เมื่อเวลาเที่ยงคืนวันที่ 30 ก.ย.2568 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ CNN รายงาน รัฐบาลสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะ "ปิดทำการชั่วคราว" (Government shutdown) ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562 หลังสภาคองเกรสไม่สามารถตกลงร่างงบประมาณชั่วคราวได้ ทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันต่างกล่าวโทษกัน โดยเดโมแครตต้องการให้ต่ออายุเงินช่วยเหลือด้านสุขภาพ (ACA subsidies หรืออีกชื่อคือ Obama care) ที่จะหมดอายุสิ้นปีนี้ ส่วนรีพับลิกันยืนยันให้ผ่านร่างงบประมาณที่ขยายงบถึงวันที่ 21 พ.ย. โดยไม่มีเงื่อนไขอื่น
จุดชนวนความขัดแย้ง : ศึกการเมืองเพื่อ "ประกันสุขภาพ"
สาเหตุหลักที่ทำให้การเจรจางบประมาณสหรัฐฯ ล้มเหลวและนำไปสู่การปิดหน่วยงานรัฐ (Government shutdown) มาจากประเด็น โครงการประกันสุขภาพ Affordable Care Act (ACA) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Obamacare
เดโมแครตสู้เพื่อคุ้มครองประชาชน พรรคเดโมแครตส่วนใหญ่คว่ำร่างงบประมาณชั่วคราวของพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นงบที่จะต่ออายุเพียง 7 สัปดาห์ แต่ไม่มีการขยายเงินอุดหนุนสำหรับโครงการ Obamacare โดย ส.ว.เคริสเทน กิลลิแบรนด์ และ แกรี่ ปีเตอร์ อธิบายว่า พวกเขาต้องการกดดันให้รีพับลิกันกลับมาเจรจา เพราะหากไม่ต่อเงินอุดหนุน ชาวอเมริกันกว่า 20 ล้านคนอาจถูกขึ้นค่าเบี้ยประกันสุขภาพในไม่ช้า ซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน
รีพับลิกันยืนยันเปิดรัฐก่อนคุยเรื่องอื่น ในฝั่งตรงข้าม นาย จอห์น ธูน ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแปลงเนื้อหาร่างกฎหมายเพื่อเอาใจเดโมแครต โดยย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือการ "เปิดรัฐบาลก่อน" ส่วนเรื่องประกันสุขภาพค่อยไปเจรจากันภายหลัง
ผลกระทบที่เกิดจากการ Shutdown
การชัตดาวน์รัฐบาลครั้งนี้ ส่งผลให้พนักงานรัฐราว 750,000 คนถูกพักงาน โดยไม่ได้รับเงินเดือน หรือที่เรียกกันอีกคำว่า Leave without pay ส่วนพนักงานที่มีหน้าที่จำเป็น เช่น ควบคุมการจราจรทางอากาศ ทหาร และตำรวจ ต้องทำงานต่อโดยไม่ได้รับเงินจนกว่าวิกฤตจะคลี่คลาย
กระทรวงคมนาคมระบุว่าจำเป็นต้องพักงานพนักงาน FAA จำนวน 11,322 คน ส่วนพนักงานที่เหลือกว่า 33,000 คน เช่น ควบคุมการจราจรทางอากาศ 13,000 คน ทำงานต่อโดยไม่ได้รับเงิน บริการสาธารณะ เช่น สวนสาธารณะแห่งชาติ พิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียน และการคืนภาษีอาจหยุดชะงัก
ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าการที่รัฐบาลปิดตัวชั่วคราวนี้ "อาจนำสิ่งดี ๆ มาได้" โดยขู่ใช้โอกาสนี้ลดขนาดหน่วยงานรัฐบาลด้วยการปลดพนักงานจำนวนมาก
รัส โวท ผู้อำนวยการสำนักบริหารและงบประมาณ (OMB) ออกจดหมายสั่งหน่วยงานรัฐเตรียมแผนปิดทำการ และระบุว่ารัฐบาลมีอำนาจปรับโครงสร้างถาวร เช่น ตัดโปรแกรมที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายทรัมป์ สหภาพแรงงานพนักงานรัฐยื่นฟ้องศาลในซานฟรานซิสโกเพื่อขัดขวางการปลดพนักงาน โดยอ้างว่าคำสั่งของ OMB ผิดกฎหมาย
ขณะนี้ทั้ง 2 พรรคยังคงแตกแยก สภาคองเกรสจะโหวตร่างงบของรีพับลิกันอีกครั้งในวันพุธที่ 1 ต.ค.ตามเวลาท้องถิ่นหรือตรงกับวันที่ 2 ก.ย.ตามเวลาประเทศไทย แต่คาดว่ายังไม่ผ่าน เพราะต้องการคะแนนเดโมแครตเพิ่มอย่างน้อย 8 เสียง และการเจรจาอาจล่าช้าด้วยวันหยุดยิว Yom Kippur (2-3 ต.ค.) ทำให้ไม่รู้แน่ชัดว่ารัฐบาลจะปิดไปนานแค่ไหน
อ่านข่าวอื่น :
เซเลนสกีเตือน "ซาโปริซเซีย" วิกฤต ขาดไฟเลี้ยงระบบความเย็น 7 วัน