วันนี้ ( 14 ก.ย.2568) “ราชกิจจานุเบกษา” เผยแพร่พระราชกฤษฎีกากำหนดระยะเวลาเริ่มดำเนินการจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง พ.ศ. 2568 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ
สาระสำคัญของพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เลื่อนการจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ไปเริ่มต้นวันที่ 1 ตุลาคม 2569 รวมถึงยกเลิกพระราชกฤษฎีกาฉบับเดิม (พ.ศ. 2567) ที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้รักษาการตามพระราชกฤษฎีกา
ทั้งนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

ในหมายเหตุท้ายพระราชกฤษฎีกา ระบุเหตุผลของการเลื่อนว่า เดิมพระราชกฤษฎีกาปี 2567 กำหนดให้เริ่มเก็บเงินสะสมและสมทบตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ผันผวนและชะลอตัว ส่งผลให้ผู้ประกอบการ นายจ้าง และลูกจ้าง ต้องปรับตัวและเผชิญการแข่งขันรุนแรงทั้งในและต่างประเทศ อันกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม
รัฐบาลจึงเห็นสมควรเลื่อนการบังคับใช้เป็นวันที่ 1 ตุลาคม 2569 เพื่อบรรเทาภาระทางการเงินของทั้งนายจ้างและลูกจ้าง
https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/84794.pdf
อ่านข่าว:
ราชกิจจาฯ ประกาศห้ามขายใบกระท่อม-น้ำต้ม ใกล้สถานศึกษารัศมี 1,000 เมตร