ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ดุลยภาค" แนะบังคับใช้ กม.เข้มงวด แก้ปัญหา "กัมพูชา" รุกล้ำอธิปไตยไทย

การเมือง
12:18
80
"ดุลยภาค" แนะบังคับใช้ กม.เข้มงวด แก้ปัญหา "กัมพูชา" รุกล้ำอธิปไตยไทย
อ่านให้ฟัง
05:27อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"ดุลยภาค" แนะบังคับใช้กฎหมายอาญาเข้มงวด แก้ปัญหา "กัมพูชา" รุกล้ำอธิปไตยไทยในพื้นที่ "บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว" พร้อมแนะ "กต." เร่งชี้แจงนานาชาติ ย้ำพื้นที่อธิปไตยไทยไม่ใช่พื้นที่พิพาท 2 ชาติ

วันนี้ (19 ก.ย.2568) รศ.ดุลยภาค ปรีชารัชช นายกสมาคมภูมิภาคศึกษาและอาจารย์ประจำสาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ในช่วง จับตาสถานการณ์ ทางไทยพีบีเอส ถึงแนวทางการแก้ปัญหากลุ่มผู้ชุมนุมชาวกัมพูชา ที่รุกพื้นที่อธิปไตยของไทยที่บ้านหนองจาน และ บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว โดยระบุว่า 

จุดดังกล่าวอยู่ในพื้นที่อธิปไตยของไทยชัดเจน โดยอยู่ห่างจากแนวหลักเขตแดนพอสมควร ดังนั้น กรณีนี้จึงเป็นการบุกรุก ทำลายทรัพย์สิน และละเมิดอธิปไตยไทย ของชาวกัมพูชาอย่างชัดเจน

ดังนั้นขณะนี้มีวิธีการเดียวคือ การบังคับใช้กฎหมายอาญาอย่างวจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยดำเนินการตามขั้นและยึดหลักหลักสากล คือ ใช้ ตำรวจควบคุมฝูงชน กระสุนยาง ในการสลายกลุ่มผู้ชุมนุม

แต่หากกัมพูชาไม่หยุดไม่มีทางอื่นนอกจากจับกุมดำเนินคดีทางอาญา รวมถึงการติดประกาศภาคโทษ ชาวกัมพูชากรณีทำลายทรัพย์สิน และทำร้ายเจ้าหน้าที่ว่า จะต้องได้รับโทษแบบใด เพื่อแจ้งให้ทราบก็เป็นไปตามครรลองทางกฎหมาย 

รศ.ดุลยภาค ยังกล่าวว่า การแก้ไขปัญหาเพื่อไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นซ้ำซาก เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบ เพราะมวลชนเหล่านี้มาแย่งสิทธิ ดังนั้นการบังคับใช้กฎหมายไม่ต้องสลับซับซ้อนเพราะอยู่ในเขตอธิปไตยของไทยซึ่งจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ก.ต่างประเทศ ต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่า จุดดังกล่าว คือ ดินแดนของไทยไม่ใช้พื้นที่พิพาท และมีมวลชนต่างชาติรุกล้ำเข้ามา และดำเนินการด้วยความอดทนอดกลั้นอย่างมากแล้ว เราต้องชัดเจนและยืนยันว่า นี่คือดินแดนของเรา และเป็นพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึก กรณีนี้หากเป็นคนไทยจะถูกจับไปแล้วแต่ขณะนี้ชาวกัมพูชายังไม่ถูกจับซึ่งจะอธิบายกับคนในพื้นที่อย่างไร 

รศ.ดุลยภาค ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเรามีสิทธิอันชอบธรรมทั้งหมด แต่ที่ผ่านมาจึงมีคำถามว่าฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองปล่อยปละละเลยให้มีปัญหาแบบนี้ได้อย่างไร จึงทำให้คนกัมพูชาอ้างว่าไทยรังแก ทั้งที่จุดดังกล่าวเป็นแผ่นดินของไทยชัดเจน ซึ่งต้องบังคับใช้กฎหมายอาญาอย่างชัดเจน จริงจัง เพราะไม่มีทางเลือกอื่น

รวมถึง การเข้ารื้อถอนหมู่บ้านที่ล้ำแดนเป็นสิทธิอันชอบธรรม ซึ่งสัมพันธ์กับอำนาจทางการรบของทหารและตำรวจของเราด้วย  หากทำจะต้องทำด้วยความกล้าหาญของกองทัพภาคที่ 1 หากไม่กล้าหาญไม่ใช้กำลังเข้ามา ก็อาจจะเกิดเหตุชุมนุมประท้วงแบบนี้ขึ้นอีก และเจ้าหน้าที่จะบาดเจ็บอีกหลายระลอก 

นอกจากนี้ ก.ต่างประเทศ จะต้องทำงานหนักขึ้น ทั้งกรณีทุ่นระเบิดที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา และการสร้างรั้วซึ่งห่างจากเส้นเขตแดน ซึ่งไทยต้องวางรั้วเพื่อป้องกันการวางทุ่นระเบิด

รวมถึงต้องนำหลักฐานที่ถูกต้องไปชี้แจงกับนานาชาติควบคู่ไปกับการดำเนินการทางกฎหมายอาญาอย่างจริงจัง ขณะที่การสร้างรั้วถาวรอาจจะยังดำเนินการได้ยากและต้องใช้กำลังฝ่ายความมั่นคงที่แข็งแกร่ง เพราะมิฉะนั้นก็จะมีมวลชนมาระราน จนทำให้การสร้างไม่สำเร็จ 

โดยหลักคือ ต้องสำแดงกำลังรบ ถ้ายังมีการปะทะก็ต้องทำให้ภัยคุกคามทางทหารถูกขจัดไปประมาณหนึ่งจึงจะสร้างรั้วได้ แต่ตอนนี้ ทภ.1 ยังไม่มีกระบวนการนี้ และหากสร้างรั้วลวดหนามต่อไปในขณะนี้ก็จะถูกรบกวนรังควานอีก 

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาแม้จะมีการพูดคุยกัมพูชายังไม่ดำเนินการตามข้อตกลงในเวทีพหุภาคี เท่าใดนัก รศ.ดุลยภาค ยังกล่าวว่า เวทีพหุภาคีต่าง ๆ ยังมีความสำคัญ แต่ไทยยังสามารถใช้แนวทางเอกภาคี คือ ดำเนินการฝ่ายเดียวก็ได้ โดยเวที GBC หรือเวที RBC ก็ยังคงดำเนินการพูดคุยอยู่

แต่ก็ยังคงบังคับใช้กฎหมายอาญาไปด้วยก็ได้ และหากกัมพูชาต้องการให้เจรจาและผ่อนผันก็สามารถมาคุยได้ในเวที ซึ่งพฤติกรรมที่ผ่านมาของกัมพูชาก็เข้าทางไทยที่จะสามารถดำเนินการโดยฝ่ายเดียวหรือเอกภาคี คือ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ตามสิทธิของไทยได้  

 

 

อ่านข่าว : ทบ.แถลงบ่ายนี้ ปมบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว กัมพูชาล้ำ 200 ม. 

กองทัพไทย ประเดิมติดตั้ง "เสากล้องวงจรปิด" หลังด่านคลองลึก 

ชาวกัมพูชาประชิดชายแดน "บ้านหนองหญ้าแก้ว" ฝ่ายไทยคุมเข้ม