ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

โจทย์ท้าทายกระตุ้นเศรษฐกิจ "อนุทิน" ฟื้นคนละครึ่ง เดินหน้ารถไฟฟ้า 20 บาท

เศรษฐกิจ
20:21
217
โจทย์ท้าทายกระตุ้นเศรษฐกิจ "อนุทิน" ฟื้นคนละครึ่ง เดินหน้ารถไฟฟ้า 20 บาท
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ คนที่ 32 ประกาศเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ และหนี้สิน โดยปัดฝุ่นโครงการคนละครึ่ง สานต่อนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท และหวยเกษียณ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น พร้อมวางรากฐานระยะยาว ภายใต้งบประมาณจำกัด

วันนี้ (7 ก.ย.2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย กล่าวในคำแถลงเบื้องต้นหลังรับตำแหน่งว่า ลำดับแรกของรัฐบาลคือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ พลังงาน การเดินทางขนส่ง หนี้สิน และรายได้ของประชาชน ซึ่งถือเป็นความท้าทายสำคัญของรัฐบาลเฉพาะกิจที่มีระยะเวลาดำเนินงานจำกัดเพียง 4 เดือน และต้องบริหารจัดการภายใต้งบประมาณที่จำกัด

แกนนำพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า รัฐบาลมีแผนนำโครงการคนละครึ่งกลับมาดำเนินการอีกครั้ง โดยสามารถเริ่มได้ภายใน 1 เดือน ด้วยการใช้โครงสร้างเดิมผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 50 ล้านครั้ง และระบบถุงเงินสำหรับร้านค้าที่พร้อมใช้งานโดยไม่ต้องปรับปรุงใหม่ โครงการคนละครึ่ง ซึ่งเคยดำเนินการในช่วงปี 2563-2565 หลังวิกฤตโควิด-19 เป็นนโยบายที่ได้รับความนิยม ช่วยให้ประชาชนจ่ายเงินเพียงครึ่งเดียว โดยรัฐสนับสนุนส่วนที่เหลือ ส่งผลให้ร้านค้ารายย่อยมีรายได้เพิ่มขึ้น และประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้น

ตัวแทนผู้ค้าแสดงความเห็นด้วยกับการนำโครงการนี้กลับมา เนื่องจากพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ โดยในระยะเวลา 4 เดือนของรัฐบาล อาจพิจารณาจ่ายวงเงินเดือนละ 1,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเห็นผล นายสมชาย ตัวแทนผู้ค้า กล่าวถึงความคาดหวังต่อนโยบายนี้ว่า ช่วยเพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นการค้าขายในชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ รัฐบาลอาจสานต่อนโยบายที่วางรากฐานไว้ในสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งเพิ่งเริ่มลงทะเบียนก่อนที่รัฐบาลชุดก่อนจะสิ้นสุดอำนาจ ร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางราง กฎหมายตั๋วร่วม และกฎหมายการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และรอพิจารณาในวุฒิสภา หากได้รับการอนุมัติและประกาศในราชกิจจานุเบกษา จะสามารถเดินหน้าต่อได้ทันที โดยอาจใช้กองทุนตั๋วร่วมหรืองบประมาณกลางเป็นการชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม นักวิชาการด้านการขนส่งชี้ว่า การยึดติดกับค่าโดยสาร 20 บาทอาจต้องใช้เงินชดเชยจำนวนมากถึงหลักพันล้านถึงหมื่นล้านบาท ตามที่พรรคเพื่อไทยเคยประเมิน แต่หากปรับเป็นอัตราค่าโดยสารที่ถูกลงและเหมาะสมกับค่าครองชีพ นโยบายนี้ยังมีโอกาสดำเนินการได้ทันภายในกรอบเวลา

อีกหนึ่งนโยบายที่อยู่ในความสนใจคือ "หวยเกษียณ" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกองทุนการออมแห่งชาติ โดยมีหลักการให้ประชาชนซื้อสลากใบละ 50 บาท เพื่อเสี่ยงโชค โดยรางวัลสูงสุด 1 ล้านบาท ออกรางวัลทุกวันศุกร์ จำกัดการซื้อเดือนละไม่เกิน 3,000 บาท เงินที่ซื้อสลากจะถูกเก็บไว้เป็นเงินออมสำหรับใช้หลังอายุ 60 ปี เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ ปัจจุบันร่างกฎหมายหวยเกษียณผ่านสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนท่วมท้น และมีกำหนดเข้าพิจารณาในวุฒิสภาในวันที่ 8-9 ก.ย.2568 หากผ่านการพิจารณาจะสามารถเริ่มขายสลากได้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

ดร.นณริฎ พิศลยบุตร นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ เสนอว่า รัฐบาลควรดำเนินนโยบายระยะสั้นอย่างเหมาะสม แต่ต้องให้ความสำคัญกับการวางรากฐานเศรษฐกิจระยะยาวควบคู่กัน เพื่อพิสูจน์ว่ารัฐบาลภูมิใจไทยยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก การสานต่อและปัดฝุ่นนโยบายที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว รวมถึงการนำนโยบายที่ผ่านกฎหมายแล้วมาทำให้เกิดผลเป็นรูปธรรม จะเป็นแนวทางที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน

อ่านข่าวอื่น:

"ฮุน มาเนต" ยินดี "อนุทิน" นั่งนายกฯ พร้อมฟื้นสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา

ฝนตกต่อเนื่อง น้ำท่วมหนัก พิจิตร-อ่างทอง เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม