ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"พล.อ.ณัฐพล" เผย กต.เตรียมส่ง คลิปทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิด​ ให้อนุ กก.ออตตาวา

การเมือง
11:57
106
"พล.อ.ณัฐพล" เผย กต.เตรียมส่ง คลิปทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิด​ ให้อนุ กก.ออตตาวา
อ่านให้ฟัง
11:26อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"พล.อ.ณัฐพล" เผย คลิปหลักฐานทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิด​ กต.เตรียมส่งอนุกรรมการออตตาวา​ เร่งประสานญี่ปุ่น​ในฐานะประเทศปฏิบัติเข้ามา​ตรวจสอบ​ก่อนประชุมคณะใหญ่ปลายปี​

วันนี้ (20 ส.ค.2568) พล.อ.ณัฐ​พล​ นาคพาณิชย์​ รมช.กลาโหม​ รักษาราชการแทน รมว.กลาโหม​ กล่าวถึงกรณี​ทหารไทยพบโทรศัพท์ที่ภูมะเขือ และพบภาพและคลิปทหารกัมพูชากำลังฝังทุ่นระเบิด PMN-2 นอกจากนี้ในคลิปยังมีการพูดเป็นภาษาเขมร คล้ายกำลังสาธิตทุ่นระเบิด PMN-2 ว่า​

กรณีดังกล่าวจะทำ 2 อย่าง ในแง่ของนานาชาติจะเผยแพร่เพื่อให้สังคมโลกได้รับทราบว่า ห้วงเวลาที่ผ่านมา​ แม้ว่ารัฐบาลกัมพูชา​จะแสดงความจริงใจในการหยุดยิง​แต่กำลังพลหน้างานยังปฏิบัติการยั่วยุ​ ฝ่าฝืน ทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศ ถ้ารัฐบาลกัมพูชามีความจริงใจ ก็แสดงว่าทหารไม่มีวินัย ขณะนี้ตนมองอย่างนั้นก่อน ซึ่งถ้าพิสูจน์ได้ว่า รัฐบาลกัมพูชาไม่มีความจริงใจค่อยว่ากันอีกที

ดังนั้น สิ่งที่ต้องดำเนินการในขณะนี้ คือ ต้องดำเนินการให้สังคมรับทราบทั้งในและต่างประเทศ พร้อมขอให้สื่อมวลชนเสนอข่าวให้ชัดเจนว่า คณะกรรมการอนุสนธิสัญญาออตตาวา​ คณะกรรมการใหญ่ซึ่งอยู่ที่กรุงเจนีวา ซึ่งไทยมีเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทย​ ประจำสหประชาชาติ​ ณ​ นครเจนีวา​ ก็จะคอยติดตามขับเคลื่อน ซึ่งตนเคยบอกแล้วว่า จะมีการประชุมประจำปีในช่วงเดือน พ.ย. - ธ.ค.

แต่มีสื่อมวลชนบางสำนัก บอกให้รอเดือน พ.ย. - ธ.ค.​ ซึ่งจริง ๆ ไม่ใช่อย่างนั้น นั่นคือ กลไกหลักแต่ขณะเดียวกันเรามีหลักฐานเพิ่มเติมซึ่งตนรับทราบจากกระทรวงการต่างประเทศว่า คณะอนุกรรมการออตตาวา ได้ขอหลักฐานมาเรื่อย ๆ ดังนั้นกรณีที่พบหลักฐานเพิ่มเติมก็จะส่งเพิ่มเติมไป

ขณะเดียวกันนอกจากคณะกรรมการชุดใหญ่อยู่ที่นครเจนีวา ​ยังมีคณะกรรมการปฏิบัติ​ตามอนุสัญญาออตตาวาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น​ ซึ่งเราได้พยายามติดต่อประเทศญี่ปุ่นให้คณะกรรมการชุดนี้ลงพื้นที่มาดูก่อนก่อนที่จะถึงการประชุมใหญ่ ซึ่งทางญี่ปุ่นก็ตอบรับแต่ไทยยังรอขั้นตอนว่าจะลงมาได้เมื่อใด

ขณะเดียวกัน พล.อ.ณัฐพล​ กล่าวว่า​ กลไกการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ก็พยายามจะพูดคุยกับกัมพูชา ด้วยสภาพแวดล้อมสังคมข้อมูลข่าวสาร ก็น่าจะมีความกดดันกับกัมพูชาได้พอสมควร ดังนั้นในการประชุม GBC รอบหน้า จะยกเรื่องนี้มาหารืออีกว่า การเก็บกู้ทุ่นระเบิดจะทำอย่างไร​

อยากจะให้สื่อมวลชนเข้าใจว่า​ GBC​ หรือ​ ศบ.ทก.​จะใช้กลไกการปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม (RMAC) โดยจะดำเนินการในกรอบอาเซียน แม้ประเทศอื่นจะเข้ามาก็ขอให้เป็นในลักษณะการสนับสนุนเครื่องมือ จะไม่เอากำลังจากนอกภูมิภาคอาเซียนเข้ามา

