วันนี้ (13 ก.ย.2568) รศ.ชูโชค อายุพงศ์ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณี ประธาน กสม. มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้ทบทวนการรื้อฝายพญาคำ ฝายหนองผึ้ง และฝายท่าวังตาล จ.เชียงใหม่ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อกลุ่มผู้ใช้น้ำและมรดกทางวัฒนธรรม
อ่านข่าว : กสม.ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ให้ทบทวนรื้อเหมืองฝาย จ.เชียงใหม่

รศ.ชูโชคระบุ ว่า ในฐานะที่ตนเป็นอาจารย์สอนวิศวกรรมชลศาสตร์ มาหลายสิบปี และตามหลักวิชาการที่เป็นวิทยาศาสตร์ ขอยืนยันว่า
1.ฝายหินทิ้ง 3 แห่ง ในแม่น้ำปิงเขตเมืองเชียงใหม่ เป็นสิ่งกีดขวางทางน้ำ ทำให้น้ำยกระดับสูงกว่าปกติเป็นอย่างมาก และเป็นตัวเร่งการตกตะกอน
2.ฝายพญาคำ ดั้งเดิมเป็นฝายไม้ไผ่ มีการเสื่อมสภาพตามเวลาในรอบปี ต้องมีการซ่อมเสริมทุกปี ที่เรียกว่ากิจกรรมการตีฝาย และความเป็นฝายไม้ไผ่นี้เอง เมื่อน้ำหลากก็พังไปตามแรงน้ำ ทำให้ฝายไม่ได้เป็นสิ่งกีดขวางลำน้ำ
3.เมื่อไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ฝายทั้ง 3 แห่ง ได้ถูกเปลี่ยนมาทำเป็นฝายถาวร โดยใช้หินทิ้ง ไม่เสื่อมสภาพตามรอบฤดูกาล ทำให้เกิดการกักตะกอนและระดับน้ำยกตัวสูงขึ้นด้านหน้าฝาย และไม่นับว่าเป็นฝายโบราณแบบดั้งเดิม และไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรม

4.ตั้งแต่ปี 2556 ประตูระบายน้ำท่าวังตาลสร้างเสร็จ เพื่อทดแทนฝายหินทั้งสาม ได้พิสูจน์แล้วว่า สามารถทดน้ำเข้าปากเหมืองได้จริงจนถึงปัจจุบัน ซึ่งแม้แต่ในฤดูแล้ง ยังสามารถทดน้ำให้มีระดับสูงกว่าระดับสันฝายหินทิ้ง ทั้งสามแห่งได้ โดยกลุ่มผู้ใช้น้ำรับทราบและใช้งานจริงตลอดมา กลุ่มผู้ใช้น้ำได้ลงนามใน MOU เห็นชอบให้รื้อฝายได้
5.การรื้อฝายหินทิ้งทั้งสาม เพื่อลดความรุนแรงของน้ำท่วม ไม่ได้สร้างผลกระทบด้านการใช้น้ำกับกลุ่มผู้ใช้ และยังช่วยประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมอีกนับแสนครัวเรือน รวมทั้งเป็นการคืนธรรมชาติให้แม่น้ำปิง

6.ตะกอนในแม่น้ำจำนวนมาก และฝายหินทิ้งเป็นสิ่งกีดขวางทางน้ำ ทำให้ระดับน้ำในช่วงน้ำหลากจะยกตัวสูงขึ้นกว่าปกติมาก ทำให้เกิดการเอ่อล้นตลิ่งเพิ่มขึ้นมากจนเกิดน้ำท่วม ซึ่งกิจกรรมการขุดลอก และปรับสภาพฝาย ต้องทำควบคู่กันจึงจะสามารถลดระดับน้ำท่วมลงได้ผลจริง
7.จากการดำเนินการโครงการขุดลอก และได้ปรับสภาพฝายไปบางส่วนแล้ว พบว่า ตอนเกิดพายุสองครั้งที่ผ่านมา มีมวลน้ำหลากเข้ามา ตรวจวัดค่าระดับน้ำในแม่น้ำปิงเขตเมืองลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับระดับน้ำก่อนทำโครงการ (เทียบกับอัตราการไหลของแม่น้ำปิงในเขตเมืองที่เท่ากัน)

8.มาตรการแก้ไขน้ำท่วมล้นตลิ่ง มีหลากหลายวิธีต้องทำผสมผสานกัน บางอย่างต้องใช้เวลานานทั้งในข้อกฎหมายและพื้นที่ แต่ความเดือนร้อนประชาชนรอไม่ได้ ดังนี้การแก้ในระยะเร่งด่วนให้ตรงจุดจึงจำเป็นต้องทำการขุดลอกและปรับฝายก่อน ซึ่งช่วยลดความรุนแรงได้จริง
9.ขอทำความเข้าใจในเหตุผลทางวิชาการที่เป็นวิทยาศาสตร์ กับข่าวท่านประธาน กสม. มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้ทบทวนการรื้อฝายพญาคำ ฝายหนองผึ้ง และฝายท่าวังตาล จ.เชียงใหม่
อ่านข่าว : CTG เป็นใคร? เสนอ “โครงการโดรนเกษตรอัจฉริยะ” ให้กองทัพภาคที่ 2