วันนี้ (18 ต.ค.2568) นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภาและอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และนายสุณัย ผาสุข นักวิจัยอาวุโสจากองค์การฮิวแมนไรท์วอทช์ ยื่นคำร้องต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและครอบครัวตามหลักกฎหมาย หลังถูกโจมตีและคุกคามทางออนไลน์อย่างรุนแรง
นางอังคณา กล่าวว่า อยากให้ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีลักษณะข่มขู่เอาชีวิตต่อตัวเองและครอบครัว และนายสุณัยด้วย หลังไปออกรายการหลายรายการ จากนั้นแฟนคลับของ "กัน จอมพลัง" ได้แสดงความคิดเห็นโจมตี ซึ่งไม่เข้าใจว่าการแสดงความคิดเห็นตั้งคำถามกับรัฐบาล เรื่องที่ให้เอกชนเข้าไปในพื้นที่กฎอัยการศึกได้อย่างไร จะทำให้ถูกคุกคาม กล่าวหาว่าไม่รักชาติ และมีบางคนโทรมาข่มขู่ด้วยวาจาหยาบคาย กล่าวหาว่าเข้าข้างกัมพูชา ซึ่งเกินกว่าเสรีภาพในความคิดเห็นโดยเสรี
สิ่งที่ดิฉันและคุณสุณัยโพสต์ไป เราตั้งคำถามต่อรัฐบาล ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคุณกัน จอมพลัง แค่ถามรัฐบาล แต่รัฐบาลไม่ตอบ กระทรวงการต่างประเทศไม่ตอบ กลายเป็นว่าคุณกันออกมาว่าดิฉันไปต่อว่าคุณกัน แล้วดิฉันก็โดนเอฟซีรุมถล่ม
ขณะที่นายสุณัย กล่าวเสริมว่า การทำงานของนักสิทธิมนุษยชนไม่ได้ตั้งอยู่บนอารมณ์ ความรู้สึก แต่มีการรวบรวมหลักฐานและรวบรวมข้อเท็จจริง ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นในแต่ละครั้ง เพราะฉะนั้นการกล่าวหาอย่างเลื่อนลอยว่าเราพูดจาไปเรื่อย เป็นการบิดเบือนอย่างร้ายแรงมาก ซึ่งผู้ที่กล่าวหาควรจะทบทวนตัวเองว่ากล่าวหาโดยมีข้อเท็จจริงอะไรมาสนับสนุน

ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ระบุว่า ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบไปดูแลความปลอดภัยที่บ้านพักตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา
นางอังคณา ยืนยันว่า แม้จะถูกคุกคามในเชิงความคิด แต่จะเดินหน้าและทำหน้าที่ต่อในฐานะนักสิทธิมนุษยชน แต่ส่วนตัวยอมรับว่าอำนาจรัฐล้มเหลวจนไม่สามารถปกป้องนักสิทธิมนุษยชนได้ ดังนั้นทางการไทยควรจะให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องของสิทธิมนุษยชน เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
พร้อมย้ำว่าการเข้าร้องเรียนต่อ ผบ.ตร.ในวันนี้ (18 ต.ค.) ไม่จำเป็นต้องไปแจ้งความโรงพักในพื้นที่ เพราะเรื่องนี้เป็นอำนาจของตำรวจที่ต้องสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นความผิดทางอาญา ตามกฎหมายตำรวจจะต้องดำเนินการเอง
อ่านข่าว