วันนี้ (28 ต.ค.2568) สม รังสี ผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา เผยแพร่ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่า ขอเรียกร้องให้โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใช้ความมุ่งมั่นเช่นเดียวกับที่แสดงให้เห็นในการเผชิญหน้ากับระบอบการปกครองที่สนับสนุนอาชญากรรมของเวเนซูเอลา เพื่อต่อสู้กับการเพิ่มขึ้นของเครือข่ายฉ้อโกงทางไซเบอร์ข้ามชาติที่ดำเนินการจากกัมพูชา ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของจีน
สม รังสี ชื่นชมภาวะผู้นำที่เด็ดขาดของผู้นำสหรัฐฯ ในการใช้กำลังทหารและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ ในแคริบเบียน เพื่อต่อสู้กับการค้ายาเสพติดและทำลายเครือข่ายอาชญากรรมของระบอบการปกครองเวเนซุเอลา พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทรัมป์มีกลยุทธ์ระดับโลกที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งรวมถึงมาตรการคว่ำบาตรที่เจาะจงเป้าหมาย เพื่อจัดการกับกลุ่มที่เชื่อมโยงกับการฉ้อโกงทางไซเบอร์ การค้ามนุษย์และการฟอกเงินที่เจริญรุ่งเรืองในกัมพูชา ภายใต้การปกครองที่ยาวนานของฮุน เซน
นอกจากนี้ สม รังสี ยังกล่าวถึงความตึงเครียดระหว่างกัมพูชาและไทย โดยระบุว่าความขัดแย้งเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป แม้ทั้ง 2 ฝ่ายจะตกลงหยุดยิงเมื่อเร็วๆ นี้ภายใต้การสนับสนุนของทรัมป์ โดยอธิบายว่าสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ข้อพิพาทชายแดน แต่อยู่ที่ความเป็นปรปักษ์ของฮุน เซน ต่อการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติของไทย ซึ่งกระแสเงินทุนที่ผิดกฎหมายเหล่านี้มีความสำคัญต่อการอยู่รอดของระบอบการปกครองกัมพูชา
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
ผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา ยังย้ำการเรียกร้องให้ผู้นำสหรัฐฯ นำเครื่องมือที่ใช้แล้วประสบความสำเร็จในแคริบเบียน มาใช้เพื่อถอนรากถอนโคนโครงสร้างพื้นฐานทางอาชญากรรมที่ฝังรากลึกในกัมพูชาและทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทั้งระบุว่าการริเริ่มที่เด็ดขาดที่นำโดยสหรัฐฯ จะช่วยปกป้องพลเมืองและธุรกิจของอเมริกัน ทำลายเครือข่ายการเงินที่ผิดกฎหมายที่ค้ำจุนระบอบเผด็จการ และจะช่วยยืนยันภาวะผู้นำระดับโลกของสหรัฐฯ ในการปกป้องหลักนิติธรรม
กัมพูชาเดินหน้าประสาน AOT ตรวจสอบยานเกราะ
ขณะที่เฟซบุ๊กกระทรวงกลาโหมกัมพูชา โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ทีมประสานงานผู้สังเกตการณ์ของกระทรวงกลาโหม ประสานงานกับคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน หรือ AOT เพื่อตรวจสอบอาวุธ (ยานเกราะ) ที่ถูกส่งกลับไปยังฐานทัพที่ อ.บันทายศรี จ.เสียมเรียบ
ยานเกราะเหล่านี้ถอนกำลังมาจากพื้นที่พิพาทชายแดนกัมพูชา-ไทย ในพื้นที่ จ.พระวิหาร เมื่อคืนวันที่ 26 ต.ค. หลังจากนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและนายกรัฐมนตรีไทย พร้อมด้วยผู้นำสหรัฐฯ และมาเลเซีย ร่วมลงนามในถ้อยแถลงผลการพบหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรไทย และนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย
อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีไทย และฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลงนามความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โดยมีอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นพยาน
อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีไทย และฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลงนามความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โดยมีอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นพยาน
กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุด้วยว่า การกระทำข้างต้นสะท้อนชัดเจนถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของกัมพูชา ในการปฏิบัติตามหลักการที่ระบุไว้ในถ้อยแถลงผลการหารือ และหวังว่าความก้าวหน้าเชิงบวกครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนความพยายามร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่ายในการส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และการกลับคืนสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็วตามแนวชายแดนร่วมกัน
ด้านกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เผยภาพ ปรัก สุคน รัฐมนตรีต่างประเทศ พบหารือทวิภาคีกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ในห้วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อความมุ่งมั่นและการสนับสนุนอย่างแข็งขันของสหรัฐฯ ในการช่วยแก้ไขข้อพิพาทระหว่างกัมพูชาและไทยอย่างสันติ ซึ่งนำไปสู่ข้อตกลงสันติภาพระหว่าง 2 ประเทศ โดยสันติภาพถือเป็นสมบัติอันล้ำค่าที่สุดที่เป็นรากฐานของการพัฒนาทั้งหมดในประเทศต่างๆ
"กัมพูชา-เกาหลีใต้" เห็นชอบตั้งคณะปราบสแกมเมอร์
กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ยังเผยแพร่ผลการหารือทวิภาคีระหว่างฮุน มาเนต และอี แจ-มยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งระบุด้วยว่า ประธานาธิบดีอี แจ-มยอง ชื่นชมความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ และแสดงความขอบคุณที่รัฐบาลกัมพูชาใส่ใจพลเมืองเกาหลีที่อาศัยและทำงานอยู่ในกัมพูชา
อี แจ-มยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้
อี แจ-มยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า ผู้นำทั้งสองเห็นตรงกันว่าปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและการหลอกลวงออนไลน์ ไม่ใช่เรื่องที่ประเทศใดประเทศหนึ่งจะสามารถแก้ไขได้โดยลำพัง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือกันในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะความร่วมมืออย่างแข็งขันระหว่างกัมพูชากับเกาหลีใต้
ผู้นำเกาหลีใต้แสดงการสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อความร่วมมือในการจัดการปัญหานี้ และให้คำมั่นที่จะพิจารณาปรับลดระดับคำเตือนการเดินทางไปกัมพูชา นอกจากนี้ยังให้คำมั่นกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาว่าปัญหาอาชญกรรมหลอกลวงทางออนไลน์ จะไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีโดยรวมระหว่าง 2 ประเทศ
อ่านข่าว
เปิดถ้อยแถลงผลพบหารือ "อนุทิน-ฮุน มาเนต" ลงนามความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา
เกาหลีใต้กระชับความร่วมมืออาเซียน ปราบอาชญากรรมข้ามชาติ
สหรัฐฯ-จีน บรรลุกรอบข้อตกลงการค้า ก่อน "ทรัมป์" พบ "สี จิ้นผิง" ที่โซล











