ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"เพื่อไทย" ลุกขึ้นสู้ เปิดยุทธศาสตร์ "ยกเครื่อง"

การเมือง
13:24
107
 "เพื่อไทย" ลุกขึ้นสู้ เปิดยุทธศาสตร์ "ยกเครื่อง"
อ่านให้ฟัง
07:08อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

เลือกตั้งซ่อม สส.จังหวัดศรีสะเกษ ล่าสุด พรรคภูมิใจไทย คว้าชัยชนะโดยยีดเก้าอี้ สส.เดิมจากพรรคเพื่อไทย มาครองได้ ด้วยคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งมากกว่า 8,000 คะแนน และคาดการณ์ว่า เลือกตั้งซ่อม สส.จังหวัดกาญจนบุรี วันอาทิตย์ที่ 19 ต.ค.นี้ พรรคภูมิใจไทย ก็น่าจะรักษาแชมป์ได้เช่นกัน

แต่อาจไม่ใช่แค่เหตุผลจากสนามเลือกตั้งซ่อม สส.เท่านั้น ที่ทำให้พรรคเพื่อไทย ต้องลุกขึ้นมาประกาศแคมเปญ "ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย" โดยหมุดหมายน่าจะอยู่ที่เป้าหมายในสนามเลือกตั้งใหญ่ ที่กำลังจะมาถึงในอีก 4 เดือนข้างหน้า 

"เพื่อไทย" ที่พลิกบทบาท มาเป็นพรรคฝ่ายค้านเต็มตัวแล้ว น่าจะเหลือเวทีโชว์ฟอร์มการเมืองอีก 1 นัด คือการเปิดซักฟอกรัฐบาลพรรคภูมิใจไทย ถ้าไม่ยื่นญัตติภายในสิ้นเดือน ต.ค. นี้ก็ยังจะยื่นได้ภายในเดือน ธ.ค. แต่นั่นต้องไม่ไปขวางทางการประกาศยุบสภาของรัฐบาลในสิ้นเดือน ม.ค.2569 

นี่จึงอาจเป็นเหตุผลที่สอบถามไปยังพรรคเพื่อไทย แล้วยังไม่ได้คำตอบชัดเจนว่า "เพื่อไทย" จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพรรคภูมิใจไทย ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ ปี 2560 เมื่อไร อย่างไร ซึ่งเป็นข้อสังเกตว่ากำลังลังเลหรือไม่

ตามรัฐธรรมนูญ กำหนดให้ยื่นญัตติซักฟอกในแบบลงมติไม่ไว้วางใจได้ "ปีละ 1 ครั้ง" และไม่ว่าจะนับตามกรอบเวลา หรือนับตามเงื่อนไขรัฐบาลเฉพาะกิจ 4 เดือน ฝ่ายค้านเพื่อไทย จะยื่นญัตติซักฟอก รัฐบาลภูมิใจไทย ได้เพียงครั้งเดียว และต้องได้รับการตอบรับความพร้อมจากรัฐบาลโดยเร็ว

โดยถ้ายื่นภายใน ต.ค.นี้ ก็ต้องเปิดอภิปรายให้แล้วเสร็จ ภายใน ธ.ค.หรือก่อนสิ้นเดือน ม.ค.2569 ให้จบ ซึ่งนั่นเป็นช่วงเวลา "เทอมที่ 2" ของสมัยประชุมที่ 2 ของสภาฯ ชุดนี้ หรือหากจะยื่นอย่างช้าสุด เปิดสภาฯ ต้น ธ.ค.ในเทอม 2 ต้องยื่นทันที แล้วประสานเปิดอภิปรายให้แล้วเสร็จ อย่าให้ช้าถึงกรอบกำหนดที่รัฐบาลพรรคภูมิใจไทย ขีดเส้นไว้ 31 ม.ค. "ยุบสภา"

ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ อาจเกี่ยวข้องกับความลังเลใจของพรรคเพื่อไทย หากปล่อยยืดเยื้อไป การยื่นทับซ้อนกับเวลายุบสภา อาจกลายเป็นหมากต่ออายุรัฐบาลเฉพาะกิจซะงั้น แต่ในจังหวะนั้นก็ถือเป็นช่วงเวลาที่พรรคเพื่อไทย อาจได้เปรียบในเชิงข้อมูลการเมือง แล้วเอาไปต่อยอดในสนามเลือกตั้ง ท่ามกลางข้อมูลการเมืองว่าเป็นไปได้ที่ "เพื่อไทย" ยังถกแถลงกันอยู่ และเป็นไปได้ว่าจะไม่ยื่นซักฟอกแล้ว

