วันนี้ (6 พ.ย.2568) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงแนวทางปราบปรามสแกมเมอร์ ว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทย พร้อมยืนยันว่าไทยไม่มีอาณาจักรฐานที่ตั้งของสแกมเมอร์ แต่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้ประสานความร่วมมือกับตำรวจสากลและสหประชาชาติ เกี่ยวกับการกระทำผิดที่เกี่ยวกับการหลอกล่วง ทั้งสแกมเมอร์ คอลเซนเตอร์และการค้ามนุษย์ที่มีความสัมพันธ์กันและยกระดับความรุนแรงมากขึ้น
ขณะที่ไทยเป็นประเทศที่ต้องรองรับผู้หลบหนีและได้ขอร้องให้นำตัวบุคคลเหล่านั้นกลับไปสอบสวน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดีในการประสานงานกับต่างประเทศ แต่ขึ้นอยู่กับว่าประเทศเหล่านั้นจะให้ความร่วมมือมากน้อยเพียงใด
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยว่า จากการประชุมตำรวจอาเซียนตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. จนถึงปัจจุบัน มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล พูดคุยถึงวิธีการคัดแยกผู้เสียหายและผู้กระทำผิด ซึ่งการทำงานระหว่างประเทศมีผลตอบรับเป็นอย่างดี
ส่วนในประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้แบ่งอำนาจหน้าที่ในการป้องกันและปราบปราม ยกระดับความสำคัญผ่านการเสริมสร้างวัคซีน เพราะหากเน้นแต่การปราบปราม ไม่ใส่วัคซีนให้ประชาชน ก็จะยังคงมีคนถูกหลอกอยู่เรื่อยๆ
เราต้องพูดกันด้วยความจริง การแก้ไขที่ต้นเหตุองค์กรอาชญากรรมที่เกิดขึ้น มีองค์ประกอบการกระทำความผิดคือคน รวมถึงสาย เสา ที่สามารถส่งสัญญาณผ่านสายไฟเบอร์ออฟติก โดยสั่งสำรวจเสาที่ปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปต่างประเทศ ต้องทำลายทั้งหมด ไม่สนใครทั้งนั้น ถือเป็นการทำลายแขนขา หากทำได้ก็มั่นใจว่าจะแก้ไขปัญหานี้
ขณะเดียวกันยังสั่งให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเข้า (ตม.) คัดแยกคนเข้าออกในกลุ่มที่ผิดปกติ ตนจึงอยากถามว่ามีใครทำเหมือนตนหรือไม่ ก่อนที่จะตั้งทีมชุดปฏิบัติการสืบสวน ตนจะเป็นผู้กำกับดูแล เมื่อได้ข้อมูลของคนแล้วก็สามารถตัดวงจรของกระบวนการได้
ผบ.ตร. ระบุว่า ทุกองค์กรมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ส่วนตำรวจที่ไม่ดีนั้น ขอยืนยันต่อสื่อมวลชนและทุกคนว่าหากปรากฏข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือผู้ใด จะดำเนินคดีเด็ดขาดและไม่มีการช่วยเหลืออย่างแน่นอน ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นเรื่องที่บั่นทอนความเป็นอยู่ของประชาชน
ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติถูกพายุโหมกระหน่ำ โจมตีเรื่องภาพลักษณ์ที่ถูกกล่าวหาจากบุคคลภายนอก ขอย้ำว่าจากบุคคลภายนอกที่กล่าวหาว่าตำรวจเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ในประเทศไทย ขีดเส้นใต้ "องค์กร" นั่นหมายความว่าเป็นการกล่าวหาตำรวจทั้งประเทศ และเป็นการกล่าวหาสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่รุนแรงมาก
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุอีกว่า รู้สึกเจ็บปวด แต่ต้องอดทนและตั้งสติ ซึ่งที่ผ่านมาก็ถูกโจมตีมาโดยตลอด แต่การกล่าวหาอย่างรุนแรงเช่นนี้เชื่อว่าตำรวจทั้งประเทศรับไม่ได้ ซึ่งก็ว่ากันไปตามกระบวนการของกฎหมาย แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้คำมั่นสัญญากับนายกฯ ว่าจะมุ่งมั่นทำงานและจะปฏิบัติตามบันทึกความเข้าใจนี้ให้บังเกิดผลตามนโยบายของรัฐบาล
อ่านข่าว
4 สมาคมตำรวจประณาม "สุรเชษฐ์-อัจฉริยะ" กล่าวหาองค์กร
"รมว.ยุติธรรม" ประสาน ตร.ภ.9-ผู้การฯ สงขลา ให้ข้อมูลปมนักการเมือง ช.
สส.ปชน.เรียกร้องตำรวจเร่งปราบปราม หลังพบต่างชาติสแกนคิวอาร์โค้ดซื้อยาเสพติด











