วันนี้ (10 ต.ค.2568) ฝ่ายปกครองจังหวัดสมุทรสาคร นำโดย ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบสถานที่แห่งหนึ่งใน ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านผ่านศูนย์ดำรงธรรม ว่าสถานที่ดังกล่าวเปิดเป็นศูนย์การเรียนการสอนสำหรับเด็กต่างชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ
สถานที่นี้ในอดีตเคยได้รับอนุญาตให้เปิดเป็นสถานศึกษาสำหรับนักเรียนไทย แต่ต่อมาปิดการเรียนการสอนและเพิกถอนใบอนุญาตไปแล้ว จากการตรวจสอบพบเด็กต่างชาตินับร้อยคนกระจายตัวอยู่ในห้องต่าง ๆ ของอาคาร 3 ชั้น โดยมีจำนวนประมาณ 800-900 คน
นอกจากนี้ ยังพบผู้ใหญ่ต่างชาติอีกกว่า 20 คน ทั้งชายและหญิง กำลังสอนหนังสือให้เด็ก ๆ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบเอกสารและข้อมูลบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องทันที
ผู้บริหารสถานที่แห่งนี้ซึ่งเป็นคนไทยอ้างว่า ที่นี่เป็นค่ายเยาวชนชาติพันธุ์ ไม่ใช่สถานศึกษา และได้ตรวจสอบความมั่นคงของอาคารแล้ว รวมถึงยื่นขอใช้อาคารต่อองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไม้ตามระเบียบ จากนั้นจึงรับเด็กต่างชาติเข้ามาเข้าร่วมกิจกรรม โดยยืนยันว่าไม่ได้เปิดสอนในรูปแบบโรงเรียน
ร.ต.อ.เขตรัฐ กล่าวว่า ได้รับร้องเรียนว่าสถานที่นี้เปิดสอนหนังสือให้ลูกหลานแรงงานข้ามชาติ ซึ่งยังไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดให้จัดกิจกรรมหรือเปิดสอน แม้จะผ่านการประเมินความปลอดภัยอาคารและยื่นขอจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้วก็ตาม
ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีบุคลากรและเจ้าหน้าที่รวม 27 คน ซึ่งผู้สอนและผู้ดูแลเด็กต้องมีใบอนุญาตทำงานที่ถูกต้องและตรงตามประเภทงาน แต่ทุกคนถือใบอนุญาตทำงานในฐานะกรรมกรเท่านั้น จึงเข้าข่ายกระทำผิดฐานทำงานไม่ตรงกับที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายแรงงาน ส่วนความผิดฐานอื่น ๆ เช่น การเปิดสถานศึกษาหรือค่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
ซึ่งอาจรวมถึงการเพิกถอนใบอนุญาต การปรับเงิน หรือดำเนินคดีอาญา สถานการณ์นี้สะท้อนปัญหาการดูแลแรงงานข้ามชาติและเด็กในพื้นที่อุตสาหกรรม ซึ่งต้องเข้มงวดยิ่งขึ้นเพื่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพ
อ่านข่าวอื่น :
บช.ก.เรียกสอบพยาน 3 ปากคดีสินบน 40 ล้านบาท
สตรีเหล็กผู้ไม่ยอมจำนน "มาเรีย มาชาโด" เจ้าของโนเบลสาขาสันติภาพ 2025