ทางหนึ่งนอกจากจะไม่ผูกมัดเรื่องกรอบเวลาที่ว่าแล้ว ยังเซฟเอกภาพ สส.ในพรรค ที่ต้องตัดสินใจลงชื่อร่วมซักฟอก ท่ามกลางเวลาคาบลูกคาบดอกตัดสินใจย้ายค่าย และยังเซฟบทบาทของพรรคในฐานะฝ่ายค้านเองด้วย เผื่อประกาศไปแล้ว สส.ร่วมลงชื่อไม่ครบ ซึ่งต้องมีถึงร้อยคนในการร่วมลงชื่อ และในทางกลับกัน "เพื่อไทย" อาจต้องคิดถึงกลไกการเมืองระยะยาว ซักฟอกแล้วต่อยอดโหมประเด็นในสนามเลือกตั้ง ตีข้าศึก ภูมิใจไทยได้เต็มเหนี่ยว แล้วหลังเลือกตั้งยังพอมีเยื่อใยให้จับมือร่วมรัฐบาลไหม นี่ก็ประเด็นได้คุ้มเสียไหมกับญัตติซักฟอก

ถ้าคิดอีกทีอภิปรายนโยบายรัฐบาล เกือบเรียกว่าพรรคเพื่อไทยต่างหาก ที่โดนพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชน รุมซักฟอก เป็นไปได้ไหมที่ "เพื่อไทย" จะเลือกทอดสะพาน เผื่อเหลือเผื่อขาด ทางการเมืองไว้กับ "ภูมิใจไทย" บ้าง เผื่อใจไว้เมื่อสถานการณ์เป็นเหตุให้ต้องกลับมาจับมือกัน แม้บทบาททางการเมืองจะหยุดนิ่งไม่ได้ก็ตาม

ที่ว่าหยุดไม่ได้ก็คือ "เพื่อไทย" ต้องลุกขึ้นมา สู้ศึกการเมืองและการเลือกตั้ง ให้สมศักดิ์ศรี ในวันที่ 7 ต.ค.เตรียมเปิดแคมเปญ "ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย" ชิมลางทำการบ้านก่อนไปพลางๆ ก่อนไฮไลท์อยู่ที่ อดีตนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร จะประกาศจุดยืนทางการเมืองครั้งสำคัญ อีกครั้งหนึ่งผ่านการวิสัยทัศน์

โดยก่อนหน้านี้ นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค อ้างอิงไว้ว่า "เพื่อไทย" พร้อมที่จะยกเครื่องใหม่ ด้วยทราบดีถึงคำวิจารณ์ ทั้งบวกและลบ ที่ส่งตรงถึงพรรคเพื่อไทย และคำวิจารณ์เหล่านั้น ก็ไม่ได้มาจากคนนอกพรรคเท่านั้น แต่ยังมาจากคนในพรรคด้วย

ซึ่งก็น้อมรับและนำมาถอดบทเรียน ทำการบ้าน ข้อสรุปออกมา เพื่อพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อไป และในวันที่ 7 ต.ค.ก็จะดีเดย์ ทยอยเปิดตัวผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. เซ็ตแรกด้วย และคงจะมีเซ็ตต่อๆ ไป เป็นระยะๆ ท่ามกลางกระแส มีคนเตรียมย้ายออกอีก

ส่วนสนามเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ แม้ น.ส.จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล จากพรรคภูมิใจไทยชนะเลือกตั้ง และทิ้งห่าง น.ส.ภูริกา สมหมาย จากพรรคเพื่อไทย มากกว่า 8,000 คะแนนอาจยังวัดผลไม่ได้

ต้องลองวัดผลกับเวทีที่สอง ระหว่างพรรคภูมิใจไทย ที่ส่ง น.ส.วิสุดา วิเชียรศิลป์ รักษาเก้าอี้แทนพ่อ โดยมี พ.อ.ชินวัฒน์ แม้นเดช จากพรรคเพื่อไทย เป็นคู่ชิง ซึ่งแมตช์นี้จะเปิดหีบลงคะแนนวัดผลกัน 19 ต.ค.

มีรายงานว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เตรียมลงพื้นที่ไปเปิดเวทีปราศรัย ช่วยผู้สมัครพรรคเพื่อไทยหาเสียงในเร็วๆ นี้ ขณะที่สัปดาห์หน้า น่าจะ 12 ต.ค.หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย "อนุทิน ชาญวีรกูล" จะลงพื้นที่ไปช่วยผู้สมัครของพรรคเช่นกัน งานนี้ อดีต สส.พรรคเพื่อไทย บอก ผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย ชนะเลือกตั้งแน่

4 เดือนนี้ ถ้านับถอยหลัง "ยุบสภา" 31 ม.ค.2569 การเลือกตั้งใหญ่จะมีขึ้นสิ้นเดือน มี.ค.กรณียุบสภา ผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ต้องสังกัดพรรคการเมืองก่อน 30 วัน นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง แสดงว่ากลางเดือน ม.ค.อาจเป็นเดดไลน์ เส้นยาแดงสำหรับนักการเมืองที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ย้ายค่าย ซึ่งช่วง 4 เดือนนี้ ก็คงได้เห็นการขยับขยายของคนการเมืองกันเยอะ

อ่านข่าว :

เพื่อไทยยกเครื่องใหญ่! เปิดตัวผู้สมัคร สส. เตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง

"ตีหัวเข้าบ้าน" ยุทธศาสตร์ 4 เดือน เพื่อไทย?

"เพื่อไทย" ล็อกเป้าซัก "รัฐบาลอนุทิน" บริหารราชการ-คุณสมบัติ รมต.