วันที่