ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ช้างป่าแก่งดินสอ" ทำร้ายชาวบ้านอายุ 79 ปีเสียชีวิต

"ช้างป่าแก่งดินสอ" ทำร้ายชาวบ้านอายุ 79 ปีเสียชีวิต
อ่านให้ฟัง
03:16อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
อุทยานฯ ทับลาน เร่งประสานช่วยเหลือ-ชดเชยเยียวยา เหตุสีดอ "เอ๊ป" ช้างป่าแก่งดินสอ ทำร้ายชายวัย 79 ปี เสียชีวิตใกล้บ้านพักในพื้นที่ ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี พร้อมเพิ่มชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวังผลักดันช้าง

วันนี้ (25 ก.ย.2568) นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 02.00 น.ได้รับรายงานจากชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อเฝ้าระวังผลักดันช้างป่าแก่งดินสอ ว่า มีช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์มาทำร้ายคนจนเสียชีวิต โดยได้สั่งการให้นายอภิศักดิ์ สุขประเสริฐ หัวหน้าเขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 1 (นาดี) เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พื้นที่บ้านวังอ้ายป่อง ม.3 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ร่วมกับผู้นำชุมชนและพนักงานสอบสวน สภ.นาดี ซึ่งผู้เสียชีวิตชื่อว่า นายน้อย อายุ 79 ปี

ที่เกิดเหตุห่างจากพื้นที่เขตอุทยานฯ ประมาณ 200 เมตร พบผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณริมทางใกล้บ้าน บริเวณโดยรอบร่างมีร่องรอยตีนช้าง ซึ่งญาติผู้เสียชีวิต เล่าว่า เมื่อเวลา 01.00 น. นายน้อยได้ยินเสียงสุนัขเห่าบริเวณใกล้บ้าน จึงได้ลงมาจากบ้าน พบว่ามีช้างป่า สีดอ 1 ตัว อยู่ในระยะใกล้ จึงเกิดเหตุช้างป่าเข้าทำร้ายนายน้อยจนเสียชีวิต ขณะเกิดเหตุช้างป่าดังกล่าวยังคงวนเวียนอยู่บริเวณร่างผู้เสียชีวิต จึงไม่ได้เข้าช่วยเหลือ โดยแจ้งผู้นำชุมชนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าที่เกิดเหตุในเวลาต่อมา

ในช่วงเวลาดังกล่าวชุดเคลื่อนที่เร็วฯ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน รวมทั้งเครือข่ายของชุมชนได้ดำเนินการผลักดันช้างป่า 1 ตัว ชื่อสีดอ "เอ๊ป" ที่ออกมาจากป่าเพื่อหากินในหมู่บ้าน จึงเชื่อว่าช้างป่าตัวเดียวกับที่ทำร้ายนายน้อย

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน เปิดเผยว่า ได้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิตในกรณีจัดการงานศพ และเร่งประสานเพื่อขอรับการชดเชยเยียวยากรณีมีผู้เสียชีวิตจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช วงเงิน 500,000 บาท

ส่วนการเฝ้าระวังในพื้นที่ได้จัดทีมชุดเคลื่อนที่เร็วเพิ่มเติมอีก 2 ชุด จากเดิม 1 ชุด รวมทั้งมีเครือข่ายอาสาสมัครในพื้นที่ด้วย แต่สภาพอากาศในบางช่วงเวลามีฝนตก ทำให้การลาดตระเวน และบินโดรนติดตามช้างป่า เป็นไปได้ยากลำบาก โดยเตรียมกับทางจังหวัดฯ และประสานขอรถจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ซึ่งมีไฟส่องสว่างและระบบเสียง มาช่วยในภารกิจเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า

อ่านข่าว : มีผลแล้ว ใช้งบกลางเยียวยาผลกระทบช้างป่า เคสเสียชีวิต 500,000 บาท 

ศึกขัดแย้ง “คน-ช้างป่า” 12 ปียังไม่จบ ระยะทางอีกยาวไกล