ความเคลื่อนไหวกดดันจาก สส.พรรคประชาชน ให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ ปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจาก ครม. ระบุว่า เป็นสายล่อฟ้า
แต่ไม่มีทีท่าจะตอบสนองจากนายอนุทิน ล่าสุด ได้ตอกย้ำกับนักข่าวในเวที “เดอะ สแตนดาร์ด อีโคโนมิก ฟอรัม” ที่ถามว่ากังวลหรือไม่ โดยให้คำตอบว่า ทุกพรรคต่างมีสายล่อฟ้า
เป็นการแสดงออกของหัวหน้าคณะรัฐบาลที่ปกป้องลูกน้องเต็มที่ และไม่เพียง ร.อ.ธรรมนัส เท่านั้น ยังรวมถึงเรื่อง ครม. เห็นชอบให้นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ เป็นข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกฯ ตามข้อเสนอของสำนักเลขาธิการนายกฯ
นายธนดลเป็นคนใกล้ชิด ร.อ.ธรรมนัส ก่อนหน้านี้ ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบผู้ได้รับจัดสรรที่ดิน สปก.โดยมิชอบ
เป็นคนเดียวกับเคยเคลื่อนไหวจะตรวจสอบที่ดินสนามกอล์ฟ แรนโช ชาญวีร์ ซึ่งถูกระบุว่าเป็นของคนในตระกูลชาญวีรกูล เมื่อต้นเดือน ก.พ.68
ทั้งสร้างความฮือฮาพาเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้าตรวจสอบที่ดิน สปก. ที่ถูกพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีรีสอร์ท และคาเฟ่หรู ที่มวกเหล็ก ปากช่อง นครราชสีมา ทั้งระบุว่า มีเจ้าหน้าที่และราชการเกี่ยวข้องกับการถือครอง และขายที่ดินให้กับคนที่ไม่มีสิทธิ์ได้รับจัดสรร
ที่สำคัญ ยังเปิดประเด็น มี “หวานใจ” ระดับอดีตรองนายกฯ มีเส้นเงินเอี่ยวรีสอร์ทหรูรุกที่ดิน สปก. จนเป็นเรื่องใหญ่บนหน้าสื่อหลายวัน
ก่อนจะจบลงเมื่อมีคำสั่งรัฐมนตรีเกษตรฯ เบรกการตรวจสอบรีสอร์ทดังกล่าว ด้วยเหตุผล เกรงจะถูกโยงเป็นเรื่องการเมืองทำให้เรื่องดังกล่าวเงียบไปกระทั่งทุกวันนี้
การแสดงท่าทีปกป้อง ร.อ.ธรรมนัส สะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์และการให้ความสำคัญกับ ร.อ.ธรรมนัส เห็นได้จากการเชื้อเชิญไปกินอาหารกลางวันที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนจะปิดห้องคุยกัน 2 คน
พร้อมๆ กับมีเผยแพร่ภาพ ร.อ.ธรรมนัส ก้มกราบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดาของนายกฯ ที่ห้องทำงานนายกฯ หลังเดินทางไปที่ทำเนียบ
ความจริง ทั้งนายอนุทินและ ร.อ.ธรรมนัส ต่างทำงานในรัฐบาลเดียวกันมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ต่อเนื่องรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือแม้แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร.อ.ธรรมนัส ก็เคยนั่งอยู่ใน ครม.พักหนึ่ง ในตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ
แม้คอการเมืองส่วนหนึ่ง อาจมองว่า ทั้งคู่จะต้องได้ต่อสู้กันอย่างเข้มข้น ในฐานะคู่แข่งสำคัญในสนามเลือกตั้ง สส.ครั้งหน้าด้วย นอกเหนือจากแข่งกับพรรคประชาชน และพรรคเพื่อไทย
แต่อาจเป็นเพียงฉากหนึ่งที่จะได้เห็นบนเวทีการเมือง เพราะในอีกฉากหนึ่ง แม้จะห้ำหั่นระหว่างผู้สมัครของพรรคในสนามเลือกตั้ง แต่ระดับผู้นำพรรค อาจประสานเจรจาจับมือ หรือมีสัญญาใจ ตกลงเป็นพันธมิตรร่วมตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น ก็เป็นได้
เพราะนักการเมืองส่วนใหญ่ ต่างถือคติ “เพาะมิตร ไม่บ่มศัตรู” ด้วยเชื่อว่าวันหนึ่ง อาจได้พึ่งพาหรือทำงานร่วมกัน นายอนุทิน กับ ร.อ.ธรรมนัส ก็ไม่มีข้อยกเว้น
เป็นเรื่องสัจธรรมการเมือง ไม่ต่างจากคำสุภาษิตที่ว่า “ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร” ทางการเมือง
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว :
เปิดตัวล็อต 3 ผู้ประสงค์สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย 31 คน
"นายกฯ อนุทิน" ไม่มีแผนการตายตัว ยุบสภาฯ
"รังสิมันต์" แนะ "อนุทิน" คิดให้ดี หากชิงยุบสภาฯหนี "ซักฟอก"