ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“คนละครึ่งพลัส”วันแรกใช้จ่ายสะพัด 500 ล้าบบาท ร้านค้าเข้าร่วมได้ถึง19 ธ.ค.

เศรษฐกิจ
15:56
191
“คนละครึ่งพลัส”วันแรกใช้จ่ายสะพัด  500 ล้าบบาท ร้านค้าเข้าร่วมได้ถึง19 ธ.ค.
อ่านให้ฟัง
05:51อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
คลัง เผย ใช้สิทธิคนละครึ่งพลัสวันแรก คึกคัก ยอดใช้จ่ายกว่า 500 ล้านบาท ร้านค้ายังสามารถลงทะเบียนได้ถึง 19 ธ.ค.นี้เท่านั้น ย้ำประชาชนต้องใช้ครั้งแรกภายในวันที่ 11 พ.ย. 2568 เวลา 23.00 น. หากพ้นระยะเวลาจะถือว่าไม่ประสงค์เข้าร่วมและถูกตัดสิทธิในโครงการ

วันนี้ (29 ต.ค.2568) นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันพุธที่ 29 ตุลาคม 2568 ประชาชนที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง พลัส (โครงการฯ) สามารถเริ่มใช้จ่ายได้เป็นวันแรกกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยตั้งแต่เวลา 06.00 น. มีประชาชนให้ความสนใจใช้จ่ายผ่านโครงการฯ เป็นจำนวนมาก และ เวลา 12.30 น. มีผู้ใช้จ่ายผ่านโครงการฯ สำเร็จแล้วกว่า 2.49 ล้านราย ยอดใช้จ่ายรวมกว่า 501.11 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายจำนวน 252.40 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่ายจำนวน 248.71 ล้านบาท

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.- 31 ธ.ค. 2568 ตั้งแต่เวลา 06.00 - 23.00 น. ผ่าน G-Wallet ในแอปพลิเคชัน เป๋าตัง โดยในแต่ละวันไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายให้เต็มสิทธิ 200 บาท
โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวย้ำว่า ร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ ยังคงสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 19 ธ.ค.2568

โดยร้านค้าที่ประสงค์จะขายอาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) สามารถเลือกเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการ Food Delivery Platform ที่ได้รับอนุมัติเข้าร่วมโครงการฯ ได้ 1 ราย ผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนสามารถใช้จ่ายเพื่อซื้ออาหารและเครื่องดื่มจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) ได้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 06.00 - 21.00 น. ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”

ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำว่า ประชาชนจะต้องเริ่มใช้ครั้งแรกภายในวันที่ 11 พ.ย. 2568 เวลา 23.00 น. ซึ่งหากพ้นระยะเวลาดังกล่าว จะถือว่าไม่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ และถูกตัดสิทธิในโครงการฯ และสำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ จะไม่มีการนำส่งข้อมูลรายได้ของร้านค้าให้แก่กรมสรรพากรแต่อย่างใด

นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลังร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (Central Investigation Bureau: CIB) แถลงเปิดปฏิบัติการทลายกลโกงร้านค้าที่โฆษณาเชิญชวนประชาชนที่ได้รับสิทธิโครงการฯ ให้นำวงเงินตามสิทธิมาแลกเป็นเงินสด โดยมีส่วนต่างที่ต้องหักให้ร้านค้า ซึ่งไม่ก่อให้เกิดการซื้อขายสินค้าหรือบริการจริงตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ โดยได้จับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 3 รายเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พร้อมทั้งเน้นกำชับเตือนประชาชนและร้านค้าห้ามซื้อขายสิทธิหรือใช้สิทธิโครงการฯ โดยไม่มีการซื้อขายจริง และโปรดอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนให้แลกวงเงินสิทธิโครงการฯ เป็นเงินสด เนื่องจากเป็นการนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ (ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)

ทั้งนี้ หากมีการแลกวงเงินสิทธิโครงการฯ เป็นเงินสดสำเร็จ จะถือเป็นความผิดทางอาญาฐานร่วมกันฉ้อโกง ทั้งผู้แลกและผู้รับแลก (ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) ตลอดจนต้องคืนเงินให้แก่รัฐบาลทั้งจำนวนที่เคยได้รับไป รวมถึงอาจถูกระงับสิทธิไม่ให้เข้าร่วมโครงการอื่นของรัฐบาลอีกด้วย

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ทั้งนี้นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นำคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนผู้ประกอบการร้านค้า และประชาชนที่มาจับจ่าย ซื้ออาหาร และเครื่องดื่ม ตลอดจนของใช้ต่างๆ ในโครงการคนละครึ่งพลัส ซึ่งเป็นวันแรกที่เริ่มโครงการฯ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการร้านค้าและประชาชนเป็นอย่างมาก  ตลาดนัดหลังกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2568 ซึ่งมีประชาชนใช้จ่ายกันอย่างคึกคัก  จากการสอบถามร้านค้าขายเสื้อผ้า พบว่า ขายดีขึ้นกว่าเดินครึ่งเข้ามียอดขายถึง 5,000 บาท ซึ่งมากกว่าก่อนเข้าร่วมโครงการ

อ่านข่าว:

 "คนละครึ่งพลัส" ใช้วันแรก "อัยรินทร์" คาดเงินสะพัด 8.8 หมื่นล้านทั่วประเทศ

วันแรก! ตลาดวิภาวดีคึกคัก ผู้ค้าติดป้าย "คนละครึ่งพลัส" ดึงดูดลูกค้า

29 ต.ค.เริ่มใช้สิทธิ "คนละครึ่งพลัส" ดันร้านค้าผูกเดลิเวอรี 3 พ.ย.