ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สอท.จับตา สแกนม่านตา Worldcoin เสี่ยงข้อมูลรั่ว

อาชญากรรม
16:08
709
สอท.จับตา สแกนม่านตา Worldcoin เสี่ยงข้อมูลรั่ว
อ่านให้ฟัง
03:32อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สอท.เตรียมเสนอควบคุมโครงการสแกนม่านตา Worldcoin ในไทย หลังพบ 2 บริษัทเอกชนตั้งบูธชวนสแกนแลกเงินดิจิทัลเกือบ 1,000 บาท หวั่นข้อมูลชีวมิติรั่วไหลถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แม้เบื้องต้นยังไม่พบผู้เสียหาย แต่เตือนประชาชนระวังการให้ข้อมูลส่วนตัว

วันนี้ (22 ส.ค.2568) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) เผยว่า สอท.เตรียมยื่นข้อเสนอให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พิจารณาอนุญาตให้ดำเนินการ โครงการสแกนม่านตา World ID – Worldcoin ในประเทศไทย หลังถูกจับตาเรื่องความเสี่ยง ข้อมูลชีวมิติรั่วไหล ไปยังเครือข่ายคอลเซนเตอร์

โครงการนี้ดำเนินการโดยบริษัทเอกชน 2 แห่งในไทย คือ เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) และ ทีไอดีซี เวิลด์เวิร์ส จำกัด ซึ่งใช้เทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์เพื่อเก็บข้อมูลม่านตา ยืนยันว่าเป็น มนุษย์ ไม่ใช่บอตหรือ AI ในระบบ World ID ของ Worldcoin บริษัทสัญชาติสหรัฐฯ พบการตั้งบูธประชาสัมพันธ์ใน จ.พัทลุง ชักชวนสแกนม่านตาแลก สกุลเงินดิจิทัลมูลค่าเกือบ 1,000 บาท ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงสั่ง ยุติชั่วคราว เพื่อตรวจสอบ

บริษัททั้งสองชี้แจงว่า ไม่มีนโยบายจ่ายค่าตอบแทนในไทย เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดว่าชักจูงด้วยเงิน พร้อมยืนยันว่า ไม่เก็บข้อมูลม่านตาถาวร โดยจะลบทันทีหลังใช้งาน และส่งหลักฐานให้ สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) ตรวจสอบ สอท.ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า การดำเนินงานของทั้ง 2 บริษัท ถูกต้องตามกฎหมาย และคล้ายกับการดำเนินการในหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม สเปน อินโดนีเซีย เยอรมนี และโปรตุเกส สั่งยุติและปิดกั้นข้อมูลบางส่วนเพื่อป้องกันการรั่วไหล

หน่วยงานรัฐไทยประชุมหารือมาตรการควบคุมแล้ว โดย กองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี วิเคราะห์ผลกระทบและเสนอความเห็นต่อ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สอท. เพื่อประสานกระทรวงดีอีและหน่วยงานอื่นควบคุมโครงการ เนื่องจากข้อมูลม่านตาเป็น ข้อมูลอ่อนไหว เบื้องต้นยังไม่พบผู้เสียหายหรือการกระทำผิดกฎหมาย แต่หากพบการละเมิดหรือนำข้อมูลไปใช้ในทางมิชอบ จะดำเนินคดีทันที

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ฝากเตือนประชาชนให้ ระวังการให้ข้อมูลส่วนบุคคล หรือสแกนใบหน้าในโครงการที่ไม่ใช่ของหน่วยงานรัฐ ปัจจุบัน สอท.ไม่มีอำนาจสั่งยุติโครงการนี้

อ่านข่าวอื่น : 

"พล.อ.ณัฐพล" ย้ำคุมตัวเชลยศึก ปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา

ตร.ไซเบอร์จับกุม "ม้ากดเงิน" เครือข่ายคอลเซนเตอร์ข้ามชาติ