ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ฟิลิปปินส์เริ่มฟื้นฟูบ้านเรือน "คัลแมกี" ถล่มยอดผู้เสียชีวิตพุ่ง 66 คน

ต่างประเทศ
12:46
117
ฟิลิปปินส์เริ่มฟื้นฟูบ้านเรือน "คัลแมกี" ถล่มยอดผู้เสียชีวิตพุ่ง 66 คน
อ่านให้ฟัง
05:02อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
พายุ "คัลแมกี" ถล่มฟิลิปปินส์สร้างความเสียหายรุนแรง จ.เซบูน้ำท่วมฉับพลันกลืนกินเมืองใหญ่ คร่าชีวิตผู้คนถึง 66 สูญหายอีก 26 คน ชาวบ้านเริ่มฟื้นฟูท่ามกลางซากปรักหักพัง ขณะที่นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้พายุรุนแรงยิ่งขึ้น

วันนี้ (5 พ.ย.2568) CNA รายงาน ไต้ฝุ่นคัลแมกีที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 66 คนแล้ว ชาวบ้านใน จ.เซบู ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เริ่มกลับมาทำความสะอาดบ้านเรือนและร้านค้าที่พังยับเยินจากน้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี

น้ำท่วมที่ชาวบ้านเรียกว่า "ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" พัดทะลักเข้ามาในหมู่บ้านและเมืองใหญ่ พัดพาเอารถยนต์ รถบรรทุก และแม้แต่ตู้คอนเทนเนอร์ขนาดยักษ์ให้ลอยไปตามกระแสน้ำ รองผู้บริหารสำนักงานป้องกันภัยพิบัติ ราเฟลิโต อะเลฮานโดร บอกกับสถานีวิทยุท้องถิ่น DZMM ว่า จ.เซบู มีผู้เสียชีวิตถึง 49 คน ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของยอดรวมทั้งประเทศ และยังมีผู้สูญหายอีก 26 คน

เมืองใหญ่ที่เป็นเขตเมืองหนาแน่นต่างก็ถูกน้ำท่วมหนัก แต่ตอนนี้ น้ำท่วมได้ลดลงหมดแล้ว แต่ความท้าทายของเราคือการเคลียร์เศษซากที่อุดตันถนน

นอกจากนั้น นักข่าวเอเอฟพีได้พูดคุยกับชาวบ้านในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่พวกเขากำลังทำความสะอาดถนนที่เมื่อวานยังเป็นแม่น้ำไหลเชี่ยว เรย์นัลโด เวอร์การา ชายวัย 53 ปี เล่าให้ฟังว่าน้ำท่วมที่นี่เมื่อวานรุนแรงมาก ร้านค้าขนาดเล็กของเขาถูกน้ำพัดทุกอย่างหายไปหมด

น้ำมาจากแม่น้ำที่ล้นตลิ่ง เวลาประมาณ 04.00-05.00 น. น้ำไหลแรงมากจนยืนไม่อยู่ข้างนอก ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อน น้ำเชี่ยวกรากจริง ๆ

ก่อนที่พายุจะขึ้นฝั่ง 24 ชั่วโมง พื้นที่รอบเมืองเซบูได้รับฝนตกหนักถึง 183 มิลลิเมตร ซึ่งมากกว่าปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งเดือน (131 มิลลิเมตร) ตามที่ ชาร์มาน เจน วาริลลา ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศ บอกกับเอเอฟพี ผู้ว่าราชการจังหวัด พาเมลา บาริคัวโตร เรียกสถานการณ์นี้ว่า "ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" และบอกนักข่าวว่า คิดว่าลมแรงจะเป็นอันตรายหลัก แต่ "น้ำ" ต่างหากที่กำลังคุกคามชีวิตคนของเรา น้ำท่วมกำลังทำลายล้างทุกอย่าง

นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าพายุจะรุนแรงขึ้นเพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากมนุษย์ มหาสมุทรที่อุ่นขึ้นทำให้พายุเสริมพลังอย่างรวดเร็ว และชั้นบรรยากาศที่อุ่นขึ้นกักเก็บความชื้นได้มากขึ้น ส่งผลให้ฝนตกหนักกว่าเดิม ก่อนหน้านี้ มีการอพยพประชาชนเกือบ 400,000 คนออกจากเส้นทางของพายุล่วงหน้า

เฮลิคอปเตอร์ทหารช่วยเหลือผู้ประสบภัยตก คร่า 6 ชีวิต

กองทัพฟิลิปปินส์ยืนยันเมื่อวันอังคารที่ 4 พ.ย.2568 ว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ใช้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุ 1 ลำ จากทั้งหมด 4 ลำ ได้ตกที่เกาะมินดาเหนือ

เฮลิคอปเตอร์ซูเปอร์ฮิวอี้ ที่เข้าสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุรุนแรง ตกขณะกำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองชายฝั่งบูตวน ตามแถลงการณ์ของกองบัญชาการมินดาเหนือตะวันออก การค้นหาและกู้คืนกำลังดำเนินการอยู่

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา โฆษกกองทัพอากาศ พ.อ.มารีอา คริสตินา บาสโก กล่าวว่า ทหารได้กู้คืนร่างของผู้เสียชีวิต 6 คน และกำลังรอผลตรวจดีเอ็นเอเพื่อยืนยันตัวตน บนเครื่องมีนักบิน 2 คน และ ลูกเรือ 4 คน

ขณะนี้ไต้ฝุ่นคัลแมกีกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกสู่เกาะปาลาวัน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ลมพัดด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. และ ลมกระโชกแรงถึง 165 กม./ชม. ฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นประเทศหมู่เกาะ ถูกพายุและไต้ฝุ่นถล่มเฉลี่ยปีละ 20 ลูก โดยมักพัดเข้าพื้นที่เสี่ยงภัยที่ประชาชนส่วนใหญ่อยู่ในสภาพยากจน และคาดว่าจะมีพายุเพิ่มอีก 3 - 5 ลูก ก่อนสิ้นเดือน ธ.ค.นี้

อ่านข่าวอื่น :

เครื่องบินขนส่งสินค้าของ UPS ตกใกล้สนามบินหลุยส์วิลล์ สหรัฐฯ

"อัจฉริยะ" มอบหลักฐาน กมธ.อ้างแผนผังเส้นเงินบัญชีม้า โยงนักการเมือง