ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“ในหลวง-พระราชินี” ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวันปิยมหาราช 2568

พระราชสำนัก
08:02
358
“ในหลวง-พระราชินี” ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวันปิยมหาราช 2568

วันที่ 23 ต.ค.2568 เวลา 17.21 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ไปยังพระบรมราชานุสรณ์ พระลานพระราชวังดุสิต

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพวงมาลาส่วนพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงวางพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพวงมาลาส่วนพระองค์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงวางพวงมาลาส่วนพระองค์

เสร็จแล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองทิศ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี ซึ่งทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาว่า “พระปิยมหาราช" อันมีความหมายว่า “พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย” รัฐบาลจึงประกาศให้วันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันปิยมหาราช เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงทุ่มเทพระวรกายปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ ส่งผลให้ประเทศชาติมีความเจริญรุดหน้าในทุกด้านทัดเทียมนานาอารยประเทศ

เวลา 17.50 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวันปิยมหาราช พ.ศ.2568 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของพระบรมอัฐิ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของพระอัฐิ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี และพระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา ซึ่งประดิษฐานในพระที่นั่งบุษบกมาลา

แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยาราชาวดี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย กราบถวายบังคมพระบรมอัฐิ และพระอัฐิ ซึ่งประดิษฐานที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยารอง และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย

เมื่อพระสงฆ์ 57 รูป สวดพระพุทธมนต์ จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนดูหนังสือเทศน์ พระราชทานแก่เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปปักที่จงกลธรรมาสน์

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร สำหรับพระบรมอัฐิและพระอัฐิทรงธรรม ทรงศีล

ต่อจากนั้น พระพรหมวชิรากร เจ้าอาวาสวัดราชผาติการาม ถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนา “เรื่อง ปิยมหาราชานุสฺสติกถา” จบแล้ว

ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ แล้วทรงทอดผ้าไตร 18 ไตร จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา แล้วทรงทอดผ้าไตร เที่ยวละ 20 รูป พระสงฆ์สดับปกรณ์ จนครบ 2 เที่ยว

ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ ทรงกราบพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของพระบรมอัฐิ และพระอัฐิ ที่หน้าพระที่นั่งบุษบกมาลา และทรงกราบถวายบังคมพระบรมอัฐิ และพระอัฐิ ที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระนามเดิมว่า สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ เสด็จพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2396 เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฎวิทยมหาราช กับสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ทรงได้รับการกราบบังคมทูลเชิญขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์สืบต่อจากสมเด็จพระบรมราชชนกนาถ เมื่อปี 2411 ทรงพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศในหลานด้าน เช่น การเลิกทาส ทรงดำเนินการด้วยความรอบคอบ รวมเวลากว่า 30 ปี จึงสำเร็จโดยไม่มีความขัดแย้งรุนแรงดังที่เกิดขึ้นในบางประเทศ

ด้านการปกครอง ทรงเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคให้เหมาะสมกับยุคสมัยหลายประการ ให้สอดคล้องกับความเป็นไปของโลก เพื่อให้ประเทศชาติรอดพ้นจากการตกเป็นประเทศอาณานิคมของชาติตะวันตก และด้านการศึกษา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างโรงเรียนขึ้นหลายแห่ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2453 ทรงครองสิริราชสมบัติ 42 ปี