วันนี้ (28 ต.ค.2568) การประชุมวุฒิสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานในที่ประชุม ในการพิจารณารายงานผลการพิจารณาเรื่องร้องเรียนจริยธรรมสมาชิกวุฒิสภาของคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา กรณี น.ส.นันทนา นันทวโรภาส
ตามคำร้องเห็นว่าคำร้อง น.ส.นันทนา ผู้ถูกร้องไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม ตามประมวลจริยธรรมของวุฒิสภาและกรรมาธิการ เนื่องจากเป็นการกระทำที่วางตัวไม่เป็นกลาง ดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เกี่ยวกับการประกอบอาชีพของบุคคล ให้เกียรติไม่เคารพสิทธิ์เสรีภาพส่วนบุคคล และเสียดสีสมาชิกวุฒิสภาคนอื่น อันเป็นการกระทำที่สูญเสียต่อเกียรติศักดิ์การดำรงตำแหน่ง สว. ซึ่งกรรมการจริยธรรมได้พิจารณาเห็นว่า การกระทำดังกล่าวขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
หลังการลงคะแนนลับ โดยมีมติไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ 130 ต่อ 23 งดออดเสียง 11 ไม่ลงคะแนน 2 ชี้ว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกวุฒิสภาและกรรมาธิการปี 2563
และวุฒิสภามีมติไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 คือ เห็นด้วย 130 ต่อ 26 งดออกเสียง 11 ไม่ลงคะแนน 2 สรุปว่าวุฒิสภา เห็นว่า น.ส.นันทนา กระทำการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม เกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ประธานวุฒิสภาจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ตั้งแต่เข้าสู่วาระการประชุมที่ประชุมพิจารณาลับนานกว่า 4 ชั่วโมง ก่อนที่ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา ผู้ถูกร้องจะชี้แจง และกรรมการจะได้ทำสรุป จากนั้นก็เป็นการลงคะแนน เรื่องการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม แต่เมื่อกำลังจะลงมติกรณีการฝ่าฝืนประมวลจริยธรรม ซึ่งลงคะแนนขัดข้องทำให้ประธานในที่ประชุมสั่งพรรคประชุม 15 นาที ก่อนที่จะกลับมาลงอีกครั้ง ใหม่ทั้ง 2 ประเด็น
"นันทนา" มองมติวุฒิสภา สะท้อนมีเจ้าของ-กดปุ่มสั่งการได้
จากนั้น น.ส.นันทนา นันทวโรภาส แถลงด้วยเสียงสั่นเคลือว่ามติวุฒิสภาวันนี้เป็นมติอัปยศที่สะท้อนชัดเจนว่าวุฒิสภาแห่งนี้มีเจ้าของ สั่งการได้ ไม่ว่าต้องการอะไรแต่สามารถกดปุ่มให้เดินหน้าตามนั้นได้ สิ่งที่ถูกกระทำคือการพยายามเรียกร้องจัดกติกาตามกลุ่มอาชีพ ตามความถนัด แต่กลับถูกลงมติให้ผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง
นี่คือการสมคบคิดตั้งแต่ต้น ผู้ที่ยื่นร้องเป็นทนายซึ่งรับจ้างมาเพื่อร้อง และได้พบกันมีการขอโทษ และชี้แจงว่าจำเป็นต้องยื่นร้อง พร้อมแถลงย้ำ อีกครั้งว่ากระบวนการสอบจริยธรรมไม่ให้เข้าชี้แจง มีการลงมติรับ สุดท้ายคือการลงมติในที่ประชุมวุฒิสภาใหญ่ กดปุ่มลงมติ 130 เสียงส่งให้ผิดจริยธรรมและเรื่องไปยัง ป.ป.ช.
น.ส.นันทนา กล่าวว่า นี่คือความอัปลักษณ์ของสิ่งที่เรากำลังจะพบในการเมืองไทย นี่คือสิ่งที่ดิฉันจะต่อสู้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับดิฉัน ดิฉันจะไม่แตกสลาย จะยืนหยัดเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชน และจะต่อสู้ให้การดินรวบในประเทศนี้ทำไม่ได้ ไม่ว่าจะการกินรวบวุฒิสภา กินรวบองค์กรอิสระ จะร่วมต่อสู้กับ สว. อิสระ
น.ส.นันทนา กล่าวว่า ไม่เคยรับรู้ในกระบวนการตรวจสอบ และไม่เคยเข้าชี้แจง อีกทั้งในเอกสารที่แจกให้ สว.อ่านในวันนี้ก็มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงไม่ถูกต้อง แล้วมีการลงมติ พร้อมถามกลับว่านี่คือวุฒิสภาใช่หรือไม่เพียงแค่กล่าวว่าคนขายหมูเข้าไปในกรรมาธิการพัฒนาการเมือง ผิดฝาผิดตัวเหตุใดต้องผิดจริยธรรมขั้นร้ายแรง ซึ่งการที่ถูกลงมติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง จะส่งผลสะเทือนสู่ สว. อิสระคนอื่นๆ เป็นการปิดปาก ใช้นิติสงครามในการเล่นงานคนเห็นต่าง ย้ำว่าจะต่อสู้ต่อไป และไม่ยอมกับสีน้ำเงิน ไม่ยอมให้สีน้ำเงินกินรวบประเทศไทย
ทั้งนี้ยังหวังว่ากระบวนการในชั้น ป.ป.ช.จะเป็นกระบวนการที่โปร่งใสและชัดเจน เปิดโอกาสให้มีการนำเสนอข้อมูลหลักฐานอย่างตรงไปตรงมา พร้อมยกตัวอย่างในอดีตมีการยกคำร้องอดีต สว. เช่น อดีต สว.พัวพันการฆาตกรรม อดีต สว.ที่เคยพัวพันยาเสพติด ขณะที่ตนเองพูดแค่ สว. ขายหมูแต่ผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง หากกระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยว วุฒิสภาก็ไม่สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ ขณะที่กระบวนการตรวจสอบของ ป.ป.ช.จะใช้เวลาเท่าไหร่นั้นไม่ทราบ
พร้อมถามกลับว่าเหตุใดจึงไม่รอให้กระบวนการในศาลเสร็จสิ้นก่อน ซึ่งจะมีความเห็นว่ารับหรือไม่รับไว้พิจารณาในวันที่ 10 พ.ย. แต่กลับมีการตั้งกรรมการสอบจริยธรรมและลงมติส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. โดยได้ให้ทนายความยื่นเรื่องนี้ต่อ ป.ป.ช. และจะนำความเห็นของศาลยื่นไปให้พิจารณาด้วย
อ่านข่าว : อย. เผย "ยาดมสมุนไพร" สูตร 2 ผิดมาตรฐาน เตือน ปชช. ระมัดระวังการซื้อ
"บิ๊กโจ๊ก" ยืนยัน นักการเมือง “ช” เอี่ยวสแกมเมอร์ ไม่ใช่ "ไชยชนก"
“หมิว พรปวีณ์” กลับมาลุยศึกซีเกมส์ 2025 พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจ











