ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จับตากระบวนการเจ้าหน้าที่ไทย ผลักดันชาวกัมพูชาออกจาก "หนองจาน-หนองหญ้าแก้ว"

ภูมิภาค
14:46
542
จับตากระบวนการเจ้าหน้าที่ไทย ผลักดันชาวกัมพูชาออกจาก "หนองจาน-หนองหญ้าแก้ว"
อ่านให้ฟัง
06:18อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ถึงวันที่ทุกสายตาจับจ้องว่า การผลักดันชาวกัมพูชาที่บุกรุกยึดครองที่ทำกินในพื้นที่บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว จะเกิดขึ้นตามที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าให้อำนาจกับทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองใช้กฎหมายได้ตามความเหมาะสมได้หรือไม่

ปัญหานี้ผูกโยงหลายมิติ ทั้งกระแสและอารมณ์ของคนในสังคม ที่ถ้าไม่มีการปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น ก็อาจกระทบกับคะแนนนิยมของรัฐบาลและกองทัพได้ แต่การจัดการกับปัญหานี้ก็ต้องละมุนละม่อม เพราะถึงเราจะยืนยันว่าพื้นที่บ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้ว จะเป็นอธิปไตยไทย แต่ฝ่ายกัมพูชาก็พยายามกล่าวอ้างว่าเป็นพื้นที่ของตัวเอง มีการใช้ประชาชนมายืนแถวหน้า ดังนั้นภาพที่ออกไป อาจถูกหยิบยกฉกฉวยไปฟ้องชาวโลกว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน เหมือนที่เห็นความพยายามมาก่อนหน้านี้

นายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาองค์กรฮิวแมนไรท์ วอทช์ ประจำประเทศไทย ระบุว่าปฏิบัติการที่อาจจะเกิดขึ้นในวันนี้ ต้องทำอย่างไรเพื่อให้เป็นการยืนยันสิทธิในการรักษาพื้นที่ของตัวเอง โดยที่กัมพูชาไม่สามารถหยิบยกขึ้นมาเป็นปัญหาได้

สิ่งหนึ่งที่นายสุณัยยืนยันคือพื้นที่บ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้ว คือเขตอธิปไตยไทย ที่สามารถใช้กฎหมายไทยในการจัดการได้ และแนวทางที่ผ่านมา ตั้งแต่การประกาศเตือน การใช้ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ แทนทหาร และใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชนตามมาตรฐานสากล ทำได้กฎกติกาจากเบาไปหาหนักของยูเอ็นทั้งสิ้น และเชื่อว่ามีการทำการบ้านล่วงหน้า เช่นการเตรียมอุปกรณ์บันทึกภาพไว้

และการขยับที่น่าสนใจคือ แม้จะยังไม่ชัดว่าจะมีการบังคับใช้กฎหมายในการผลักดันชาวกัมพูชาวันนี้เลยหรือไม่ แต่มีการประกาศเรื่องการเข้าไปเก็บกู้ทุ่นระเบิดให้กัมพูชาและนานาชาติรับทราบ เป็นการตอกย้ำว่านี่คือ ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่อธิปไตยไทย แล้วหลังหากมีการยกระดับผลักดันชาวกัมพูชาออกไป ก็นับว่าเป็นวันดีเดย์ ซึ่งอาจจะไม่จบในวันเดียว แต่หากทำด้วยความระมัดระวัง และใช้เจ้าหน้าที่ถูกต้องตามภารกิจ ก็จะไม่มีปัญหา

สิ่งที่ต้องระมัดระวัง มีแค่ต้องทำในพื้นที่ของเราเท่านั้น อย่าล้ำเข้าไปในเขตแดนกัมพูชา และความน่าสนใจอีกอย่างในการแจ้งว่าการเข้าไปของทหารนั้น เป็นไปตามปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด นับเป็นการแก้เกมที่ถูกทางอยู่เหมือนกัน เพราะอย่าลืมว่าเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เป็นหนึ่งในข้อตกลงร่วมในการประชุม GBC ณ วันที่ 10 ก.ย.ที่รัฐมนตรีกลาโหมทั้งสองประเทศรับรู้ทั้งสองฝ่าย และยังเป็นการทดสอบท่าทีของกัมพูชาได้ด้วยเช่นกัน

แต่ปฏิบัติการจะทำได้ง่าย สะดวกดายจริงๆ หรือไม่ เราได้เห็นท่าทีของกัมพูชามาแล้ว โดยทางกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เมื่อคืนนี้ออกแถลงการณ์ตอบกลับกองทัพภาคที่ 1 ขอให้กองกำลังบูรพา ระงับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแผนที่ระบุไว้ในหนังสือ

โดยอ้างอิงเหตุผล ตามข้อ 6 ในรายงานการประชุมพิเศษครั้งที่ 1 ของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2568 ว่าปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย จะต้องดำเนินการเป็นขั้นตอน ต้องมีคณะทำงานประสานงานร่วมและรอการตัดสินใจจากผู้มีอำนาจที่สูงกว่า และรอการดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในระเบียบปฏิบัติประจำ (SOP) ของคณะทำงาน JCTF

น่าสนใจว่าทุกครั้งที่กัมพูชาหยิบยกเหตุผลใดก็ตามขึ้นมาอ้างในกรณีที่เกี่ยวข้องกับบ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้ว มักจะยึดโยงกับการหารือ GBC หรือกระทั่งไปถึง JBC ที่ว่าด้วยการปักปันเขตแดน ซึ่งถ้าไทยยืนยันว่า ปัญหาที่เกิดที่นั่น คือการบุกรุกพื้นที่ เข้าเมืองผิดกฎหมาย และต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายไทย กลไกทวิภาคีทั้งหมดจะนำมากล่าวอ้างได้อย่างมีน้ำหนักหรือไม่

มองได้อีกทางคือ การตอบกลับเหล่านี้ เป็นความพยายามในการยื้อเวลา แต่จะยื้อเพื่ออะไร นายสุณัยวิเคราะห์น่าสนใจว่า การประวิงเวลาของฝ่ายกัมพูชา กระทั่งมีการประกาศดีเดย์ของฝ่ายไทย มีความน่าสนใจ เพราะมองได้เหมือนกันว่ากัมพูชาต้องการยื้อเวลาเพื่อให้ชนกับห้วงเวลาการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เป็นห้วงเวลาที่กัมพูชามองถึงความได้เปรียบในแง่การดึงชาติสมาชิกอาเซียน และมหาอำนาจเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ แล้วอาจจะไปสอดรับกับความต้องการความสำเร็จในที่ประชุมอาเซียนของมาเลเซียในฐานะเจ้าภาพพอดี ทำให้เราได้เห็นความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะดันให้ไทยกับกัมพูชา ลงนามในข้อตกลงสันติภาพในการประชุมอาเซียนที่มาเลเซียสัปดาห์นี้

นายสุณัยยังบอกว่า ไม่รู้จะเป็นเดชะบุญ หรือจังหวะมันพอเหมาะพอดีหรือไม่ เพราะการประชุมเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อิสราเอลกับฮามาส ตกลงหยุดยิงแลกตัวประกันกันได้พอดี ทำให้การสร้างสันติภาพในตะวันออกกลาง ดึงความสนใจของผู้นำสหรัฐฯ และนานาชาติไปจดจ่อกับเรื่องนั้นมากกว่าความขัดแย้งเรื่องพรมแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา เพราะน้ำหนักสันติภาพในตะวันออกกลาง มีนัยสำคัญกว่า และเรื่องพรมแดนระหว่างสองประเทศ ไม่ว่าจะประเทศไทย ท้ายที่สุดก็ต้องจบที่การพูดคุยกันเองระหว่างสองฝ่ายอยู่แล้ว

อ่านข่าว :

ย้อนไทม์ไลน์ ก่อนปฏิบัติการทวงคืน "หนองจาน-หนองหญ้าแก้ว"

กัมพูชาส่งหนังสือตอบกลับ ทภ.1 ให้ระงับเก็บกู้ทุ่นระเบิดวันนี้

กต.ย้ำจุดยืนไทย 4 ข้อ "โดนัลด์ ทรัมป์" ตัวกลางเจรจากัมพูชา