วันนี้ (21 ส.ค.2568) สำนักข่าวเบอร์นามา ของมาเลเซียรายงานว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เสนอให้เพิ่ม ผู้สังเกตการณ์นานาชาติ นอกเหนือจากคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) จากชาติอาเซียน เพื่อตรวจสอบการบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงระหว่าง ไทย-กัมพูชา โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความปลอดภัยและเสถียรภาพในภูมิภาค
อันวาร์ระบุว่า ข้อเสนอนี้ต้องการให้เกิดความสมดุล เนื่องจากพบว่าผู้สังเกตการณ์ฝั่งไทยมีจำนวนมากกว่าฝั่งกัมพูชา พร้อมย้ำว่า ไม่ใช่การแทรกแซงจากภายนอก
อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีไทย ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว หลังหารือกับอันวาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (19 ส.ค.) โดยยืนยันว่าความขัดแย้งชายแดนควรเป็นเรื่องระหว่าง 2 ประเทศเท่านั้น และหากต้องเพิ่มผู้สังเกตการณ์ ควรมาจากชาติอาเซียน อันวาร์ตอบรับคำอธิบายนี้
ในอีกด้าน พล.ท.หญิง.มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์กระทรวงสารสนเทศกัมพูชา เรียกร้องให้ไทย ยุติการเผยแพร่ข่าวปลอมและบิดเบือนข้อมูล เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับการเจรจาอย่างสันติ และยืนยันว่า กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และการเผยแพร่ข้อมูลเท็จของไทยเป็นอุปสรรคต่อการลดความตึงเครียดและส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน โฆษกรัฐบาลกัมพูชายังเรียกร้องให้ประชาชนรับข้อมูลจากช่องทางทางการเท่านั้น พร้อมระบุว่า ข่าวปลอมจากไทยไม่มีผลต่อกัมพูชา
สำนักข่าวขแมร์ ไทม์ส ยังรายงานคำให้สัมภาษณ์ของรองประธานหน่วยงานปฏิบัติการเก็บกู้และช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิดกัมพูชา (CMAA) ที่ประณามกองทัพไทยว่ากระทำการ ใช้ฟอสฟอรัสขาว โจมตีทหารและพลเรือนกัมพูชา ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ ไม่อาจยอมรับได้ และ ขัดต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
ผู้อำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดกัมพูชา (CMAC) ระบุว่า พบกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 มม. ของไทยที่บรรจุฟอสฟอรัสขาวใน จ.อุดรมีชัย ซึ่งก่อให้เกิดประกายไฟและควันพิษ ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ป่วย
อ่านข่าวอื่น :
ประชุม RBC ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ "ทภ.1 - ภท.5" เริ่มแล้ว
รัฐบาลยันไม่เก็บค่าน้ำ-ค่าไฟ พื้นที่อพยพชายแดน บิลเดือน ก.ค-ส.ค.