ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ข้าวต้ม" ฟื้นตัวดี ถีบตัวลุกได้ ทีมแพทย์ช่วยกายภาพต่อเนื่อง

"ข้าวต้ม" ฟื้นตัวดี ถีบตัวลุกได้ ทีมแพทย์ช่วยกายภาพต่อเนื่อง
ทีมสัตว์แพทย์จากเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากและสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า รายงานอาการล่าสุดของลูกช้างป่า "ข้าวต้ม" กินนม น้ำได้ปกติ แผลหลายจุดฟื้นตัวดี กำลังกายเพิ่มขึ้น สามารถถีบตัวลุกยืนได้ด้วยความช่วยเหลือ ระดับน้ำตาลในเลือดปกติ ยังให้ยาและกายภาพบำบัดต่อเนื่อง

วันนี้ (19 ต.ค.2568) ทีมสัตว์แพทย์จากเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากและศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก ร่วมกับกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ได้รายงานการติดตามอาการของลูกช้างป่า "ข้าวต้ม" ของวันที่ 18 ต.ค.2568 โดยพบว่าอาการโดยรวมดีขึ้น แม้ยังต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด

ลูกช้างข้าวต้มสามารถกินนมและน้ำได้ตามปกติ ขับถ่ายได้ โดยปัสสาวะมีสีใสและอุจจาระเหลว ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการย่อยอาหารเริ่มปรับตัว ทีมแพทย์จึงให้เชื้อจุลินทรีย์ดี (โพรไบโอติกส์) และน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เพื่อช่วยปรับสมดุลระบบทางเดินอาหารอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาปัญหาในระบบทางเดินอาหาร

ด้านแผล ลูกช้างข้าวต้มมีพัฒนาการที่น่าพอใจ แผลบริเวณสะดือแห้งดีแล้ว บริเวณอวัยวะเพศยังมีเนื้อตายค่อนข้างมากแต่ปริมาณหนองลดลง ในส่วนของเล็บมีหนองน้อยลง และแผลถลอกรอบตัวมีการฟื้นฟูที่ดี ซึ่งแสดงถึงการตอบสนองต่อการรักษาที่ดี

นอกจากนี้ ลูกช้างมีกำลังมากขึ้น สามารถถีบตัวลุกขึ้นยืนได้ โดยมีสัตว์แพทย์และเจ้าหน้าที่ช่วยพยุง ทีมแพทย์ทำกายภาพบำบัดด้วยการจับข้อเท้ายืดเหยียด ใช้เครื่องอัลตราซาวน์บำบัด และเครื่อง PMS อย่างต่อเนื่อง รวมถึงใส่เฝือกเข้ารูปที่ขาระหว่างวัน สลับกับการพักขาเพื่อป้องกันการบาดเจ็บเพิ่มเติม

การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดพบว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งเป็นข่าวดีที่บ่งชี้ว่าระบบเผาผลาญของลูกช้างข้าวต้มทำงานได้ดี ทีมสัตว์แพทย์นำโดย สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากและศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก และ น.สพ.วิศรุต ปิยะศิริศิลป์ จากกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ยังคงเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

อ่านข่าวอื่น :

โผโยกย้ายสะเทือนวงการน้ำ ใครควรนั่ง "เลขาฯ สทนช."

สถานทูตเกาหลีโต้ ข่าว "7 นักการเมืองไทยเอี่ยวสแกมเมอร์กัมพูชา" ไม่เป็นความจริง