วันนี้ (25 ก.ย.2568) เวลา 10.15 น. พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ว่า รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง และได้รับพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในกระแสรับสั่งบางข้อความ ตนรับเอาเป็นพระบรมราโชวาทด้วย และจะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถ ในหน้าที่ของ รมว.กลาโหม ซึ่งตนจะมุ่งเน้นในมิติของความมั่นคงเป็นหลัก ในส่วนเรื่องอื่นให้เป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะมอบหมายให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการ
พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า ได้มอบหมายให้ พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ หลังเกิดกรณีทหารกัมพูชายิงปืนที่ช่องภูผี ซึ่งเป็นการยั่วยุ ไม่ทำตามข้อตกลง ของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทยกัมพูชาหรือ GBC และรอให้ท่านเดินทางกลับมา ก็จะพูดคุยกรอบอำนาจหน้าที่ในการทำงานอีกครั้งหนึ่ง
พี่ชายของ พล.ท.อดุลย์ ก็เป็นเพื่อนของผม การทำงานจะราบรื่นอยู่แล้ว อีกทั้งยังเป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 สามารถเข้าใจปัญหาในพื้นที่ได้ดี ซึ่งทำให้ตนทำงานได้ง่ายขึ้น
ในส่วนของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ไม่จำเป็นต้องมีแล้ว เนื่องจากปัจจุบันมีรัฐบาล ครบ 36 คน ซึ่งต่อไปสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. จะทำหน้าที่สื่อสารไปยังประชาชน โดยมีนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง
และถือเป็นจังหวะที่ดี เพราะนายกรัฐมนตรียังนั่งในตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ซึ่งจะสามารถทำให้งานที่เกี่ยวข้อง ระหว่างกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงกลาโหม สอดคล้องกัน และสามารถแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงได้เป็นอย่างดี ในขณะที่เรื่องเศรษฐกิจ มีทีมที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว
พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า กระทรวงกลาโหม ได้เตรียมนโยบายเพื่อขับเคลื่อนในช่วง 4 เดือนของรัฐบาลนี้ เน้นในเรื่องการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึงการแก้ไขปัญหาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งมีการปิดด่านผ่านแดนถาวร ตั้งแต่ท่าขี้เหล็ก ด่านสิงขร ระนอง ซึ่งต้องอยู่ว่า จะสามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างไร
ความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งผมรับปากเอาไว้ว่า ปีนี้จะต้องไม่เหมือนปีที่แล้ว และปัจจุบันได้มอบหมายให้กรมการทหารช่าง เตรียมการทำพนังกั้นน้ำ ซึ่งผมเตรียมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด้วยตัวเอง คงจะเน้นย้ำใน 4 เรื่องนี้ใน 4 เดือน โดยได้เสนอเป็นนโยบายให้รัฐบาล ว่าขอเอาเรื่องสำคัญ
นอกจากนี้ในห้วงเวลาดังกล่าว จะต้องมีการพิจารณาคำของบประมาณปี 2570 ด้วย โดยจะใช้สมุดปกขาว ของกระทรวงกลาโหมที่มีอยู่ ในการพิจารณาคำขอในปีต่อไป ส่วนนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 29 ก.ย.นี้ มีไม่มากเนื่องจากมีเวลาเพียงแค่ 4 เดือน ต้องทำให้ได้ เพราะหากออกนโยบายไปมากแล้วทำไม่ได้จะถูกตำหนิ
วันเดียวกัน พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม พร้อม พล.ต.วีระยุทธ รักษ์ศิลป์ ว่าที่แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจ.ศรีสะเกษ พร้อมให้กำลัง ใจชุดรักษาความลอดภัยหมู่บ้าน และผู้นำชุมชน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ พร้อมระบุว่า วันนี้ไม่ได้มาสั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพราะยังไม่มีการแถลงนโยบายของรัฐบาล และเพิ่งได้รับตำแหน่ง แต่เพราะความห่วงใยของนายกรัฐมนตรีที่มีต่อพี่น้องตามแนวชายแดน จึงอยากมาให้กำลังใจ เพราะรัฐบาลมีเวลาแค่ 4 เดือน จึงอยากทำงานให้รวดเร็วที่สุด
ด้าน พล.ต.วีระยุทธ ระบุว่า สถานการณ์ชายแดนยังปกติ อยู่ในการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และยังไม่มีอะไรน่ากังวล
อ่านข่าว : "พิพัฒน์" เผย รถไฟฟ้าสาย "สีแดง-ม่วง" กลับไปใช้ราคาเดิม 1 ต.ค.นี้
สวนนงนุชพัทยาส่ง "นมน้ำเหลือง" จากแม่ช้างเพิ่งคลอดช่วย "น้องข้าวต้ม"
ข้าวไร่หอมหัวบอนกระบี่ สินค้าGI ใหม่ เอกลักษณ์โดดเด่น กลิ่นหอมเผือกเฉพาะตัว