เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2568 เป็นวันแรกที่รัฐบาลเปิดให้ประชาชนใช้สิทธิโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ในการจับจ่ายซื้อสินค้า แต่ขณะเดียวกันพบว่ามีผู้ทุจริต โดยตำรวจติดตามจับผู้ต้องหาที่มีพฤติกรรมใช้ผลประโยชน์จากโครงการของรัฐโดยมิชอบ รวม 3 คน ทั้งหมดประกอบกิจการร้านค้าที่ตั้งอยู่ในชุมชน
ตำรวจกองบังคับการปราบปราม พร้อมตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) นำหมายจับเข้าแสดงตัวและควบคุมตัวเจ้าของกิจการร้านค้ารายหนึ่งใน ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ส่วนอีกคนอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ประกอบกิจการร้านค้าในชุมชนเช่นกัน และผู้ต้องหาคนที่ 3 อยู่ใน อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์
ด้าน พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามกระทำความเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ได้เฝ้าระวังพฤติกรรมของประชาชนมาราว 1 สัปดาห์ ก่อนถึงกำหนดเปิดให้ประชาชนใช้สิทธิ และพบว่ามีผู้โพสต์เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมแลกวงเงินตามสิทธิ เป็นเงินสดแทดการใช้จ่ายจริง โดยหักส่วนต่างและแบ่งผลประโยชน์กัน หรือเรียกเก็บค่าดำเนินการ
การกระทำดังกล่าวมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มีโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตำรวจยังย้ำเตือนประชาชนที่ได้รับสิทธิว่า ขอให้ใช้สิทธิโกงสิธิซื้อ-ขายสินค้าตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ของโครงการฯ เพราะหากใช้สิทธิไปแลกเป็นเงินสด จะเข้าข่ายมีความผิด เช่นเดียวกับผู้ประกอบการที่รับแลกเงินสด เนื่องจากรัฐเป็นผู้เสียหาย โดยจะเข้าข่ายร่วมกันฉ้อโกง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านข่าว
วันแรก! ตลาดวิภาวดีคึกคัก ผู้ค้าติดป้าย "คนละครึ่งพลัส" ดึงดูดลูกค้า
MRT 4 สายเปิดใช้ "คนละครึ่งพลัส" ชำระตั๋วครึ่งราคาผ่าน "เป๋าตัง"











