วันนี้ (22 ก.ย.2568) น.ส.ชฎาฐัค หรือสีกาบี เตรียมเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ รอง ผบช.ก. เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียน ขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินย้อนหลังของวัดป่ามัชฌิมวาส จ.กาฬสินธุ์ และนายเมือง กอหาร อดีตเจ้าอาวาส หรืออดีตพระโพธิญาณมุนี หรือหลวงพ่อเมือง พลวฑฺโฒ หลังจากมหาเถรสมาคมมีมติให้ปาราชิกและต้องพ้นจากความเป็นพระตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.2557
การยื่นหนังสือร้องเรียนครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากกรณีอธิกรณ์สงฆ์ระหว่าง น.ส.ชฎาฐัค กับอดีตพระโพธิญาณมุนี ที่มีมายาวนานกว่า 9 ปี ซึ่งสิ้นสุดลงแล้วด้วยคำวินิจฉัยของศาลสงฆ์ชั้นฎีกา ตามมติมหาเถรสมาคมที่ 695/2568 เรื่องคำวินิจฉัยกรณีพระโพธิญาณมุนี เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2568 โดยมีคำสั่งให้ปาราชิกตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.2557
การที่อดีตพระโพธิญาณมุนีขาดจากความเป็นพระ ตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.2557 แต่ยังไม่ยอมสึก ถือเป็นการแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ และยังคงมีอำนาจในการจัดการการเงินภายในวัดในฐานะเจ้าอาวาส ดังนั้นจึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเส้นทางการเงินย้อนหลัง เพื่อความโปร่งใส และเป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต
สำหรับอดีตพระโพธิญาณมุนี ได้แต่งตั้ง น.ส.อรุณ เป็นไวยาวัจกร ตั้งแต่ปี 2538-2564 ซึ่งผิดกฎมหาเถรสมาคม พ.ศ.2536 ข้อ 6 ที่ระบุว่าไวยาวัจกรต้องเป็นชาย
น.ส.ชฎาฐัค กล่าวว่า การตรวจสอบเบื้องต้นยังพบว่า อดีตพระโพธิญาณมุนี มีเลขบัตรประจำตัวประชาชน 2 หมายเลข แต่มีวันเกิดเดียวกันคือ 29 ธ.ค.2489 เหมือนอดีตพระอลงกต ซึ่งพนักงานสอบสวนจะต้องตรวจสอบในประเด็นดังกล่าว พร้อมขอให้มีการตรวจสอบกลุ่มข้าราชการในกระบวนการยุติธรรม ทั้งอัยการและตำรวจ ที่ถูกกล่าวหาว่าช่วยเหลือ ปกปิดความผิด และใช้อำนาจในทางมิชอบ เพื่อนำตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับผู้อื่นอีกในอนาคต
อ่านข่าว : ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบ พนง.สอบสวนกองปราบ
แท็กที่เกี่ยวข้อง: