ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เวียดนามอ่วมฝน-ลมแรงหลังไต้ฝุ่น "คัลแมกี" พัดขึ้นฝั่ง

ต่างประเทศ
06:57
457
เวียดนามอ่วมฝน-ลมแรงหลังไต้ฝุ่น "คัลแมกี" พัดขึ้นฝั่ง
หลายพื้นที่ของเวียดนามเผชิญฝนตกหนัก-ลมกระโชกแรง สิ่งปลูกสร้างเสียหาย ต้นไม้หักโค่นจำนวนมาก หลังไต้ฝุ่น "คัลแมกี" พัดขึ้นฝั่ง ทางการเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม ขณะที่ฟิลิปปินส์ยอดผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 142 คน และสูญหายอีก 127 คน

สถานีโทรทัศน์เวียดนามรายงานว่า หลายพื้นที่ตอนกลางของประเทศเผชิญฝนตกหนักและลมกระโชกแรง ส่งผลให้สิ่งปลูกสร้างเสียหาย และต้นไม้จำนวนมากหักโค่น เนื่องจากอิทธิพลไต้ฝุ่นคัลแมกี ที่พัดขึ้นฝั่งเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (6 พ.ย. 2568) ตามเวลาท้องถิ่น โดยพายุมีความเร็วลมประมาณ 149 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และลมกระโชกแรงสูงกว่านี้มาก

ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขี่สกู๊ตเตอร์ท่ามกลางลมแรงก่อนที่พายุไต้ฝุ่นคัลแมกีจะพัดเข้ามา บนถนนใกล้ชายหาดกวีเญิน จังหวัดซาลาย ทางตอนกลางของเวียดนาม เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568

ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขี่สกู๊ตเตอร์ท่ามกลางลมแรงก่อนที่พายุไต้ฝุ่นคัลแมกีจะพัดเข้ามา บนถนนใกล้ชายหาดกวีเญิน จังหวัดซาลาย ทางตอนกลางของเวียดนาม เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568

ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขี่สกู๊ตเตอร์ท่ามกลางลมแรงก่อนที่พายุไต้ฝุ่นคัลแมกีจะพัดเข้ามา บนถนนใกล้ชายหาดกวีเญิน จังหวัดซาลาย ทางตอนกลางของเวียดนาม เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568

เวียดนามเผชิญสภาพอากาศเลวร้ายตั้งแต่ก่อนพายุพัดถล่มทั้งฝนตกหนักและทะเลมีคลื่นสูง ทางการเวียดนามเปิดเผยว่าได้อพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยแล้วมากกว่า 500,000 คน พร้อมทั้งส่งทหารมากกว่า 200,000 นาย ลงพื้นที่เพื่อเตรียมปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือและกู้ภัย

นอกจากนี้ยังประกาศปิดสนามบินแล้วอย่างน้อย 6 แห่ง กระทบต่อเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยว พร้อมสั่งเรือประมงงดออกจากฝั่งและขอให้สถานที่ก่อสร้างงดดำเนินการไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

เวียดนามเตือนเฝ้าระวังน้ำท่วม-ดินถล่มหลัง "คัลแมกี" ขึ้นฝั่ง

เวียดนามเผชิญสภาพอากาศเลวร้ายตั้งแต่ก่อนพายุจะเข้าถล่ม ทั้งฝนตกหนักและคลื่นทะเลสูง มีรายงานความเสียหายตามอาคารบ้านเรือนในหลายจังหวัด ต้นไม้หักโค่นกีดขวางถนนหลายสาย และประชาชนประมาณ 200,000 หลังคาเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้

หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาเวียดนามประกาศเตือนประชาชนในหลายร้อยชุมชนใน 7 เมืองและจังหวัดให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในช่วง 6 ชั่วโมงต่อจากนี้ และพายุอาจทำให้ทะเลจีนใต้มีคลื่นสูงถึง 8 เมตร

ด้านนายกรัฐมนตรีเวียดนาม จัดประชุมออนไลน์กับเจ้าหน้าที่เพื่อกำกับดูแลการรับมือกับเหตุฉุกเฉินต่างๆ โดยย้ำว่าเจ้าหน้าที่ต้องเข้าถึงพื้นที่ห่างไกล และผู้ประสบภัยจะต้องไม่ขาดแคลนอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น

ก่อนหน้าที่จะถูกพายุไต้ฝุ่นคัลแมกีพัดถล่ม เวียดนามต้องเผชิญกับความเสียหายจากน้ำท่วมและฝนที่ตกหนักเป็นประวัติการณ์มานานกว่า 1 สัปดาห์ ทำให้น้ำท่วมเป็นวงกว้าง และมีผู้เสียชีวิตไปไม่ต่ำกว่า 40 คน

ชาวเวียดนามหลายคนแสดงความกังวลว่าอิทธิพลของพายุคัลแมกีจะยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ โดยเฉพาะเกษตรกรที่กำลังรอน้ำลดเพื่อจะได้กลับไปเพาะปลูกได้อีกครั้ง

ล่าสุด พายุคัลแมกีเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ทางตอนใต้ของลาวแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้สำนักอุตุนิยมวิทยาลาวออกคำเตือนทั่วประเทศ หลังคาดว่าอิทธิพลพายุจะทำให้ฝนตกระดับปานกลางถึงหนัก และมีลมกระโชกแรง พร้อมทั้งเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม และน้ำในแม่น้ำที่อาจเพิ่มระดับสูงขึ้น

คนงานกำลังทำความสะอาดเศษกระจกที่โรงแรมใกล้ชายหาดกวีเญิน ขณะที่พายุไต้ฝุ่นคัลแมกีพัดขึ้นฝั่งที่จังหวัดยาลาย ทางตอนกลางของเวียดนาม เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568

คนงานกำลังทำความสะอาดเศษกระจกที่โรงแรมใกล้ชายหาดกวีเญิน ขณะที่พายุไต้ฝุ่นคัลแมกีพัดขึ้นฝั่งที่จังหวัดยาลาย ทางตอนกลางของเวียดนาม เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568

ฟิลิปปินส์เก็บกวาดเสียหายจากไต้ฝุ่น "คัลแมกี"

ส่วนที่ฟิลิปปินส์ ประชาชนใน จ.เซบู ทางตอนกลางของประเทศ ยังคงทยอยเข้าสำรวจความเสียหายและเก็บกวาดข้าวของที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยดินโคลน หลังจากพื้นที่ดังกล่าวเผชิญกับน้ำท่วมอย่างหนัก หลังถูกพายุคัลแมกีพัดถล่มก่อนหน้านี้

ทางการฟิลิปปินส์เปิดเผยว่ายอดผู้เสียชีวิตจากพายุลูกนี้พุ่งสูงเป็นอย่างน้อย 142 คน และยังคงมีผู้สูญหายอีกอย่างน้อย 127 คน ส่งผลให้พายุลูกนี้กลายเป็นพายุไต้ฝุ่นที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดของปีนี้ โดยประชาชนอีกมากกว่า 500,000 คนยังไร้ที่อยู่อาศัย ขณะที่สื่อฟิลิปปินส์รายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อย่างน้อย 150 คน

ชาวบ้านเดินไปตามถนนที่ปกคลุมไปด้วยโคลนหลังพายุไต้ฝุ่นคัลแมกี ในเมืองลิโลอัน จังหวัดเซบู เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ขณะที่ ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุ ในภาคกลางของฟิลิปปินส์ พุ่งสูงกว่า 100 คน

ชาวบ้านเดินไปตามถนนที่ปกคลุมไปด้วยโคลนหลังพายุไต้ฝุ่นคัลแมกี ในเมืองลิโลอัน จังหวัดเซบู เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ขณะที่ ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุ ในภาคกลางของฟิลิปปินส์ พุ่งสูงกว่า 100 คน

ชาวบ้านเดินไปตามถนนที่ปกคลุมไปด้วยโคลนหลังพายุไต้ฝุ่นคัลแมกี ในเมืองลิโลอัน จังหวัดเซบู เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ขณะที่ ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุ ในภาคกลางของฟิลิปปินส์ พุ่งสูงกว่า 100 คน

ด้านเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ประกาศภาวะภัยพิบัติแห่งชาติ ซึ่งจะเปิดทางให้รัฐบาลจัดสรรเงินทุนเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยและกำหนดเพดานราคาสำหรับสิ่งของจำเป็นพื้นฐานได้ หลังจากพายุลูกนี้สร้างความเสียหายอย่างหนักเป็นวงกว้าง

นอกเหนือจากพายุไต้ฝุ่นคัลแมกีแล้ว ฟิลิปปินส์ยังคงต้องเตรียมรับมือกับพายุโซนร้อนฟงวองที่กำลังเคลื่อนตัวอยู่นอกชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศประมาณ 1,500 กิโลเมตร และคาดว่าจะพัดถล่มเกาะลูซอน ในวันจันทร์ที่ 10 พ.ย.นี้

กรมอุตุฯ เตือน ฉบับที่ 10 ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย

ขณะที่ ประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนฉบับที่ 10 โดยระบุ เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันนี้ (6 พ.ย. 68) พายุไต้ฝุ่น "คัลแมกี" บริเวณเมืองยาลาย ประเทศเวียดนามโดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 350 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ของ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี หรือที่ละติจูด 14.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.5 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชันเคลื่อนผ่านประเทศลาว โดยจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ (7 พ.ย .68) ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ

จากอิทธิพลของพายุคัลแมกีส่งผลให้ในช่วงวันที่ 7–9 พ.ย. 68 ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยจะเริ่มจากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตามลำดับ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 6–7 พ.ย. 68

อ่านข่าว : สภาพอากาศวันนี้ อิทธิพลไต้ฝุ่น "คัลแมกี" เตือนหลายจังหวัดฝนตกหนัก

"เอกนิติ" เผยนายกฯ สั่งศึกษา "คนละครึ่งพลัส เฟส​ 2"

สองแถว “ขนฝัน” พาทีมบอลภูธร “หมอนทองวิทยา สู้ศึก อัสสัมชัญ”