การเจรจาระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสที่เกิดขึ้นในขณะนี้นำไปสู่การตั้งคำถามว่าจะช่วยยุติสงครามและสร้างสันติภาพได้จริงหรือไม่ เพราะจากเงื่อนไขต่าง ๆ อาจกล่าวได้ว่าสันติภาพถาวรในกาซาดูจะเป็นเรื่องที่ยังคงอยู่ไกลเกินเอื้อม
เงื่อนไขต่าง ๆ มีหลากหลายมิติของปัญหาที่ซ้อนทับกันอยู่มากมาย ผศ.มาโนชญ์ อารีย์ อาจารย์ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่า แม้การเปิดโต๊ะเจรจาระหว่างอิสราเอลและฮามาสที่อียิปต์อาจเป็นสัญญาณที่ดี
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่สิ่งที่คู่ขัดแย้งต้องการ แต่มาจากแรงกดดันจากภายนอกต่างหาก
ผศ.มาโนชญ์ มองว่า สงครามจะยุติได้จริงหรือไม่ยังเป็นสิ่งที่พูดได้ยาก เพราะต่างฝ่ายต่างมีเงื่อนไขไม่ตรงกัน ไม่มีใครยอมใคร อาจทำให้สถานการณ์ยืดเยื้อ หรือไม่เกิดการหยุดยิงที่แน่นอน
"อิสราเอลต้องการปิดล้อมกาซาต่อ และไม่ต้องการให้ฮามาสมีบทบาทในกาซาหลังสงคราม ฝั่งฮามาสเรื่องสำคัญคือการแลกเปลี่ยนตัวประกัน แต่ในข้อตกลงที่เสนอโดยโดนัลด์ ทรัมป์ แม้จะพูดถึงการแลกเปลี่ยนตัวประกัน ค่อย ๆ ถอนกำลังของอิสราเอล แต่ไม่ได้สะเด็ดน้ำทั้งหมด ไม่ได้แตะประเด็นสำคัญคือการยุติปิดล้อมฉนวนกาซา รวมถึงฝั่งฮามาสก็ไม่ได้พูดถึงการปลดอาวุธ"
ผศ.มาโนชญ์ ยังบอกด้วยว่า ผลลัพธ์ที่น่าจะเกิดขึ้นได้จากการเจรจาครั้งนี้ อาจเป็นการส่งความช่วยเหลือเข้าไปในกาซา เพื่อบรรเทาวิกฤตด้านมนุษยธรรม เนื่องจากอิสราเอลกำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักในเรื่องนี้ เช่นเดียวกับเรื่องแลกเปลี่ยนตัวประกันที่กลุ่มฮามาสอาจจะยอม โดยที่ชาติอาหรับช่วยต่อรองและมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้รับประกันในสิ่งที่ฮามาสต้องการ
ส่วนประเด็นที่ว่าหากการเจรจารอบนี้ล้มเหลวจะเป็นอย่างไรต่อไป ผศ.มาโนชญ์ มองว่า นานาชาติจะยิ่งใช้กลไกต่าง ๆ รุมกดดันและโดดเดี่ยวอิสราเอลมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
แม้นานาชาติจะกดดันอิสราเอลอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา แต่ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะอิสราเอลมีอิทธิพลมากในหลายด้าน โดยเฉพาะต่อมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ดังนั้นประชาคมโลก จึงต้องเพิ่มความแข็งกร้าวให้มากขึ้น
ผศ.มาโนชญ์ มองว่า การเจรจารอบนี้ ยังขาดประเด็นการยอมรับให้ตั้งรัฐปาเลสไตน์เคียงคู่กับรัฐอิสราเอล ซึ่งจะถือเป็นการแก้ไขที่รากเหง้าของปัญหาอย่างแท้จริง
อ่านข่าว : ชาวอิสราเอลรำลึกผู้เสียชีวิต ครบรอบ 2 ปีสงครามกาซา
แท็กที่เกี่ยวข้อง: