ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สตรีเหล็กผู้ไม่ยอมจำนน "มาเรีย มาชาโด" เจ้าของโนเบลสาขาสันติภาพ 2025

ต่างประเทศ
18:28
152
สตรีเหล็กผู้ไม่ยอมจำนน "มาเรีย มาชาโด" เจ้าของโนเบลสาขาสันติภาพ 2025
คณะกรรมการโนเบลนอร์เวย์มอบรางวัลสันติภาพ 2568 แก่มาเรีย คอรินา มาชาโด ผู้นำฝ่ายค้านเวเนซุเอลา สำหรับส่งเสริมสิทธิประชาธิปไตย ท่ามกลางการหลบซ่อนจากรัฐบาลมาดูโรหลังวิกฤตเลือกตั้งปี 2567

วันนี้ (10 ต.ค.2568) CNN รายงาน การประกาศรางวัลโนเบลสันติภาพ 2568 แก่ มาเรีย คอรินา มาชาโด ที่นอร์เวย์ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเวเนซุเอลา คณะกรรมการยกย่องมาชาโดที่ "ส่งเสริมสิทธิประชาธิปไตยให้ประชาชนเวเนซุเอลา" โดยรักษา "เปลวไฟประชาธิปไตยท่ามกลางความมืดมิด" และสู้เพื่อ "เปลี่ยนผ่านสันติจากเผด็จการสู่ประชาธิปไตย"

แต่สิ่งนี้เกิดขึ้นขณะที่มาเรียต้องหลบซ่อนตัว หลังรัฐบาลนิโกลัส มาดูโร ปราบปรามฝ่ายค้านรุนแรงหลังเลือกตั้งประธานาธิบดี 2567 ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งยืดเยื้อ

จอร์เกน วัตเน ฟริดเนส ประธานคณะกรรมการ กังวลว่ามาชาโดอาจไม่สามารถเดินทางมารับรางวัลในเดือน ธ.ค.ได้ เนื่องจากภัยคุกคามรุนแรง ซึ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่เธอและผู้สนับสนุนเผชิญทุกวัน การประกาศนี้ไม่ใช่แค่ยกย่องบุคคล แต่เตือนโลกถึงวิกฤตสิทธิมนุษยชนในเวเนซุเอลา ที่รัฐบาลชาวิสโมใช้กำลังและกฎหมายปิดปากฝ่ายตรงข้าม

มาเรีย มาชาโด เกิดปี 2510 ที่กรุงการากัส จบวิศวกรรมอุตสาหการจากมหาวิทยาลัย Andrés Bello Catholic University และปริญญาโทการเงินจาก Instituto de Estudios Superiores de Administración (IESA) เธอเคยเรียน Yale World Fellows Program ที่มหาวิทยาลัยเยล เริ่มต้นทำงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ และก่อตั้งมูลนิธิ Fundación Atenea ปี 2535 เพื่อช่วยเด็กกำพร้าและเด็กมีปัญหาในกรุงการากัส

จุดเปลี่ยนสู่การเมืองคือปี 2545 ที่ก่อตั้ง Súmate กลุ่มอาสาสมัครตรวจสอบการเลือกตั้งและส่งเสริมสิทธิการเมือง กลุ่มนี้เด่นในการขับเคลื่อนลงประชามติถอดถอนฮูโก ชาเวซ ปี 2547 แม้ล้มเหลว แต่กลายเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านเผด็จการ หลังจากนั้น เธอและสมาชิกถูกกล่าวหากบฏและสมคบคิดจากรับเงิน National Endowment for Democracy (NED) แต่คดีถูกเลื่อนปี 2549 ทำให้มาเรียเป็นนักกิจกรรมที่รัฐมองเป็นภัยตั้งแต่แรก

Súmate เป็นจุดเริ่มของการสู้ยาวนาน โดยเธอใช้วิธีสันติรวบรวมประชาชนและตรวจสอบโปร่งใส ซึ่งตรงกับพินัยกรรมอัลเฟรด โนเบล ใน 3 ด้าน คือ รวมฝ่ายค้าน ต่อต้านกำลังทหาร และสนับสนุนเปลี่ยนผ่านสันติ

ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน มาเรียได้เป็นสมาชิกรัฐสภา สมัชชาแห่งชาติ ตัวแทนเขตมิรันดา ปี 2554-2557 โดยได้คะแนนสูงสุดประเทศในการเลือกตั้ง ปี 2555 เธอลงสมัครตัวแทนฝ่ายค้านชิงประธานาธิบดี และเผชิญชาเวซตรง ๆ ในสภา ท่าทีแข็งทำให้เธอถูกเรียก "สตรีเหล็ก" (Iron Lady) ติดอันดับ 100 สตรีทรงอิทธิพล BBC ปี 2561 และ 100 บุคคลทรงอิทธิพล Time ปี 2568

วิกฤตรุนแรงปี 2566-2568 เมื่อมาเรียลงสมัครฝ่ายค้านชิงประธานาธิบดี ชนะรอบแรกท่วมท้นและเป็นผู้สมัครเอกภาพ แต่กลับถูกตัดสิทธิ์การเมือง 15 ปี โดยถูกอ้างว่าทีเอี่ยวทุจริตจาก ฆวน กวยโด แม้ถูกกีดกัน เธอยังเสนอคอรีนา ยอริส เป็นตัวแทน แต่ยอริสก็ถูกกีดกันอีกคน 

มาเรียเขียนจดหมายถึง The Wall Street Journal เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2567 ว่ากำลังหลบซ่อน "กลัวชีวิต อิสรภาพ และเพื่อนจากเผด็จการมาดูโร" ต่อมา 9 ม.ค.2568 กองกำลังรัฐ พยายามจับเธอ หลังการชุมนุมกรุงการากัส สถานการณ์ชี้รัฐใช้ทุกทางกำจัดฝ่ายค้าน แต่เธอยังนำประท้วงเรียกร้องสิทธิ ทำให้เป็นสัญลักษณ์ความหวังท่ามกลางเผด็จการขยาย

การสู้ของมาเรียไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เธอเป็นกระบอกเสียงแทนประชาชนเวเนซุเอลาที่โหยประชาธิปไตยท่ามกลางมืดมิด และรางวัลนี้อาจเป็นก้าวแรกสู่การเปลี่ยนผ่านที่ มาชาโด ใฝ่ฝัน

อ่านข่าวอื่น :

เกาหลีเหนือโชว์พลัง ฉลอง 80 ปี พรรคแรงงาน พาเหรดอาวุธล้ำสมัย

IOT ลงพื้นที่ชายแดน ดูจุดแรก “บ้านเจ๊สาว” ขนแรงงานเขมรข้ามไทย