น้ำใจเพื่อนสร้างบ้านใหม่ คืนรอยยิ้ม "พิทักษ์ป่า" ชายแดนไทย-กัมพูชา

สองมือของเพื่อนพี่น้องเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าเขาพระวิหาร กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ช่วยกันผสมปูน ก่ออิฐมวลเบาทีละก้อน ๆ ติดตั้งประตู หน้าต่าง สร้างบ้านพักหลังใหม่ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ให้ "ศักดา ชินราช" และครอบครัว

เหตุกัมพูชาโจมตีด้วย BM 21 ใส่พื้นที่พลเรือน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทำให้บ้านพักของศักดาเสียหายทั้งหลัง รวมถึงบ้านพักเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เขาพระวิหาร เสียหายรวม 6 หลัง

ไม่เหลืออะไรสักอย่าง ทั้งโทรทัศน์ พัดลม ตู้เย็น สิ่งของ และบ้านพังเสียหายทั้งหมด

บ้านพักเสียหายจากเหตุกัมพูชาโจมตี

ทุกวันนี้ศักดาและครอบครัว นำแผ่นป้ายไวนิล และสแลนกันแดด ทำเป็นเพิงพักอยู่อาศัยชั่วคราว แม้จะไม่ได้สบายนัก และมีน้ำฝนสาดเข้ามาบ้าง แต่อีกไม่นานเขาจะได้อยู่ในบ้านที่อบอุ่นร่วมกับพ่อและแม่เช่นเคย

เพิงพักชั่วคราวระหว่างรอบ้านหลังใหม่

ศักดา บอกว่า ในช่วงเกิดเหตุการณ์ตนเองไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนี้ เพราะไปช่วยทำหน้าที่ส่งอาหารและน้ำดื่ม รวมทั้งตรวจตราบ้านพักและสิ่งของให้ประชาชน ซึ่งหลายครอบครัวต้องอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิง เช่นเดียวกับครอบครัวของเขา

เจ้าหน้าที่วางโครงสร้างบ้านหลังใหม่ของศักดาและครอบครัว

ภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือประชาชน ขอบคุณพี่น้องและผู้ใหญ่ที่เข้ามาช่วยเหลือสร้างบ้านหลังใหม่

แม้จะรู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัยบ้าง โดยเฉพาะทุ่นระเบิดที่ฝ่ายกัมพูชาลอบนำมาฝังใหม่ แต่ในอนาคตเมื่อทางหน่วยต้องกลับมาลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาอีกครั้ง ศักดาบอกว่าเขาพร้อมยืนหยัดทำหน้าที่และลาดตระเวนดูแลทรัพยากรธรรมชาติ สัตว์ป่า และผืนป่า

ร้องไห้เมื่อรู้ข่าวบ้านเสียหายทั้งหลัง รู้สึกใจหายทุกครั้งที่มองไปยังเศษซากของบ้าน

"หนูเวียง ไชยขันตรี" อายุ 53 ปี แม่ของศักดา เล่าย้อนเหตุการณ์เมื่อทราบข่าวว่าบ้านพักที่เธอและครอบครัวอยู่อาศัยมานาน 13 ปี เสียหายทั้งหลัง ขณะนั้นเธอได้อพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวระหว่างสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงรุนแรง

คิดว่าทำยังไงจะได้บ้านคืนมา เพราะแก่แล้ว ทุกวันนี้มีรายได้จากการรับจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น หมดหนทางจะหาเงินมาสร้างบ้านใหม่

เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ผ่านมาเดือนกว่าแล้ว แต่ทุกวันนี้ หนูเวียง ยังหวาดระแวงและตกใจเมื่อได้ยินเสียงดัง เช่น เสียงฟ้าร้อง เธอกังวลว่าจะเกิดเหตุรุนแรงซ้ำ โดยเตรียมพร้อมเสื้อผ้า และสิ่งของจำเป็นใส่ไว้กล่องลัง หากต้องกลับไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวอีกครั้ง

ดีใจจะได้มีที่นอน และได้บ้านคืนมา ขวัญกำลังใจเริ่มดีขึ้น

หนูเวียง กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง ซึ่งอุทยานฯ มอบเงินบริจาคผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ รวมทั้งเพื่อน ๆ ที่ทำงานของลูกชาย เข้ามาช่วยสร้างบ้านหลังใหม่ให้เธอและครอบครัวได้กลับมาอยู่ร่วมกัน โดยภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลชาวบ้านและผืนป่า

นอกจากฟื้นฟูที่พักอาศัยแล้ว กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยา สร้างขวัญและกำลังใจให้ "ผู้พิทักษ์ป่า" ที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องผืนป่าและทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของชาติไทย