โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เป็นไปตามคำกล่าวของ “ชัยเกษม นิติสิริ” ที่เพิ่งเดินทางเข้ามายังพรรคเพื่อไทยครั้งแรก พร้อม “แพทองธาร ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ( 2 ก.ย.2568) หลังมีรายงานอย่างไม่เป็นทางการ ระบุว่า พรรคประชาชน พร้อมโหวตสนับสนุน “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นั่งตำแหน่งนายกฯคนที่ 32 ของประเทศ
โดยวันพรุ่งนี้ ( 3 ก.ย.) จะมีการนัดลงนามข้อตกลงระหว่างทั้ง 2 พรรค ส่วนเพื่อไทยพลิกสู้ทันที หลังเกิดข่าวลือสะพัดว่า “ภูมิธรรม เวชยชัย” รักษาการนายกฯ เดินหน้ายื่นยุบสภาทันที
ท่ามกลางรายงานข่าวจากวงเลี้ยงสังสรรค์ “ฉลาด ขามช่วง” ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นรองประธานสภาคนที่หนึ่ง เมื่อวานนี้ (1 ก.ย.2568 ) ว่ามีเสียงเปรยจาก “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้นำจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทยที่เดินทางมาร่วมยินดี พูดถึง ผู้กองธรรมนัส “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า“ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม ช่วงหนึ่งว่า “พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด“ ทำให้สส.ที่อยู่ในวงสวนทันทีว่า "โดนคนหลอกตลอด"
ระหว่างนี้ครม.ก็ทิ้งทวน แต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง 15 ราย คือ จักรพงษ์ แสงมณี ตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี, สมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง, น.ส.ธีราภา ไพโรหกุล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง, ณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง
ธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง, ศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง, ชื่นชอบ คงอุดม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง, พงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง, ฉัตริน จันทร์หอม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง, กฤช เอื้อวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, ธเนศ กิตติธเนศวร เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรวีภัทร์ จิรศักดิ์วัฒนา เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ครม.มีมติอนุมัติตามที่รมว.แรงงาน เสนอโอน “พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์”เลขาศอ.บต.น้องรักของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นั่งตำแหน่งปลัดกระทรวงแรงงาน เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง
ในขณะที่พรรคประชาชนยังไม่ได้ข้อยุติ แม้จะประชุมมา 2 รอบแล้ว เรื่องแนวทางการโหวตนายกคนที่ 32 โดยมี “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน, ศิริกัญญา ตันสกุล, ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล วิปฝ่ายค้าน พร้อมฝ่ายกฎหมายของพรรค และสส.ของพรรค เข้าประชุมถ้วนหน้า แต่ที่สุดก็ยังมีไม่มติออกมา ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่าพร้อมหนุน “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
ซึ่งก่อนหน้้านี้ระบุว่า หากค่ายส้มเดินหน้าหนุน ก็จะเดินทางมาที่พรรคประชาชนทันทีและจะเดินหน้าต่อ วางไทม์ไลน์ 120 วัน ยุบสภาและตกลงทำตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ แต่ในที่สุดมีการแจ้งนักข่าวว่า หัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคฯ ไม่ได้เดินทางไป
เตือนให้อยู่ในหลักกฎหมาย “บังซุป” ศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เตือนผู้บริหารดีเอสไอ อย่าทำเพื่อสนองการเมือง หลังออกมาเคลื่อนไหวในคดีเขากระโดง โดยระบุถึงการครอบครองที่ดินโดยมิชอบ การอำพรางนิติกรรม และการบุกรุกลำคลองสาธารณะ ว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด และยังไม่มีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิของกรมที่ดินในที่ดินพิพาท 995 แปลง ถือเป็นพฤติการณ์ที่สุ่มเสี่ยงอย่างยิ่งต่อการฝ่าฝืนหลักกฎหมาย และแสดงถึงความพยายามใช้อำนาจสอบสวนเบื้องต้นในทางที่เกินเลย
ในทางกฎหมาย DSI ยังไม่ได้มีคำสั่งรับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษตามกระบวนการตามมาตรา 21 แห่ง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ที่จะต้องผ่านการพิจารณาโดยคณะกรรมการคดีพิเศษเสียก่อน การที่เจ้าหน้าที่ในระดับบริหารออกมาแสดงท่าทีชี้นำต่อสาธารณะถึงความผิด หรือกล่าวหาว่ามีการอำพรางนิติกรรม ทั้งที่กระบวนการยังไม่เริ่มต้น
ข้อเท็จจริง คือ การรถไฟแห่งประเทศไทยยังไม่มีเอกสารสิทธิรับรองกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท นอกเหนือจากบางแปลงที่มีคำพิพากษาเฉพาะราย กรมที่ดินได้ใช้อำนาจตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินโดยแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนอย่างเป็นทางการแล้ว และคณะกรรมการได้มีมติ “ไม่เพิกถอน” โฉนดที่ดินจำนวน 995 แปลง เนื่องจากไม่มีหลักฐานชัดเจนเพียงพอว่าเอกสารสิทธิเหล่านั้นออกโดยไม่ชอบ
เมื่อข้อพิพาทนี้ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่ 395/2568 และยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด DSI จึงไม่มีอำนาจใดในการเข้าชี้นำสาธารณะ หรือตั้งข้อกล่าวหาอาญาใด ๆ จึงถือเข้าข่ายมาตรา 157 ในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วย
แค่ข่าวลือ “ร่มธรรม ขำนุรักษ์” สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาสยบข่าว “โหวตเลือกนายก” โดยยืนยันว่ายังคงทำหน้าที่ตามมติพรรค ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการโหวตสนับสนุนใคร หรือร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองอื่น
“ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ พรรคจึงยังไม่ได้มีมติว่าจะไปในทิศทางใด เห็นด้วยกับเงื่อนไขที่ทุกพรรค คือการ "เดินหน้าสู่การยุบสภาและเลือกตั้ง" เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน และการ "เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ”
ต้องจับตาดูว่า ค่ายส้มที่กำลังถือไพ่เหนือกว่า ทั้งแดงและน้ำเงิน จะปล่อยให้สส. ฟรีโหวตหรือไม่ หากไม่มีมติออกมาชัดเจน
อ่านข่าว :
- "ฉลาด" แจงนัดโหวตนายกฯ อยู่ที่ฝ่ายการเมือง คาดเร็วสุด 5 ก.ย.นี้
- ปชน.แนะเพื่อไทยยุบสภาอย่ารอโหวตนายกฯ จี้ชัดแคนดิเดต
- แกนนำหลายพรรคชี้ "ยุบสภาฯ" ทำได้เลย ไม่ต้องหารือ ครม.