วันนี้ (21 ส.ค.2568) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ตั้งกระทู้ถามสดต่อนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากประชาชนและพบว่า การเยียวยายังไม่ทั่วถึงและไม่เท่าเทียม เนื่องจากนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ติดภารกิจ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย จึงเป็นผู้ตอบกระทู้แทน
นายณัฐพงษ์ ขอบคุณ น.ส.ธีรรัตน์ ที่สละเวลามาตอบ และกล่าวว่าหากรัฐบาลสามารถสั่งการแก้ปัญหาได้ทันทีจะเป็นการดี หรืออย่างน้อยขอคำมั่นว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อคลายความกังวลของประชาชน ต่อมาได้เปิดคลิปวิดีโอจากการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งชาวบ้านและเจ้าหน้าที่สะท้อนปัญหาการเยียวยาที่ล่าช้าและยุ่งยาก เช่น การต้องจ่ายค่าถ่ายเอกสารแบบฟอร์มคำร้องของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 11 บาท รวมถึงความสับสนในขั้นตอนและการปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องกัน
นายณัฐพงษ์ระบุว่า ชาวบ้านเผชิญปัญหาความไม่ชัดเจน เช่น การยกเว้นค่าน้ำค่าไฟในเดือน ก.ค.-ส.ค. แต่บางครัวเรือนยังได้รับบิลจากเดือน มิ.ย. ทำให้เกิดความสงสัย นอกจากนี้ การจ่ายเงินชดเชยการสูญเสียรายได้ยังไม่ถึงมือประชาชน และชาวบ้านต้องการเยียวยาแบบถ้วนหน้ารายครัวเรือน พร้อมถามถึงการดูแลสวัสดิการของ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
รวมถึงยกตัวอย่างกรณีชาวบ้านที่หมูตายต้องพิสูจน์ว่าตายจากระเบิดหรือตกใจเสียงประทัด ซึ่งทำให้กระบวนการล่าช้า ผู้นำฝ่ายค้านตั้งคำถามว่าน้ำท่วมสามารถเยียวยาแบบถ้วนหน้าได้ ทำไมเหตุการณ์ชายแดนจึงทำไม่ได้
น.ส.ธีรรัตน์ ชี้แจงว่า กระทรวงมหาดไทยติดตามปัญหานี้ตั้งแต่เกิดเหตุ โดยอนุมัติงบ 100 ล้านบาท กระจายไปยังจังหวัดชายแดนเพื่อให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น (อปท.) ใช้ช่วยเหลือทันที รวมถึงมอบสิ่งของจำเป็นให้ผู้ที่กลับบ้าน สำหรับค่าน้ำค่าไฟ ได้ยกเว้นในเดือน ก.ค.-ส.ค. หากมีบิลจากเดือน มิ.ย. หรือ ต้น ก.ค. ได้ประสานให้หักกลบกับเดือนต่อไป
ยืนยันว่าได้สำรวจจำนวนผู้เดือดร้อน โดยกำหนดอัตราการช่วยเหลือตามระยะเวลาการอพยพ เพื่อให้การเยียวยาต่อเนื่องและไม่ช้าเกินไป
น.ส.ธีรรัตน์ระบุว่า การช่วยเหลือแบ่งเป็นระยะเร่งด่วน ปานกลาง และยาว โดยยึดหลักเกณฑ์ตามกฎหมายเพื่อให้งบประมาณถึงผู้ประสบภัยอย่างแท้จริง "ไม่ใช่การแจกกราด" สำหรับ ชรบ. มีงบประมาณสนับสนุนเพื่อให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ กรณีค่าถ่ายเอกสาร 11 บาท เธอชี้ว่าเป็นความเข้าใจผิด เจ้าหน้าที่ต้องจัดหาเอกสารให้ประชาชนโดยไม่โยนภาระ และย้ำว่ามีการให้บริการแบบวันสต็อปเซอร์วิสในหมู่บ้าน
ส่วนการเยียวยาน้ำท่วมที่รวดเร็วกว่า เพราะมีกฎเกณฑ์เดิมชัดเจน และยืนยันว่าแม้แต่หลังคารั่วเพียงเล็กน้อย เช่น ที่อุบลราชธานี ก็ได้รับการซ่อมแซมทันทีโดยร่วมมือกับสถานศึกษาและช่างอาชีวะ
นายณัฐพงษ์ตอบโต้ว่า ปัญหาคือช่องว่างระหว่างนโยบายของรัฐบาลกับการปฏิบัติในพื้นที่ ซึ่งทำให้ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่เครียดจากความไม่ชัดเจน ขอให้รัฐบาลกำหนดขั้นตอนการขอเงินเยียวยาให้ชัดเจนว่า ขอที่ใคร ใช้หลักเกณฑ์อะไร และระยะเวลาเท่าใด เพื่อให้ประชาชนไม่ต้องรอคอยด้วยความหวังลม ๆ แล้ง ๆ พร้อมทั้งระวังว่าจะตกข่าวหรือไม่ได้รับการช่วยเหลือ
อ่านข่าวอื่น :
"บิ๊กกุ้ง" ขอบคุณ "บักผีผ่วน" กำลังใจจากชาวครบุรี
"สมศักดิ์" ปัดตอบปม "หมอสุภัทร" ชี้เป็นเรื่องตรวจสอบตามกฎหมาย