วันนี้ (21 ต.ค.2568) เวลา 17.00 น. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง
นายอนุทิน กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีเวียดนามที่ให้เกียรติโทรศัพท์มาแสดงความยินดี และได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียจากอิทธิพลของไต้ฝุ่นบัวลอยเมื่อปลายเดือน ก.ย. ที่สร้างผลกระทบและความเสียหายแก่เวียดนาม พร้อมแสดงความยินดีกับรัฐบาลและประชาชนเวียดนามในโอกาสครบรอบ 80 ปีวันชาติเวียดนาม เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเชื่อมั่นถึงความร่วมมือระหว่างไทยและเวียดนาม ซึ่งเป็นสองประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาของภูมิภาคให้เติบโตอย่างยั่งยืน
นายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวแสดงความยินดีกับนายอนุทิน ในโอกาสที่ได้รับความไว้วางใจจากรัฐสภาและประชาชนจนได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หวังว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีจะประสบความสำเร็จต่อไป
ทั้งนี้ เวียดนามยืนยันกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกัน หลังทั้งสองฝ่ายยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน หรือ Comprehensive Strategic Partnership เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ในโอกาสที่สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การที่สองฝ่ายได้กระชับความร่วมมือระหว่างกันให้เข้มแข็ง จะส่งผลต่อความร่วมมือทั้งทวิภาคี อาเซียน และต่อโลกโดยรวม

ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงการกระชับความร่วมมือ กลไกความมั่นคง การค้าและการลงทุน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายทางการค้า 25,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งยกระดับความร่วมมือด้านการศึกษา การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนและวัฒนธรรม ความร่วมมือในประเด็นประมงผิดกฎหมาย (IUU) ความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และการสร้างความเข้มแข็งให้อาเซียน เพื่อนำไปสู่เสถียรภาพและสันติภาพในภูมิภาค
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลมุ่งมั่นแก้ไขปัญหากับกัมพูชาโดยสันติวิธีผ่านกลไกทวิภาคีต่าง ๆ พร้อมทั้งปกป้องอธิปไตยของประเทศอย่างเต็มที่ โดยคาดหวังว่าการประชุมทวิภาคีของทั้งสองฝ่าย จะทำให้ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจจนนำไปสู่การลงนามร่วมกันที่มาเลเซียในปลายเดือน ต.ค.นี้
ทั้งนี้ ไทยยังหวังว่ากัมพูชาจะปฏิบัติตามเงื่อนไข ทั้งการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การปราบปรามสแกมเมอร์ และการจัดการบริเวณชายแดนที่รุกล้ำเข้ามาในฝั่งไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีเวียดนามยินดีที่ไทยยึดมั่นในการเจรจาอย่างสันติ และหวังว่าทั้งไทยและกัมพูชาจะเดินหน้าไปสู่สันติภาพอย่างยั่งยืน
นายกรัฐมนตรีไทยและเวียดนาม ต่างหวังว่าจะได้พบปะหารือกันในการประชุมสุดยอดอาเซียนที่มาเลเซียปลายเดือน ต.ค.นี้ จะได้หารือกระชับความร่วมมือในประเด็นต่าง ๆ ได้ลึกซึ้งมากขึ้น ซึ่งไทยยินดีต้อนรับเวียดนามในการประชุม MLC Summit ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือน ธ.ค. พร้อมยืนยันจะสานต่อและเร่งขับเคลื่อนความร่วมมือในทุกมิติ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ตามที่ทั้งสองฝ่ายได้ยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน ในโอกาสนี้ทั้งสองฝ่ายยังหวังว่าไทยและเวียดนามจะส่งเสริมให้เกิดการลงทุนซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมการเกษตร เทคโนโลยี และภาคการผลิต
อ่านข่าว : ทภ.1 เคลียร์พื้นที่ปลอดภัย "บ้านหนองจาน" เพิ่มอีก 4,000 ตร.ม.
รองประธานวุฒิฯ กัมพูชา ขึ้นโพเดียมโจมตีไทยกลางเวทีใหญ่ IPU
นายกฯหารือทูตสหรัฐฯ ย้ำ 4 จุดยืนไทยต่อกัมพูชา
แท็กที่เกี่ยวข้อง: