วันนี้ (9 ต.ค.2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กำหนดเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในวันพรุ่งนี้ (10 ต.ค.) เวลา 10.00 น. เพื่อประเมินสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว โดยเฉพาะพื้นที่พิพาทบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งจะกระชับแผนปฏิบัติการสนธิกำลังทหาร-ตำรวจ-ฝ่ายปกครอง เน้นมาตรการจากเบาไปหนัก เริ่มด้วยชุดควบคุมฝูงชนและกองร้อยน้ำหวาน เพื่อดูแลเด็ก สตรี และผู้สูงอายุที่เข้าร่วมชุมนุม ลดภาพความรุนแรง แม้พื้นที่ประกาศกฎอัยการศึกและทหารมีอำนาจเต็ม แต่หากต้องใช้อาวุธสงคราม ทหารจะเข้าแทนที่ทันที
แหล่งข่าวความมั่นคงใน จ.สระแก้ว ระบุว่า ยกระดับบังคับใช้กฎหมายจาก พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง มาเป็นกฎอัยการศึก เพื่อให้ทหารควบคุมพื้นที่รัดกุม ลดช่องว่างฟ้องร้อง นอกจากนี้ จับตากลุ่มเคลื่อนไหวชาวกัมพูชา 4 กลุ่ม คือ ชายชุดดำหรือมือที่ 3 แกนนำวัยรุ่นหัวรุนแรง พระสงฆ์ และกลุ่มเด็ก-เยาวชน-สตรี ซึ่งอาจสร้างสถานการณ์วุ่นวาย บันทึกภาพยื่นร้องประชาคมโลก
ก่อนหน้านี้ การประชุมผู้บัญชาการทหารวาระพิเศษ มติเห็นชอบแนวทางแก้ปัญหาชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตย โดยปฏิบัติตามกฎอัยการศึกและกฎหมายอื่น ๆ อย่างอนุโลม เพื่ออำนวยความสะดวกและรัดกุม กองทัพบกจัดแผนปฏิบัติการและกฎใช้กำลังสอดคล้องกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศและไทย ขอให้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าพนักงานกฎหมาย และกำลังท้องถิ่น สนับสนุนร่วมปฏิบัติ
ล่าสุด กองทัพภาคที่ 1 ชี้แจงว่า กองกำลังบูรพา ส่งหนังสือแจ้ากองพลน้อยทหารราบที่ 51 ของกัมพูชา เพื่อเก็บกู้ทุ่นระเบิดในบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว วันที่ 10 ต.ค. เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมปลอดภัยในพื้นที่อธิปไตยไทย รักษาอธิปไตยและความสงบสุขประชาชน แจ้งกัมพูชาเพื่อป้องกันเข้าใจผิดหรือบิดเบือนข้อมูล ขณะนี้ศูนย์ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ประสานกองทัพภาคที่ 1 ร่วมปฏิบัติการ
นายกฯ อนุทินย้ำว่า การแก้ปัญหาบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว ต้องดำเนินทุกอย่างตามกฎหมาย หน่วยงานความมั่นคงเตรียมพร้อมแล้ว โดยมอบอำนาจเต็มในการบริหารจัดการ
อ่านข่าวอื่น :
"ทรัมป์" ส่งจดหมายหา "อนุทิน" ขอไทย-กัมพูชาแก้ชายแดนร้อน
"อนุทิน" เผยเตรียมตอบกลับ "ทรัมป์" กรณีขอเป็นตัวกลางเจรจาปัญหาชายแดน