วันนี้ (9 ก.ย.2568) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งบังคับโทษว่าถึงที่สุดหรือไม่ ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ขณะที่นายทักษิณออกจากบ้านจันทร์ส่องหล้า ตั้งแต่เวลา 09.07 น. เพื่อเดินทางไปรับฟังคำสั่งศาลด้วยตัวเอง
อ่านข่าว : "ทักษิณ" เดินทางถึงไทยแล้ว ก่อนศาลฯ ตัดสินคดีชั้น 14

"ทักษิณ ชินวัตร" พร้อม น.ส.พินทองทา และ น.ส.แพทองธาร ลูกสาว เดินทางมาถึงศาลฎีกา เพื่อร่วมรับฟังคำสั่งบังคับโทษทักษิณ คดีชั้น 14 วันที่ 9 ก.ย.2568
"ทักษิณ ชินวัตร" พร้อม น.ส.พินทองทา และ น.ส.แพทองธาร ลูกสาว เดินทางมาถึงศาลฎีกา เพื่อร่วมรับฟังคำสั่งบังคับโทษทักษิณ คดีชั้น 14 วันที่ 9 ก.ย.2568
ขณะที่ตั้งแต่ช่วงเช้า กลุ่มมวลชนส่วนใหญ่ได้สวมเสื้อแดงเพื่อมาให้กำลังใจ นายทักษิณ และช่วงเวลา 09.27 น. นายทักษิณเดินทางมาถึงบริเวณทางเข้าศาลฎีกา ประตูด้านหลัง ท่ามกลางเสียงตะโกนให้กำลังใจจากมวลชน พร้อมโบกมือทักทายประชาชนและสื่อมวลชนที่รอทำข่าว
หนึ่งในกลุ่มมวลชนเสื้อแดงเปิดเผยว่า การที่นายทักษิณ เดินทางกลับเข้ามาในประเทศและมาฟังคำตัดสินของศาลในวันนี้ เพื่อพิสูจน์ความคิดของตัวเอง ซึ่งผลการตัดสินของศาลในวันนี้จะเป็นเช่นไรก็พร้อมยอมรับ แต่ยังคงให้กำลังใจนายทักษิณอยู่เสมอ

ด้าน มาตรการการรักษาความปลอดภัยโดยรอบศาลฎีกา เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมเจ้าหน้าที่จากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 กว่า 100 นาย ตรึงกำลังรอบศาล มีการจำกัดพื้นที่โดยใช้แผงกั้นเหล็กมากั้นเอาไว้ สำหรับสื่อมวลชนและมวลชนที่เข้ามาให้กำลังใจนายทักษิณ ซึ่งจัดพื้นที่อยู่บริเวณด้านหลังประตูของศาลฎีกาถนนราชินีบริเวณคลองหลอด
ขณะที่ ภายในของศาลฎีกามีการตรวจเข้ม อนุญาตเฉพาะผู้เกี่ยวข้องในคดีและสื่อมวลชนที่ได้รับการลงทะเบียนเข้าออกเพียงเท่านั้น ส่วนพื้นที่ด้านหน้าศาลตรงข้ามสนามหลวง เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้มวลชนหรือสื่อมวลชนอยู่บริเวณนั้น เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการจราจรในพื้นที่โดยรอบ

ตำรวจควบคุมฝูงชน บช.น.จำนวน 1 กองร้อย กระจายกำลังดูแลพื้นที่โดยรอบเพื่อรักษาความปลอดภัยและดูแลความสงบเรียบร้อย
ตำรวจควบคุมฝูงชน บช.น.จำนวน 1 กองร้อย กระจายกำลังดูแลพื้นที่โดยรอบเพื่อรักษาความปลอดภัยและดูแลความสงบเรียบร้อย
คดีนี้ ศาลฎีกาฯ นัดฟังคำสั่งบังคับโทษถึงที่สุดหรือไม่ของนายทักษิณ ในวันนี้ สืบเนื่องจาก นายทักษิณ อดีตนายกฯ ที่เดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2566 ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปรับโทษ ใน 3 คดี คือ คดีทุจริตที่ดินรัชดา 3 , คดีหวยบนดิน จำคุก 2 ปี, คดีธนาคารกรุงเทพปล่อยกู้กฤษดามหานคร จำคุก 3 ปี โดยถูกคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อรับโทษ ก่อนที่จะได้รับพระราชทานอภัยลดโทษแก่นายทักษิณจากโทษจำคุก 8 ปี เหลือโทษจำคุก 1 ปี
แต่ในคืนวันที่ 22 ส.ค. อดีตนายกฯ เกิดอาการป่วยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ส่งตัวไปยังโรงพยาบาลตำรวจ โดย พักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 จนกระทั่งได้รับพักโทษ เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2567 นำมาสู่เสียงวิจารณ์จากหลายฝ่าย ตั้งคำถามว่าตกลง "ป่วยจริง" หรือไม่ ทำให้ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ไปยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯให้ตรวจสอบนายทักษิณ แต่ศาลมีคำสั่งยกคำร้อง เนื่องจากไม่ใช่คู่กรณี
โดยศาลฎีกาฯจะเป็นผู้ไต่สวนเอง ก่อนนัดไต่สวน ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษคนปัจจุบันอย่างนายมานพ ชมชื่น ในวันที่ 13 มิ.ย.เกี่ยวกับข้อเท็จจริงของขั้นตอนการส่งตัวผู้ป่วยไปรักษานอกเรือนจำ ก่อนที่จะออกหมายเรียกพยานมาไต่สวนกว่า 30 ปากที่ เป็นกลุ่มแพทย์และพยาบาลเวร ทั้งในเรือนจำ รพ.ราชทัณฑ์พัศดีเวรและผู้ควบคุมตัว อดีตนายกฯ ผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ กลุ่มแพทย์ รพ.ตำรวจบุคลากรแพทยสภาและปิดท้าย นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ ก่อนที่ ศาลนัดฟังคำสั่ง 10.00 น. โดยออกหมายเรียก นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษ และ นายทักษิณเข้ามาฟังคำสั่งด้วย
อ่านข่าว : เปิด 3 แนวทางคำสั่งของศาลฎีกาฯ คดี "ทักษิณ" ชั้น 14 วันที่ 9 ก.ย.นี้