ดังนั้น แนวทางการทำงานของ GBC และ ศบ.ทก. จะเน้นในเรื่องทวิภาคี​ แต่ถ้าเป็นพหุภาคีก็ขอให้อยู่ในกรอบอาเซียนซึ่งต้องทำให้เวทีโลกเห็นว่า อาเซียนสามารถดูแลกันเองได้ เป็นสิ่งที่ตนได้เน้นย้ำกับหน่วยปฏิบัติ ดังนั้นจึงอยากให้สื่อมวลชนเห็นว่า การทำงานมีเรื่องต้องคำนึงหลายด้านไม่ใช่เฉพาะเรื่องทหาร แต่ยังรวมถึง​ สังคมจิตวิทยาเศรษฐกิจ​ และการเมือง

หลักของเราเมื่อผมรับผิดชอบ​ GBC และ ศบ.ทก.​ไม่ว่าจะเป็นประเทศใหญ่อย่างไรก็ตาม ก็ถือหลักเดิมว่า ขอแก้ปัญหาด้วยกลไกทวิภาคีเป็นหลัก หลังจากนั้นในส่วนของพหุภาคีขอให้อยู่ในอาเซียน ประเทศอื่นขอให้เป็นเพียงผู้สังเกตการณ์อย่างเดียว

พร้อมย้ำว่า ฝ่ายความมั่นคงยึดถือนโยบายความสมดุลมาโดยตลอด สมมติว่า ถ้าจีนเข้ามาต่อไปสหรัฐฯก็จะขอเข้ามา ต่อไปประเทศอื่นก็จะขอเข้ามา นี่คือกรอบที่เราใช้อยู่ โดย พล.อ.ณัฐพล​ ยังกล่าวอีกว่า ขอให้สื่อมวลชนช่วยอธิบายกับสังคมและนักวิชาการ ให้เข้าใจความคิดของ ศบ.ทก.และ GBC เนื่องจากต้องคำนึงในหลายเรื่องและในหลายด้าน

ส่วนที่ทางกัมพูชา​ออกมาระบุว่า เป็นการสร้างหลักฐานของฝ่ายไทย โดยอ้างว่าชุดทหารในคลิปเป็นชุดจากทหารเชลยศึกทั้ง 18 คน​ พล.อ.ณัฐ​พล​ ยืนยันว่า​ ตราบใดที่ยึดมั่นในความจริง เครดิตเป็นสิ่งที่สังคมเชื่อถือ หลักฐานที่มีนั้นชาวโลกจะเชื่อถือใคร​ เราหรือกัมพูชา ตนจึงบอกว่า ตราบใดที่ยึดหลักความจริงแม้อาจจะล่าช้าไปบ้าง​ก็ต้องขออภัยเนื่องจากต้องตรวจสอบ ดังนั้นจึงไม่อาจตอบโต้หรือสวนกลับได้ทันที แต่ถ้าเป็นเฟกนิวส์จะสามารถตอบโต้และสวนกลับได้หมด

ยกตัวอย่างถ้าตนเป็นเพียงลุง​คนหนึ่ง ตนสวนได้ทันที​ เพราะข้อมูลมีอยู่แล้ว สวนได้​ หรือ นักวิชาการต่าง ๆ ที่ออกมาวิพากษ์ วิจารณ์​ ก็สวนได้ทันที​ จะพูดอะไรก็ได้ แต่เพราะตนเองเป็น ผอ.ศบ.ทก. ประธาน GBC และ รมช.กลาโหม จะพูดอย่างนั้นไม่ได้ ต้องตรวจสอบก่อน การใช้ความจริงสู้กับเฟกนิวส์ นั่น คือ เครดิตในระดับประเทศ ดังนั้นหลักของ ศบ.ทก. คือ ยึดถือความจริงไปสู้กับเฟกนิวส์​

พล.อ.ณัฐพล​ ยังย้ำว่า จะส่งหลักฐานที่พบไปให้ ก.ต่างประเทศ เพื่อส่งหลักฐานที่พบใหม่ให้กับประเทศที่ให้เงินทุนสนับสนุนในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดกับประเทศกัมพูชา และขณะนี้มีรายชื่อประเทศที่ให้การสนับสนุนทั้งหมดแล้ว ดังนั้นแต่ละประเทศจะตัดสินอย่างไรก็ต้องรอฟังข้อมูลอย่างรอบด้าน ตนมั่นใจว่า ข้อมูลของเรามีความน่าเชื่อถือ​ ความจริงอย่างไรก็บิดเบือนไม่ได้อยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่า RMAC มีกัมพูชาเป็นประธาน จะให้ความร่วมมือหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า กัมพูชาเป็นประธาน แต่อีก 9 ประเทศสมาชิก คงไม่ถูกครอบงำ​ได้ทั้งหมด​ พร้อมย้ำคำเดิมว่า​ เราต้องค่อย ๆ การสู้ด้วยความจริง​กฎหมาย สู้ด้วยความถูกต้อง​ ถึงแม้จะยากแต่ก็ยั่งยืน​

