เอาใจช่วย "น้องข้าวต้ม" ลูกช้างป่าพลัดหลง-บาดเจ็บขาหลัง

ความคืบหน้ากรณีชาวบ้าน แจ้งว่าพบช้างป่าตกลูกในพื้นที่ทำกินของชาวบ้านบริเวณป่าห้วยชะนี เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู จ.กาญจนบุรี ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมทั้งปิดกั้นเส้นทาง และเฝ้าระวังร่วมกับเครือข่ายผลักดันช้าง

กระทั่งเมื่อวานนี้ (21 ก.ย.) เวลา 02.00 น. พบว่าช้างป่าคู่แม่ลูกเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าว และต่อมาเวลา 16.30 น. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังช้างป่า พบลูกช้างนอนบริเวณป่าห้วยชะนี แต่ไม่พบแม่ช้างในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว

ภาพ : กรมอุทยานฯ

วันนี้ (22 ก.ย.2568) นายอรรคนิตย์ กลางประพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงู เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (21 ก.ย.) ขณะนี้เข้าตรวจสอบพบสภาพลูกช้างบาดเจ็บบริเวณขาหลัง มีอาการอิดโรย จึงได้โทรประสานงานกับสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เบื้องต้นได้เคลื่อนย้ายลูกช้างมาพักที่ทำการอุทยานแห่งชาติลำคลองงู เพื่อประสานการช่วยเหลือ

ต่อมาในเวลา 23.30น. ทีมสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 ได้เดินทางมาดูอาการลูกช้างที่อุทยานฯ ซึ่งระหว่างรอสัตวแพทย์ ได้มีเครือข่ายผลักดันช้าง ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ รวม 8-10 คน เฝ้าและสังเกตการณ์

ภาพ : กรมอุทยานฯ

ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ พบว่า ลูกช้างดังกล่าวมีอาการดีขึ้นแล้ว แต่ยังคงอยู่ในความดูแลของสัตวแพทย์ต่อไป ซึ่งนายอรรถพล เจริญชัญษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้กำชับเจ้าหน้าดูแลอย่างใกล้ชิดจนกว่าจะหายเป็นปกติ

เตรียมเคลื่อนย้าย "ลูกช้าง" ไปเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก

ด้านนายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ที่ช่วยเหลือลูกช้างป่าตัวเมีย และตั้งชื่อว่า "น้องข้าวต้ม" เพราะตอนที่พบได้ให้ลูกช้างกินน้ำข้าวต้ม เสริมความกระปรี้กระเปร่าและมีแรงขึ้น ซึ่งขณะนี้พบว่าฝูงช้างอยู่ห่างจากจุดพบลูกช้างถึง 10 กิโลเมตร คาดว่าฝูงไม่น่าจะมารับลูกช้าง

ภาพ : กรมอุทยานฯ

อีกทั้งลูกช้างมีอาการบาดเจ็บขาหลังขวาจากการตกหลุมและสภาพร่างกายอ่อนเพลีย แต่ยังยกขาหน้าและตั้งหัวขึ้นได้ โดยต้องเอกซเรย์วินิจฉัยอาการบาดเจ็บว่ามาจากกล้ามเนื้อหรือเอ็นอักเสบ หรือปัญหาด้านกระดูก เพื่อวางแผนรักษาและดูแลลูกช้าง

ทีมสัตวแพทย์อยู่ในพื้นที่ และเตรียมพร้อมรถเคลื่อนย้ายลูกช้างจากอุทยานฯ ลำคลองงู มาดูแลรักษาที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี คาดว่าเคลื่อนย้ายในวันนี้

ภาพ : กรมอุทยานฯ

ส่วนเรื่องของน้ำนมนั้น ปางช้างภัทรฟาร์ม จ.เชียงใหม่ ได้ประสานส่งน้ำนมแม่ช้างและนมน้ำเหลือง เบื้องต้นรวม 3 ลิตรมาให้ลูกช้าง ซึ่งนมเหลืองมีความสำคัญอย่างมากต่อลูกช้างแรกเกิด ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ จะประสานปางช้างที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อขอสนับสนุนน้ำนมเพิ่มเติม

อ่านข่าว : ช่วย "ลิงเขาหน่อ" 15 ตัว หลังกล้องดักถ่ายจับภาพชายลอบล่า 

กมธ.ทรัพยากรฯ สว.สรุป ส.ป.ก.ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ปล่อย รง.แป้งมัน “อดีต รมต.” รุกป่า 

ตรวจกรงเสือ-สิงโต พบตกมาตรฐาน สั่งแก้ 23 ข้อบกพร่องภายใน 30 วัน