"โรม" ชี้ ต่อให้ไม่เจอคลิป "ทหารกัมพูชา​วางทุ่นระเบิด" ไทยก็แต้มต่อเยอะมาก 

ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทหารไทยได้พบโทรศัพท์ของกัมพูชามีการอัดคลิป พบว่า ​มีการใช้ทุ่นระเบิดและการวางระเบิดในเขตไทยว่า

ขณะนี้ไทยมีแต้มต่อเยอะมากแต่อยู่ที่ว่าจะใช้หรือไม่ ในเรื่องการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ต่อให้ไม่มีคลิปภาพนั้นก็มีหลักฐานเพียงพออยู่แล้วในการขยายผลของการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา​ แต่เท่าที่ตนดูนานาชาติยังไม่ได้มีการประณามกัมพูชาอย่างเป็นระบบ​ ยังอยู่ในขั้นของการนำเสนอข้อมูลให้นานาชาติ ซึ่งจริง ๆ แล้วเราได้นำเสนอกันไปพอสมควรแล้ว ก.ต่างประเทศ ต้องไปพิจารณาว่า​ เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงไม่มีการประณาม หรือ ตำหนิกัมพูชาที่ละเมิดอนุสัญญาในเรื่องนี้

ทั้งนี้ การมีภาพเพิ่มขึ้นและมีหลักฐานที่ชัดเจน ก็ถือเป็นข้อมูลหนึ่งที่เป็นประโยชน์ต่อฝั่งไทยอย่างแน่นอน แต่ฝั่งกัมพูชาก็จะสู้กลับว่าเป็นการจัดฉาก​ ก็ต้องชี้แจงนานาชาติให้เกิดความเข้าใจ​ว่า เรื่องจริงไม่ใช่แบบนั้น ต้องทำงานเชิงรุกต่อไป​ ก.ต่างประเทศ ต้องรอให้คนออกมาตำหนิครั้งหนึ่งถึงขยับทีหนึ่ง ซึ่งหากเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เราจะเสียเชิง

นายรังสิมันต์​ กล่าวว่า มากไปกว่านั้นต้องพากัมพูชาไปศาลอาญาระหว่างประเทศ ด้วยความที่กัมพูชาเป็นหนึ่งในภาคี เราสามารถดำเนินการเอาผิดได้ ซึ่งเรื่องนี้มีหลายมิติ ทั้งคอลเซนเตอร์ การโจมตีเป้าหมายพลเรือน จึงคิดว่า จุดนี้จะทำให้ไทยได้เปรียบทำให้แก้ปัญหาหลายเรื่องไปพร้อมกันได้

หากทำสำเร็จจะเป็นการสร้างสันติภาพระยะยาวตามแนวชายแดน ไม่อยากให้เป็นความขัดแย้งบาดหมางระหว่างคน 2 ชาติ ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากรัฐบาลพนมเปญและรัฐบาล​ ไทยไม่ควรทำให้เกิดการขยายวง ดังนั้น​ การใช้กลไกศาล ICC เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เท่าที่ปรึกษานักกฎหมายระหว่างประเทศ ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถฟ้องร้องได้ โดยมีรัฐบาลเป็นผู้อำนวยความสะดวก

เมื่อถามว่า การที่มติสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ขอฟ้องแค่ภายในประเทศ สะท้อนอะไรบ้าง นายรังสิมันต์​ กล่าวว่า ขั้นตอนในประเทศก็เป็นเพียงแค่ขั้นตอนส่งสัญญาณ แต่ถ้าไม่ดำเนินการจริงจัง​ ก็เท่านั้น ทุกคนในฝ่ายความมั่นคงทราบว่า กัมพูชาใช้ไทยเป็นฐานในการฟอกเงิน มีทรัพย์สินจำนวนมากอยู่ในประเทศไทย หากไม่มีการยึดทรัพย์อย่างแท้จริงก็เปล่าประโยชน์

ตนก็เป็นห่วงว่าที่ประเทศไทยยั้งมือ เพราะเรามีผลประโยชน์กับกัมพูชาเยอะหรือไม่ ถ้ามีเยอะก็เป็นไปได้ว่า เขาเอาเรื่องนี้มาต่อรอง ซึ่งรัฐบาลต้อง ออกมาตอบคำถามเพื่อสร้างความมั่นใจว่า ตัวเองไม่มีผลประโยชน์ในเรื่องนี้ เรียนตามตรงว่า ผลประโยชน์ของทั้ง 2 ตระกูล ก็คงมีมานาน แต่วันนี้ต้องยึดผลประโยชน์ของชาติ รัฐบาลควรยึดผลประโยชน์ของชาติให้มากที่สุด และใช้โอกาสนี้ในการสร้างสันติภาพระยะยาว"

อ่านข่าว :  สกัดจับ 21 ชาวกัมพูชาลอบเข้าไทย ซุกไร่อ้อยชายแดนสระแก้ว  

IOT ตรวจช่องอานม้า พบกัมพูชาละเมิดหยุดยิง UNHCR กลายเป็นบ่อน  

พล.อ.ประวิตร ให้กำลังใจ 8 ทหารบาดเจ็บ เหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา